In Short
Advice
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดไม่ไหว แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้บ้านถูกยึดประนีประนอมแบบไหนแบงค์ถึงจะยอมนะ?
ถึงแม้ว่าสถานการณ์ที่กำลังเจอจะดูตึงเครียด มืดมน ไร้หนทาง แต่หากว่าเรารีบประเมินสถานการณ์และความสามารถทางการเงินของตนเองทันที แล้วเตรียมพร้อมเจรจาขอประนีประนอมหนี้กับธนาคาร ก็ยังมีโอกาสที่จะแก้ไขสถานการณ์ก่อนที่เราจะติดเครดิตบูโรครับ ในคราวนี้ PropertyScout Blog จะพาทุกคนมาดูกันว่าถ้าผ่อนบ้านไม่ไหว จะมีวิธีประนีประนอมกับแบงค์แบบไหนบ้าง แต่ละวิธีเหมาะกับผู้กู้แบบไหน และสถานการณ์แบบไหนบ้าง มาดูกันครับ

การประนีประนอมหนี้คืออะไร?
อย่างแรกต้องขออธิบายถึงความหมายของ การประนอมหนี้ ก่อนครับ การประนอมหนี้คือการที่เราขอเข้าไปเจรจาข้อตกลงเรื่องหนี้สินกับผู้ที่เป็นเจ้าหนี้ เช่น ขอลดหย่อน ผ่อนผัน หรือปรับเปลี่ยนข้อตกลง โดยมีจุดประสงค์หลักคือการช่วยชะลอ หรือหยุดการดำเนินการของเจ้าหนี้ จากการที่เราผิดนัดชำระหนี้ เช่น ฟ้องร้องและยึดทรัพย์สิน
ในกรณีของการช่วยชะลอการดำเนินการของเจ้าหนี้ อาจจะเป็นรูปแบบของการลดภาระในการชำระหนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ลูกหนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงิน ผ่อนบ้านหรือผ่อนคอนโดไม่ไหว

เมื่อผ่อนบ้านไม่ไหว จะประนีประนอมหนี้อย่างไร?
ขอเพิ่มระยะเวลาในการชำระหนี้
วิธีนี้จะช่วยให้ยอดค่าผ่อนชำระต่อเดือนลดลง แต่ผู้กู้จะขอเพิ่มระยะเวลาในการชำระหนี้ได้จนอายุไม่เกิน 70 ปี เท่านั้น
สถานการณ์ที่เหมาะกับการขอขอเพิ่มระยะเวลาในการชำระหนี้
- ผู้กู้มีรายได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายสูงขึ้น
- ผู้กู้ยังมีรายได้เป็นประจำทุกเดือน แต่มีเหตุ หรือสถานการณ์ที่ทำให้ให้รายได้ต่อเดือนลดลง
การขอเพิ่มระยะเวลาในการชำระหนี้เหมาะกับผู้กู้ที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
- สัญญากู้ในปัจจุบันมีระยะเวลากู้ไม่ถึง 30 ปี
- ผู้กู้ยังมีอายุน้อยหรือ ยังมีเวลาอีกหลายปีกว่าจะอายุถึง 70 ปี
- มีรายได้ต่อเดือนเป็นประจำ เช่น เงินปันผลรายเดือน หรือ เงินเดือนจากการทำงานประจำ

ขอชำระค่าผ่อนบ้านต่ำกว่าปรกติ
วิธีประนีประนอมหนี้ จะนำไปใช้ได้ก็ต่อเมื่อจำนวนยอดผ่อนชำระต่อเดือนนั้นสูงกว่ายอดดอกเบี้ยต่อเดือนอย่างน้อย 500 บาท ซึ่งผู้กู้สามารถขอประนอมหนี้ได้เพียงครั้งเดียว และระยะเวลาในการชำระค่าผ่อนที่ต่ำกว่าปกตินั้นต้องไม่นานเกิน 2 ปี
สถานการณ์ที่เหมาะกับการขอชำระค่าผ่อนบ้านต่ำกว่าปกติ :
- ผู้กู้มีรายได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายสูงขึ้น
- ผู้กู้ยังมีรายได้เป็นประจำทุกเดือน แต่มีเหตุ หรือสถานการณ์ที่ทำให้ให้รายได้ต่อเดือนลดลง
การขอชำระค่าผ่อนบ้านต่ำกว่าปกติเหมาะกับผู้กู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้ :
- ประวัติการชำระค่าผ่อนบ้านดี มีวินัย
- มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถจัดการกับรายจ่ายต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการผ่อนบ้านในจำนวนเดิมได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

