แจกทิปส์ ‘สีกับการแต่งบ้าน’ เลือกให้ถูก รับรองเลิฟชัวร์!

Author
by
At
มีนาคม 27, 2023
เทียบสีให้ชัดก่อนเลือก เทียบสีให้ชัดก่อนเลือก

พร้อมอธิบายความหมายและจิตวิทยาของสี

สวัสดีค่า เวลาที่เราซื้อบ้านหรือคอนโดเป็นของเราเองแล้ว เราก็อยากจะปรับห้องให้เป็นสไตล์เรา โดยเฉพาะกับส่วนของสี ที่นับได้ว่ามีความสำคัญในการทำบ้านไม่แพ้กับส่วนอื่น ๆ เลย ตั้งแต่การเริ่มเลือกโทนสีโดยรวมของห้อง โทนสีของผนังและพื้น ไปจนถึงโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ทุกจุดในห้องที่จะมีความสันพันธ์กันเสมอค่ะ

ดังนั้น PropertyScout จะขอแนะนำทิปส์เล็ก ๆ ง่าย ๆ เรื่องของ สีกับการแต่งบ้าน นะคะ เพราะว่าเรื่องสีนั้นไม่ได้ส่งผลแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีผลกับเรื่องของจิตวิทยาและความรู้สึกผ่านทฤษฎีสีด้วย

แจกทิปส์ 'สีกับการแต่งบ้าน' เลือกให้ถูก รับรองเลิฟชัวร์!
แจกทิปส์ 'สีกับการแต่งบ้าน' เลือกให้ถูก รับรองเลิฟชัวร์!

ชวนคุยเรื่องสีพื้นฐาน

ก่อนที่เราจะไปดูว่าสีไหนเหมาะหรือไม่เหมาะ เราจะมาดูกันถึงเรื่องของพื้นฐานก่อนเลยนะคะ ซึ่งก็คงจะไม่พ้นเรื่องของทฤษฎีสี การผสมสี ไปจนถึงเรื่องของอิทธิพลและจิตวิทยาของสี ซึ่งการที่เรารู้นั้นจะทำให้เรารู้สีที่เหมาะกับตัวเองนั่นเองค่ะ

สีกับการแต่งบ้าน
ชวนคุยเรื่องสีพื้นฐาน

สีและทฤษฎีสี

เรื่องแรกนั้นจะเป็นเรื่องของสีและทฤษฎีสีค่ะ ในส่วนของทฤษฎีสีหรือ Color of Theory นั้นจะหมายถึงทฤษฎีของแม่สีที่เป็นต้นกำเนิดของสีต่าง ๆ ค่ะ ซึ่งแม่สีจะประกอบไปด้วย แดง น้ำเงิน และเหลือง โดยการผสมต่าง ๆ นั้นจะทำให้เกิดวงล้อสี (Color Wheels) ขึ้นมา ซึ่งตัววงล้อนั้นจะแบ่งเป็นสีสองโทน ได้แก่ โทนร้อน และสีโทนเย็น นอกจากนี้ถ้าหากผสมไปเรื่อย ๆ ก็จะเกิดสีอื่น ๆ ได้อย่างไม่รู้จบเลยค่ะ

สีและทฤษฎีสี
สีและทฤษฎีสี

อิทธิพลสีกับอารมณ์

รู้หรือไม่ว่าสีต่าง ๆ นั้นก็มีผลต่ออารมณ์ของเรานะคะ เพราะจากการศึกษาค้นพบว่าสีนั้นเอฟเฟคต่อความรู้สึกเรา สามารถดูได้ง่าย ๆ เลยนั่นก็คือเวลาที่เราไปสวนสาธารณะ เราจะรู้สึกผ่อนคลาย เพราะเราได้เห็นสีเขียวเยอะ ๆ นั่นเอง ดังนั้น สีต่าง ๆ จึงส่งผลต่อความรู้สึกของเราค่ะ ยิ่งมีสีนั้นเยอะเท่าไหร่ เราจะรู้สึกไปกับมันมากเท่านั้น และสายตาเราจะโฟกัสกับสีที่เยอะมากกว่านั่นเอง

