In Short
Advice
เพราะการซื้อไม่ได้มีแค่ค่าห้องเท่านั้น จะมีอะไรมาดูเลย!
PropertyScout เซย์ไฮค่า! ไหนใครอยากซื้อคอนโดบ้างยกมือ! 🙌 ห้องสวย ๆ ที่เป็นของเราเอง ไม่ต้องจ่ายเงินค่าเช่า แถมได้กรรมสิทธิ์ด้วย ดีสุด ๆ ไปเลย! แต่.. รุ้ไหมแล้วว่า จริง ๆ แล้วนั้น รู้หรือไม่ว่า การซื้อคอนโดหนึ่งห้องนั้นจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากค่าห้องนะ แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายจุกจิก ไม่เยอะ แต่ก็สำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้น ใครที่จะซื้อคอนโดต้องอ่านดี ๆ นะ!

ค่าใช้จ่ายครั้งเดียวจบ (One Time Payment)
ค่าใช้จ่ายอันนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายแค่ครั้งเดียวในตอนซื้อครั้งแรกแล้วก็จบ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเพิ่มอีก ไม่จำเป็นต้องจ่ายในทุก ๆ เดือนนั่นเอง
ค่าทำสัญญา และเงินจอง
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ นับเป็นค่าใช้จ่ายแรก ๆ ที่เราจำเป็นต้องเตรียมไว้ เพราะเมื่อเราหาห้องที่ถูกใจเจอ หรือการันตีได้ว่าห้องนี้เป็นของเราแล้วนั้น เราจะต้องทำการจองเพื่อทำการยืนยันว่า ห้องนี้เป็นของเรานะ! และเป็นการยืนยันกับทางคอนโดว่าเราไม่ได้มาแค่พูดเปล่า ๆ แล้วหายไป

ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งค่าทำสัญญา และเงินจองนั้น จะเป็น 2 ส่วน ที่จะขึ้นอยู่กับทางโครงการโดยเฉพาะ โดยที่ทางคอนโดเป็นคนกำหนด ซึ่งทางเราแนะนำว่า ให้เตรียมเงินไว้ราว ๆ 10,000 บาทขึ้นไปนะ
เงินวันโอน
เป็นอีกก่อนนึงที่จำเป็นต้องเตรียมมาชำระก่อนที่จะย้ายเข้ามาในคอนโดนั้น ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในวันโอนนั้น อาจจะต้องแบ่งเป็นหลายก้อน ซึ่งประกอบไปด้วย

- ค่าโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมินโครงการ
ค่าธรรมเนียมส่วนนี้ ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถเลือก ทำสัญญา และตกลงกันได้ว่าใครจะเป็นผู้จ่าย โดยส่วนใหญ่ มักจะตกลงจ่ายกันแบบ 50 : 50, ผู้ขายเป็นผู้จ่ายคนเดียวนั่นเอง เนื่องด้วยต้องจ่ายกับกรมที่ดินและในตอนนั้นเราอาจจะยังเป็นเจ้าของอยู่นั่นเอง
จ่ายให้กับกรมที่ดิน
- ค่าจำนอง 1% ของมูลค่าคอนโด
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ เราจะจ่ายเมื่อ กรณีที่เรากู้เงินกับธนาคารเพื่อซื้อคอนโด ฯ
จ่ายให้กับกรมที่ดิน
- ค่าอากรแสตมป์อีกประมาณ 0.05 - 0.5% ของราคาซื้อขาย
ในส่วนนี้ ธนาคารจะเรียกเก็บจากผู้กู้ จากนั้นจะนำไปจ่ายให้กับกรมสรรพากร
จ่ายให้กับธนาคาร
แต่ทว่าในปัจจุบันนั้น รัฐก็ได้ออกมาตรการและนโยบายลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้มาแล้ว อีกทั้งเมื่อขายคอนโดไม่ว่าจะเป็น Pre-Sale หรือ Ready to move ก็จะมีการแจกโปรโมชั่นลดค่าใช้จ่ายด้วยนั่นเอง
ค่าใช้จ่ายคงที่ (Fixed Cost)
ค่าใช้จ่ายคงที่ (Fixed Cost) - คือค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน หรือเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่ว่าจะใช้มากหรือน้อยก็ต้องจ่ายเท่าเดิมนั่นเอง
เงินดาวน์
เงินดาวน์คอนโด หมายถึง เงินที่ผู้ซื้อจะต้องทำการชำระล่วงหน้า(บางส่วน) เพื่อเป็นการแสดงตัวหรือยืนยันตัวตนว่าเราตัดสินใจที่จะซื้อคอนโดนั้น โดยส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเงินเป็น เปอร์เซ็นต์(%) ของราคาคอนโดที่เราซื้อ โดยส่วนใหญ่นั้น ราคาวางเงินดาวน์ของคอนโดจะอยู่ราว ๆ ที่ 10-15 % นั่นเอง
เงินก้อนนี้เป็นหนึ่งในเงินก้อนแรก ๆ ที่เราควรเตรียมนั่นเอง

ค่าผ่อนรายเดือน
เมื่อเสร็จสิ้นค่าสัญญา และการโอนจองทุกอย่างแล้วนั้น อีกค่าใช้จ่ายที่ต้องมีในทุก ๆ เดือนหรือเป็นอีกรายจ่ายหลักในหลาย ๆ เดือน นั่นก็คือ “ค่าผ่อน” โดยที่จำนวนเงินที่จ่ายนั้น จะขึ้นอยู่กับราคาคอนโดและจำนวนระยะเวลาที่เราสามารถผ่อนได้
ส่วนใหญ่นั้น ค่าผ่อนจะขึ้นอยู่กับระยะเวลา ยิ่งมีระยะเวลาในการผ่อนมาก ราคาที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนก็จะลดลง และการดูระยะเวลาการผ่อนนั้น สามารถดูได้จากอายุงานของเรานั้นเอง ยิ่งมีเวลามากก่อนที่จะเกษียณเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีระยะเวลาในการผ่อนมากขึ้นเท่านั้นเอง