ขอลดอัตราดอกเบี้ย
การขอลดอัตราดอกเบี้ย มักเป็นไปได้กับกรณีที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงกว่าเมื่อครั้งแรกที่กู้ ส่วนในกรณีอื่นธนาคารอาจจะให้เราชำระเป็นเงินก้อน ซึ่งสูงกว่าค่าผ่อนต่อเดือน หรือให้ชำระหนี้ทั้งหมดภายในครั้งเดียวครับ
สถานการณ์ที่เหมาะกับการขอลดดอกเบี้ย :
- ผู้กู้มีรายได้เท่าเดิมแต่รายจ่ายสูงขึ้น
- ผู้กู้ยังมีรายได้เป็นประจำทุกเดือน แต่มีเหตุ หรือสถานการณ์ที่ทำให้ให้รายได้ต่อเดือนลดลง
การขอลดดอกเบี้ยเหมาะกับผู้กู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้ :
- ประวัติการชำระค่าผ่อนบ้านดี มีวินัย
- ธนาคารจะประเมินความเป็นไปได้ที่ผู้กู้จะมีรายได้สูงพอ สำหรับกรณีที่ต้องชำระเงินก้อนตามเงื่อนไขของธนาคาร

สำหรับกรณีที่ต้องชำระเงินก้อนตามเงื่อนไขของธนาคาร
ผ่อนผันการค้างชำระ
การขอผ่อนผันการค้างชำระ เป็นวิธีที่จะช่วยให้เวลากับผู้กู้ในการแก้ไข หรือจัดการปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้น แต่การขอผ่อนผันจะต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 36 เดือน จากนั้นก็จะต้องเริ่มชำระเงินที่ค้างไว้ ซึ่งมีทางเลือกอยู่ทั้งหมด 3 วิธีดังนี้ครับ
1. ขอชำระเงินคงค้างทั้งหมดภายในระยะเวลาหนึ่ง
สถานการณ์ที่เหมาะกับการขอชำระเงินคงค้างทั้งหมดภายในระยะเวลาหนึ่ง
- จำนวนเงินค้างชำระต่ำ หรือไม่สูงมากนัก
- ผู้กู้ขาดรายได้ชั่วคราว หรือมีรายได้ต่อเดือนที่ไม่พอกับการจ่ายค่าผ่อนบ้าน
- ผู้กู้มีรายได้ประจำเท่าเดิมหรือใกล้เคียง แต่มีรายจ่ายสูงอย่างต่อเนื่องจนไม่สามารถชำระค่าผ่อนได้
การขอชำระเงินคงค้างทั้งหมดภายในระยะเวลาหนึ่งเหมาะกับผู้กู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้
- มีความเป็นไปได้ที่จะมีรายได้สูงภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจจะเป็นรายได้จากการขายหุ้น ได้รับโบนัส หรือรายได้จากการขายสินทรัพย์อย่างบ้าน คอนโด ที่ดิน รถ ที่มีมูลค่าสูงเป็นต้น
- มีความเป็นไปได้ที่จะจัดการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ (ซึ่งส่งผลกระทบให้ไม่สามารถชำระค่าผ่อนบ้าน) ได้ระหว่างช่วงเวลาผ่อนผันการชำระค่าผ่อน และสามารถหารายได้มาชำระหนี้คงค้างได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
2. ขอชำระเป็นเงินก้อนเล็กทุกเดือน
สถานการณ์ที่เหมาะกับการขอชำระเป็นเงินก้อนเล็กทุกเดือน
- ผู้กู้ขาดรายได้ หรือมีรายได้ไม่คงที่ ซึ่งส่งผลให้มีเงินไม่เพียงพอกับค่าผ่อนในแต่ละเดือน
- มีรายได้ประจำเท่าเดิมหรือใกล้เคียงเดิม แต่มีรายจ่ายสูงอย่างต่อเนื่องจนไม่อาจชำระค่าผ่อนได้
การขอชำระเป็นเงินก้อนเล็กทุกเดือนเหมาะกับผู้กู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้
- มีความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขสถานการณ์ขาดรายได้ หรือรายได้ไม่พอรายจ่าย ภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น หางานประจำทำ หรือสร้างอาชีพให้มีรายได้มั่นคงต่อเดือน
3. ขอชำระเป็นเงินก้อนโดยการแบ่งเป็นงวด ๆ
สถานการณ์ที่เหมาะกับการขอชำระเป็นเงินก้อนโดยการแบ่งเป็นงวด
- ผู้กู้ขาดรายได้ชั่วคราว
- ผู้กู้มีรายได้ต่อเดือนไม่คงที่
- ผู้กู้มีรายได้เป็นประจำ แต่มีรายจ่ายสูงชั่วคราว
การขอชำระเป็นเงินก้อนโดยการแบ่งเป็นงวดเหมาะกับผู้กู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้
- มีโอกาสที่จะมีรายได้จำนวนมากเป็นครั้งคราว หรือมีรายได้พิเศษสูง
- มีความเป็นไปได้ที่จะจัดการชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ (ซึ่งส่งผลกระทบให้ไม่สามารถชำระค่าผ่อนบ้าน) ได้ระหว่างช่วงเวลาผ่อนผันการชำระค่าผ่อน และสามารถหารายได้มาชำระหนี้คงค้างได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