อิทธิพลสีกับอารมณ์
อิทธิพลสีกับอารมณ์

จิตวิทยาของสีกับการแต่งบ้าน

จิตวิทยาของสีจะมีผลต่อการรับรู้ต่อจิตใจของมนุษย์ ดังนั้นจิตวิทยาของสีจึงได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับหลาย ๆ อย่างในปัจจุบันค่ะ ซึ่งตัวสีนั้นจะแบ่งเป็นสีโทนร้อนและโทนเย็นตามที่ได้กล่างไปก่อนหน้า โดยที่เราจะยกตัวอย่างอิทธิพลสีต่ออารมณ์มาคร่าว ๆ ดังนี้นะคะ

สีโทนร้อน

  • สีแดง
สีแดง
สีแดง

เป็นสีที่ดึงความสนใจได้มากที่สุดเพราะมีความโดดเด่น สะดุดตา อีกทั้งยังสร้างความตื่นเต้น ความอิมแพค และเกี่ยวข้องกับอารมณ์ที่รุนแรง อำนาจ ความกล้าหาญ ความหลงใหล ความโกรธ แต่ก็สื่อถึงอันตรายได้ด้วยนะคะ นอกจากนี้สีแดงยังสื่อถึงความเร้าใจ มีชีวิตชีวา และน่าตื่นเต้น

  • สีส้ม
สีส้ม
สีส้ม

สีส้มเป็นโทนสีที่อ่อนลงมาจากสีแดงค่ะ แต่จะเพิ่มความเป็นสีเหลืองเข้า ทำให้มีความอบอุ่นขึ้นมา สีนี้จึงเป็นตัวแทนของการคิดในแง่ดี ความสุข และมีความมั่นในในตัวเอง นอกจากนี้สีส้มยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจ ความกล้าหาญ ความกะตือรือร้น และความมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ยังกระตุ้นความอยากอาหารได้ด้วยนะคะ

สีกึ่งกลางสองโทน

  • สีเหลือง
สีเหลือง
สีเหลือง

สีนี้เป็นสีที่สะท้อนถึงจิตใจและสติปัญญาค่ะ นอกจากนี้สีนี้ยังแสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ เพราะเป็นสีที่มีความเบา จึงสามารถให้ความสว่าง สะท้อนถึงความหวัง ความสุข ความสนุกสนาน ความร่าเริง ขี้เล่น และเป็นอีกหนึ่งสีที่แทนความอบอุ่น แต่ถ้าหากใช่มากเกินไปจะแสดงถึงความสับสน วิตก หวาดกลัว

  • สีม่วง
สีม่วง
สีม่วง

อีกหนึ่งสีที่เป็นสีกึ่งกลางก็คือ สีม่วง ซึ่งสีนี้จะเป็นสีที่แสดงถึงความสูงศักดิ์ ความมั่งคั่ง ความครุ่นคิด ความลึกซึ้ง ส่วนใหญ่มักจะพบเจอในผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงค่ะ

สีโทนเย็น

  • สีน้ำเงิน
สีน้ำเงิน
สีน้ำเงิน

สีน้ำเงิน เป็นสีของความสงบสุข สุขุม เยือกเย็น แต่มั่นคงและยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นสีที่ตรงข้ามกับสีแดง ดังนั้นความรู้สึกจะเป็นเหมือนคนละขั้วเลยค่ะ ตัวสีนี้ยังเป็นสีของความอนุรักษ์นิยม และความสงบ ช่วยลดความตึงเครียด ชะลออัตราการเต้นของหัวใจ