Fun Fact!
ความต่างที่เหมือนกันกับของ "ค่าผ่อน" และ “ค่าเช่า” ก็คือ ทั้งสองนั้นเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เราต้องจ่ายตามกำหนด ในราคาที่เหมือนกันในทุก ๆ เดือน เพียงแต่ว่า หากเราซื้อ เราก็จะได้กรรมสิทธิ์ในห้องนั้น ต่างกับค่าเช่า ที่เราจะจ่ายเขาไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีสิทธิ์ในห้องนั้นนั่นเอง
ค่าส่วนกลาง
ค่าส่วนกลางนั้น จะคิดเป็นราคาต่อตารางเมตร นั่นหมายความว่า ยิ่งคอนโดนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเท่าไหร่ ค่าส่วนกลาง ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม สระว่ายน้ำ ห้องสมุด ฟิตเนส หรือสวนหย่อม ทุกอย่างนั้นล้วนนับเข้าสู่ค่าส่วนกลางทั้งหมด

ส่วนใหญ่ค่าส่วนกลางนั้นจะเก็บเป็นรายปี เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บ ซึ่งในบางคอนโดนั้น อาจจะมีโปรโมชั่นฟรีค่าส่วนกลาง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้เป็นในทุกคอนโด ดังนั้น การเตรียมตัวไว้ก่อนก็เป็นเรื่องที่ดี
คำนวณ!
ราคาของตารางเมตรในส่วนกลาง * ตร.ม. ของห้อง * 12 เดือน = ราคาที่ต้องจ่ายต่อปี |
ค่าใช้จ่ายผันแปร (Variable Cost)
ค่าใช้จ่ายผันแปร (Variable Cost) นั้น จะเป็นค่าใช้จ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเดือน ซึ่งจะมากจะน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับการคำนวณและการใช้งานของเรานั้นเอง เรียกได้ว่า ยิ่งใช้เยอะก็ยิ่งเพิ่มขึ้น นั่นเอง
ค่าน้ำ ค่าไฟ

อีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายในทุก ๆ เดือน โดยปริมาณการจ่ายนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนการใช้งาน เราสามารถคำนวณได้โดยการที่ค่าไฟนั้น อาจจะดูราคาต่อหน่วยว่าที่นี่กำหนดเท่าไหร่ ส่วนค่าน้ำ บางที่ก็คิดเป็นหน่วย บางทีก็คิดเหมา ดังนั้นก่อนซื้อคอนโด เราแนะนำให้ศึกษาตรงนี้เพื่อดูเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยนะ
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

เวลาที่เราอยู่คอนโด เราก็คงไม่ได้แค่นอนเฉย ๆ ดังนั้น จึงมีเรื่องปัจจัยค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมาด้วยนอกจากค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าอินเตอร์เน็ต ค่าสมาชิกแอปพลิเคชั่น หรืออาจจะเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ ที่เราต้องคำนวณในแต่ละเดือนให้เหมาะสมนั่นเอง
ค่าซ่อม / ตกแต่ง

อย่างที่ได้บอกไปในบทความก่อน ๆ ไม่ใช่ทุกคอนโดที่จะขายห้องพร้อมฟรีเฟอร์นิเจอร์ ฟรีแอร์ แบบพร้อมอยู่ ดังนั้น ในบางกรณีที่เราต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือซื้อของมาเพิ่มนั้น อาจจะเป็นค่าใช้จ่ายที่หนักมาก ๆ ในช่วงที่เรากำลังอยู่นั่นเอง หรือบางทีเราอาจจะมีอยากตกแต่งเพิ่ม ต่อเติมห้องก็ตาม
หรือหากเราซื้อคอนโดพร้อมอยู่ ที่พร้อมเฟอร์นิเจอร์นั้น ก็ต้องบอกว่า แม้เราจะไม่ต้องเสียเงินซื้อของเอง แต่บางทีเราอาจจะเสียค่าใช้จ่ายไปกับการซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน
ดังนั้น ถ้ารู้ว่าต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์ ทางเราแนะนำให้เก็บเงินก้อนนี้ไว้ประมาณนึงเลยดีกว่านะ!
สรุปส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้าง จะเห็นได้เลยว่า การซื้อคอนโดหนึ่งห้องนั้น ก็มีค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเลยทีเดียว แม้จะเป็นค่าใช้จ่ายยิบย่อย แต่การที่เรารู้ไว้ก่อนว่าเราต้องชำระอะไรตอนไหน ช่วงไหน และต้องชำระเยอะน้อยขนาดไหนนั้น จะทำให้เราสามารถเก็บเงินและจัดการการใช้จ่ายของเราได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
ทางเราหวังว่า ข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่น้อยเลย ถ้าอยากได้บล็อคอะไรเพิ่มเติม หรืออยากรู้อะไรใหม่ ๆ สามารถพิมพ์มาบอกเราได้เลยนะ! ยังไงวันนี้เราขอตัวลาไปก่อน เจอกันในบล็อคหน้านะคะ
แต่สำหรับใครที่อยากมีผู้ช่วยที่เก่งและเชี่ยวชาญ ที่สามารถช่วยดูเรื่องเอกสารและขั้นตอนต่าง ๆ ในการซื้อคอนโดหนึ่งห้อง สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ PropertyScout ได้เลย!
FAQs
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique.
Explore More Topics
Free real estate resources and tips on how to capitalise