แต่การขอผ่อนผันจะต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 36 เดือน
โอนหลักทรัพย์เป็นของธนาคารชั่วคราวและต้องซื้อคืนเมื่อถึงเวลา
การโอนหลักทรัพย์เป็นของธนาคารชั่วคราวและซื้อคืน เป็นการประนีประนอมหนี้ที่คล้ายกับ การขายฝาก แล้วเช่าบ้านตัวเองอยู่ โดยส่วนใหญ่มักจะทำสัญญาเช่าแบบรายปี และ ค่าเช่าหลักทรัพย์จะคิดอยู่ที่ 0.4-0.6% ของมูลค่าหลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม หากผู้กู้มีหนี้สูงกว่าราคาประเมินของหลักทรัพย์ ก็จะต้องชำระส่วนต่างภายในวันโอนครับ
สถานการณ์ที่เหมาะกับวิธีโอนหลักทรัพย์เป็นของธนาคารชั่วคราวและซื้อคืน
- เมื่อผู้กู้ขาดรายได้และมีแนวโน้มว่าไม่สามารถกลับมามีรายได้ภายใน 1 ปี หรือมีรายได้ไม่คงที่ต่อเดือน และมีรายจ่ายสูงอย่างต่อเนื่องมานานเกิน 1 ปี
วิธีโอนหลักทรัพย์เป็นของธนาคารชั่วคราวและซื้อคืน เหมาะกับผู้กู้ที่มีคุณสมบัติดังนี้
- มีความสามารถจ่ายค่าเช่าต่อเดือนแก่ธนาคารได้
- มีเงินมากพอที่จะชำระส่วนต่างระหว่างหนี้และราคาประเมินหลักทรัพย์
- มีความเป็นไปได้ที่จะมีรายได้สูงภายในระยะเวลาที่กำหนด อาจจะเป็นรายได้จากการขายหุ้น ได้รับโบนัส หรือรายได้จากการขายสินทรัพย์อย่างบ้าน คอนโด ที่ดิน รถ ที่มีมูลค่าสูงเป็นต้น

สรุปส่งท้าย : ผ่อนจ่ายไม่ไหว ประนีประนอมกับแบงค์ยังไงดี
ทาง PropertyScout Blog ขอแนะนำให้ผู้กู้ทุกคนพิจารณาเลือกใช้วิธีประนีประนอมหนี้ธนาคารที่ตัวเองสามารถทำได้จริง เพราะหากเลือกวิธีประนีประนอมไปแล้วเกิดจ่ายไม่ไหวก็จะทำให้บ้านหรือคอนโดของเรามีโอกาสถูกยึด และทำให้เรา ติดเครดิตบูโร ได้ครับ
และสำหรับการประนีประนอมนั้น หากเริ่มได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็ยิ่งเป็นผลดีกับเรา เพราะประวัติการผ่อนชำระยังไม่เสียหายทำให้เราเจรจากับธนาคารได้ง่าย และโอกาสในการได้รับประโยชน์ก็จะมากกว่าด้วยครับ หากถ้าปล่อยไว้เนิ่นนาน ค้างชำระหลายงวด ก็จะทำให้สถานการณ์บานปลายไปถึงจุดที่ธนาคารยื่นฟ้องร้อง เราก็จะต้องมาเสียเวลาและเสียเงินทำเรื่องต่าง ๆ ทางกฎหมายอีกมากมายครับ
อ่านบทความ รีวิวโครงการ หรืออัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog ใครที่มีคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ ซื้อ เช่า ขาย ปล่อยเช่า สามารถติดต่อ PropertyScout ได้เลย ทีมงานของเราพร้อมให้บริการและตอบทุกข้อสงสัย
FAQs
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique.
Explore More Topics
Free real estate resources and tips on how to capitalise