  • สีฟ้า
สีฟ้า
สีฟ้า

โทนสีพี่น้องกับสีน้ำเงินจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก สีฟ้า ที่มักจะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ สดชื่นและผ่อนคลาย แต่ก็มีความเย็นในตัว

  • สีเขียว
สีเขียว
สีเขียว

สีเขียว สีแห่งธรรมชาติและความผ่อนคลาย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แสดงถึงความสมดุลและการเติบโต สงบ และปลอดภัย นอกจากนี้ยังเป็นสีของการรักษา โทนสีเขียวเข้มจะเกี่ยวข้องกับเงิน ความร่ำรวย ศักดิ์ศรี ส่วนโทนสีเขียวอ่อนนั้นจะเกี่ยวกับการเติบโต การเกิดใหม่ และความสดใส


รวมโทนสีทาบ้านยอดฮิต

มาต่อกันที่เรื่องโทนสีเลยค่ะ อย่างที่บอกว่า ใครชอบสีอะไรก็ทาสีนั้นไปเลย เพียงแค่ว่าสีบางสีก็จะเหมาะกับการทาบ้าน แต่สีบางสีก็จะเหมาะกับการทำเป็นอย่างอื่นมากกว่าค่ะ เราเลยจะมาแนะนำสีกับการตกแต่งบ้านยอดฮิตมาให้ดูกันค่า แต่ก่อนจะไปดูสีต่าง ๆ เราจะพามารู้จักโทนต่าง ๆ ของสีก่อนนะคะ

  • Pales - โทนสีอ่อน
    • ให้ความสว่าง เบาบาง ปลอดโปร่งและสดชื่น
  • Neutrals - โทนสีกลาง
    • จะเป็นสีสไตล์เอิร์ธโทน ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
  • Whites - โทนสีขาว
    • ให้ความสะอาด สบายตา แต่งง่ายได้กับทุกสไตล์
  • Deeps - โทนสีเข้ม
    • เน้นความต่าง ฉีกออกจากกรอบการแต่งบ้านแบบเดิม ๆ

สีขาวโทนสว่าง

สีขาวโทนสว่าง
สีขาวโทนสว่าง

โทนสีแรกคงเป็นสีไหนไปไม่ได้นอกจากโทนสีสีขาวเลยค่ะ เพราะว่าสีนี้เป็นสีพื้นฐานในการปรับบ้าน สามารถใช้เป็นสีหลักหรือว่าจะใช้เป็นเบสรองเพื่อให้สีที่ต้องการจะทาตามมามีความชัดมากขึ้นได้ด้วยค่ะ ดังนั้นสีนี้จึงเหมาะกับมือใหม่หัดแต่งบ้านมากค่ะ เพราะว่าทาปุ๊บแล้วใช้ได้เลย

อีกทั้งโทนสีสีขาวนั้นช่วยให้ห้องมีความปลอดโปร่ง ผ่อนคลายสบายตา ให้ความสงบ ทำให้บ้านดูกว้างขึ้นอีกด้วยค่ะ และด้วยความที่เป็นสีขาว ห้องที่ทาด้วยสีนี้จึงสามารถตกแต่งได้หลากหลายสไตล์ ทั้งมินิมอล โมเดิร์น สายหวาน สายฮิป และอื่น ๆ อีกมากมาย

หรือถ้าไม่อยากตกแต่งให้วุ่นวาย ก็สามารถปลูกต้นไม้ประดับไว้ได้ด้วยนะคะ ให้มีโทนสีเขียวโดดเด่นออกมาจากสีขาวได้ด้วยนะคะ

สีน้ำตาลสุดอบอุ่น

สีน้ำตาลสุดอบอุ่น
สีน้ำตาลสุดอบอุ่น

แต่ถ้าใครชอบความอบอุ่น เราขอแนะนำสีน้ำตาลเลยค่ะ สีโทนนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศอันอบอุ่น แต่ก็ให้ความสงบ ซึ่งสีนี้ก็เป็นอีกสีที่หลาย ๆ คนชอบนะคะ และมักจะนำมาแต่งคู่กับสีขาวค่ะ

โทนสีน้ำตาลนี้จะช่วยเสริมความเรียบหรูและมีสไตล์ให้กับบ้านมากขึ้น ยิ่งหากคุณเป็นคนชอบความหรูหราสไตล์ Modern Luxury โทนสีนี้จะเหมาะมากเลยค่ะ แต่เราแนะนำให้ใช้สีโทน Antique พร้อมสีอุ่นแบบ Warm Light นะคะ หากยิ่งเสริมด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ยุโรป ที่แห่งนั้นจะกลายเป็นสไตล์ Antique Europian เลยค่ะ

สีเทาหลากเฉด

สีเทา อีกหนึ่งสีที่คนมีบ้านใหม่เดี๋ยวนี้ชอบใช้กันค่ะ เพราะเป็นอีกหนึ่งสีจะอยู่ในเทรนด์การแต่งบ้านตลอด อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งสีที่นำไปตกแต่งกับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ได้ง่ายดายไม่ต่างกับสีขาวเท่าไหร่เลยค่ะ

การใช้โทนสีเทาทาบ้านนั้นจะเหมาะกับผู้ที่ชอบความมินิมอล เรียบง่าย โมเดิร์นนะคะ เหมาะกับมือใหม่หัดแต่งบ้าน ซึ่งตัวสีเทานั้นจะมีหลายโทนต่างกันไปค่ะ ได้แก่

  • สีเทาโทนอ่อน
สีเทาโทนอ่อน
สีเทาโทนอ่อน

ตัวอย่างเช่น Dusty lavender, Ballet pink หรือ Sky blue ที่เน้นความรู้สึกชิล สบาย เติมพลัง ช่วยให้ห้องน่าอยู่ แถมยังสามารถเข้ากับโทนสีอื่น ๆ ได้ง่าย

  • สีเทาโทนกลาง
สีเทาโทนกลาง
สีเทาโทนกลาง

สีเทาโทนกลางนั้นจะเป็นสีสไตล์ Earth Tone ค่ะ มีความเข้มแต่ไม่ทึบ อ่อนแต่ไม่สว่างมาก สีนี้สามารถเป็นได้ทั้งสีโทนร้อนและสีโทนเย็นค่ะ ตัวอย่างสีเช่น Clay, Sand and ochre และ Slate นะคะ ซึ่งข้อดีของสีโทนนี้จะทำให้เข้ากับแสงต่าง ๆ ได้ด้วยค่ะ

  • สีเทาโทนขาว
สีเทาโทนขาว
สีเทาโทนขาว

สีนี้จะเป็นสีโทนขาว ไม่อ่อนเท่ากับสีเทาโทนอ่อนค่ะ ตัวสีนั้นจะออกไปทางสีขาวแต่ก็ยังมีโทนเทาติดมาประมาณ 40% ทำให้การทาสีนั้น สามารถเข้าได้กับการตกแต่งของห้องต่าง ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังเป็นโทนสีของความสบายตา สะอาด กลมกลืนกับทุกดีไซน์

  • สีเทาเข้ม
สีเทาเข้ม
สีเทาเข้ม

สีเทาเข้ม จะเน้นสร้างความโดดเด่นและมีมิติมากกว่าโทนสีแบบอ่อน ๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมให้ห้องนั้นมีพลังงานและความมั่นใจ ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้รับพลังด้วยค่ะ ตัวอย่างสีเช่น Onyx เป็นต้นค่ะ

สีเขียวไวบ์ธรรมชาติ

สีเขียวไวบ์ธรรมชาติ
สีเขียวไวบ์ธรรมชาติ

หากใครอยากได้สีแบบธรรมชาติตะโกน แค่มองก็รู้สึกสบายตา เราแนะนำสีเขียวเลยค่ะ เนื่องจากสีเขียวนั้นเป็นสีที่อิงมาจากต้นไม้ ใบหญ้า และสิ่งแวดล้อมในป่า สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ ช่วยในการเยียวยาจิตใจ แทนธรรมชาติได้อย่างชัดเจนที่สุดแล้วค่ะ

Fun Fact: นอกจากนี้สีเขียวยังเป็นสีที่ถูกวิจัยมาว่าทำให้เราพักผ่อนสายตาได้ด้วยนะคะ

ซึ่งสีที่หลาย ๆ คนชอบนำมาแต่งบ้านจะเป็นสีเขียวตุ่นอมฟ้านะคะ เพราะไม่ได้เขียวไปจนน่าเกลียด และยังช่วยดรอปโทนลงมาด้วยค่ะ ซึ่งการเลือกสีเขียวนั้นก็ช่วยกระตุ้นความหรูหราและวินเทจออกมาได้ด้วยนะคะ เช่นสีเขียวมะกอกค่ะ

สีน้ำเงิน ความผ่อนคลายและสงบ

สีน้ำเงิน ความผ่อนคลายและสงบ
สีน้ำเงิน ความผ่อนคลายและสงบ

สีสุดท้ายนั้นก็คงไม่พ้น สีน้ำเงิน เพราะเป็นอีกหนึ่งโทนสีที่เป็นตัวแทนของธรรมชาติ ได้แก่ท้องฟ้า ท้องทะเล และมหาสมุทรค่ะ และด้วยความที่เป็นสีที่สื่อถึงความยิ่งใหญ่แบบนี้ สีน้ำเงินจึงมักจะให้ไวบ์ของความสงบ ความสบายใจ และความมั่นคงนั่นเองค่ะ

ซึ่งสีน้ำเงินนั้นหลาย ๆ คนจะมองว่ามันแต่งบ้านได้ยาก แต่จริง ๆ แล้วมันแต่งได้ง่ายกว่าที่คิดค่ะ แค่จะต้องมีสีอื่น ๆ เข้ามาช่วยด้วย เช่นสีขาว สีเทา สีทอง และสีโทนเบจค่ะ แต่การที่ใช้สีน้ำเงินอาจจะทำให้ห้องดูมืด ดังนั้นจึงควรมีสีอื่น ๆ หรือหน้าต่างมาช่วยเพิ่มแสงด้วยนะคะ


ทิปส์เลือกสีทาบ้าน

หลังจากที่เราได้แนะนำโทนสีแต่งบ้านที่น่าสนใจไปแล้ว สิ่งต่อมาที่เราห้ามพลาดนั่นก็สือส่วนของทิปส์การเลือกสีทาบ้านค่ะ เพราะว่าการเลือกสีนั้นไม่ได้มีแค่ปัจจัยของตัวสี แต่ยังรวมไปถึงจุดประสงค์อื่น ๆ ด้วยนะคะ ทั้งเรื่องอายุของสี จุดประสงค์ในการทำพื้นที่นั้น ๆ การจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์ สไตล์ที่คุณอยากทำ และอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ

  • ใช้สูตร 60-30-10
ใช้สูตร 60-30-10
ใช้สูตร 60-30-10

ปกติหลักมาตรฐานการทาสีเบื้องต้นจะใช้สูตร 60-30-10 หรือ 6:3:1 ค่ะ สูตรยอดฮิตของการทาสีที่หลาย ๆ คนก็เลือกที่จะหยิบมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ไปจนถึงนักออกแบบขั้นเทพค่ะ โดยจะเริ่มต้นจาก

  • 60% - การใช้สีใดสีนึงมาทาเป็นเบสและพื้น
  • 30% - จากนั้นจึงนำเฉดที่มีความเข้มและโดดเด่นมาตัดให้ห้องมีลูกเล่น
  • 10% - เก็บไว้ใช้กับขอบคิ้วบัว หน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์

ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ห้องดูมีมิติและมีลูกเล่นมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ห้องไม่มีความแน่นเกินไป อีกทั้งยังได้การตัดน้ำหนักสีที่สวยงามด้วยนะคะ ซึ่งสีส่วน 60% นั้นจะต้องหลักเลี่ยงด้านที่มีผนัง หน้าต่าง หรือเฟอร์นิเจอร์ที่บดบังค่ะ จะสรุปได้คร่าว ๆ ดังนี้นะคะ

60%สีหลักครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ
30%สีเข้มหรือสดกว่าตกแต่งไฮท์ไลท์ผนังด้านในด้านนึง
10%สีที่แตกต่างเพิ่มความสะดุดตาด้วยสี ของตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์
  • ใช้สีเดียวก็สวยได้
ใช้สีเดียวก็สวยได้
ใช้สีเดียวก็สวยได้

การเล่นสีแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าตัวห้องจะต้องเป็นสีนั้นสีเดียวค่ะ แต่เราสามารถนำสีนั้นมาไล่โทนอ่อน-เข้มสไตล์ทูโทนหรือสองสี ทั้งอ่อนและเข้ม ซึ่งจะบอกเลยว่าแบบนี้กลายเป็นแบบยอดฮิตเลยค่ะ ทั้งสำหรับการทาภายในและภายนอก อีกทั้งการทำแบบนี้จะช่วยให้เกิดเป็นสไตล์ที่น่าดึงดูด ให้ความรู้สึกอิ่มเอม ถ้าห้องนั้นได้รับการตกแต่งอย่างดี อาจจะกลายเป็น Art Gallery ย่อม ๆ ได้เลยค่ะ

  • เทียบสีให้ชัดก่อนเลือก
เทียบสีให้ชัดก่อนเลือก
เทียบสีให้ชัดก่อนเลือก

ส่วนต่อมาก็คือ การเลือกสี นั่นเองค่ะ เพราะสีกับการแต่งบ้านนั้นมีผลที่คู่กันมาทุกครั้ง ซึ่งการเทียบโทนสีนั้น เราสามารถเทียบได้ง่าย ๆ จากพัดสีที่จะช่วยให้เราดูโทนสีได้อย่างง่ายดายและชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ การที่เลือกสีหลักได้ จะทำให้เราสามารถเลือกโทนสีที่ใกล้เคียงหรือสีที่ตัดกันได้ตามต้องการ

นอกจากการเทียบกับพัดสีแล้ว บางร้านก็จะมีการปาดสีบนผนังให้ดูจริง ๆ เพื่อให้เรามั่นใจว่าสีนี้เราชอบจริง ๆ หรือไม่ แต่ถ้าเรารู้สึกว่าเลือกสียาก ไม่แน่ใจ เราแนะนำให้ตัดสีที่ไม่ชอบออกไปก่อน เพื่อที่จะให้เรามีโทนที่เลือกชัดเจนขึ้้น

  • เลือกสีและชนิดของไฟให้ถูก
เลือกสีและชนิดของไฟให้ถูก
เลือกสีและชนิดของไฟให้ถูก

การที่เราจะได้สีกับการแต่งบ้านที่ถูกใจนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่โทนสีอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่าจะมีเรื่องของแสงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยค่ะ เพราะว่าสีที่เราเห็นนั้นจะมีโทนที่ต่างกันออกไปตามแสงที่ผสมแล้วตกลงมากระทบสายตาเรา อีกทั้งแต่ละโทนของแสงยังส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกด้วยค่ะ

เช่น หากคุณต้องการทาสีในห้อง คุณต้องดูก่อนว่าห้องของคุณนั้นมีความสว่างที่มาก น้อยขนาดไหน ถ้าห้องคุณเป็นห้องที่สว่างประมาณนึงอยู่แล้ว ก็สามารถใช้สีตามใจชอบได้เลย แต่ถ้าห้องเป็นห้องที่มีแสงส่องถึงน้อย ก็แนะนำเป็นสีโทนสว่างมากกว่าโทนเข้มค่ะ

ส่วนเรื่องของการผสมสีกับแสงนั้น โดยปกติแล้วแสงไฟจะมีอยู่สามโทนด้วยกัน ได้แก่ White light, Day light และ Warm light ซึ่งแต่ละสีก็จะให้โทนที่ไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น Warm Light ก็จะเป็นแสงอุ่น ทำให้สีที่เราเลือกนั้นดูอุ่นขึ้น ส่วนแสง White Light หรือแสงแบบฟลูออเรสเซนส์นั้นจะให้ความขาวมากกว่า สีจึงถูกทำให้ดูเย็นและแข็งขึ้น

*ข้อดีอีกอย่างของการเลือกแสงให้ถูกคือ จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้นะคะ


ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง

มาถึงตรงนี้ เราจะขอแนะนำปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเลือกสีค่ะ ซึ่งปัจจัยการเลือกสีกับการแต่งบ้านนั้นจะต้องมีปัจจัยอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าในห้องนั้นจะไม่ได้มีแค่ตัวห้อง แสง และสีเท่านั้น แต่ยังต้องมีสิ่งอื่น ๆ ด้วย

  • ประเภทและสีของเฟอร์นิเจอร์
ประเภทและสีของเฟอร์นิเจอร์
ประเภทและสีของเฟอร์นิเจอร์

อย่างที่ได้กล่าวไปว่า ในห้องนั้นจะไม่ได้มีเพียงแค่สีและแสงเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอื่น ๆ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ด้วยค่ะ เพราะว่าสีของเฟอร์นิเจอร์นั้นอาจจะไม่ได้ตรงใจกับสีที่ทาไป ดังนั้นการเลือกสีและแมทช์ให้เข้ากันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เช่น เราทาสีห้องเป็นสไตล์มินิมอล แต่ประเภทเฟอร์นิเจอร์ที่มีเป็นแบบบูทีคก็คงจะไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ (แต่ถ้ามีไอเดียเจ๋ง ๆ ก็จัดเลย!)

  • คุณสมบัติของสี
คุณสมบัติของสี
คุณสมบัติของสี

สีทาบ้านนั้นมีส่วนประกอบหลาย ๆ อย่าง ทั้งแบบที่มีสารเคมีชัด ไปจนถึงสีทาบ้านที่มีสารเคมีน้อย ซึ่งตรงนี้ก็จะส่งผลต่อกลิ่นของสีค่ะ การที่ห้องหรือบ้านนั้นมีกลิ่นสีมาก ๆ อาจจะไม่ทำให้บ้านน่าอยู่เท่าไหร่ รวมไปถึงสีแต่ละยี่ห้อนั้นก็จะมีความพิเศษที่ต่างกันตามที่โฆษณา เช่น สีที่สามารถกันแบคทีเรียนและเชื้อราได้ ไปจนถึงสีที่เมื่อน้ำท่วมก็จะไม่หลุดลอก และสีที่สามารถเช็ดคราบสกปรกออกไปได้อย่างง่ายดาย

  • ดูสีของหลังคา
ดูสีของหลังคา
ดูสีของหลังคา

สิ่งต่อมาก็คือสีของหลังคาค่ะ การที่เราจะทาสีตัวบ้านนั้นจะไม่เพียงแค่ต้องดูสภาพแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเรื่องสีของหลังคาด้วยค่ะ เพราะว่าบ่อยครั้งเรามักจะไม่ได้สร้างบ้านเองตั้งแต่ศูนย์ แต่ว่าเราจะซื้อบ้านที่ทำสำเร็จมาแล้ว ขาดแต่ตกแต่ง ดังนั้น สีของหลังคาจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราเลือกไม่ได้ การที่เราจะจับคู่สีหลังคากับสีบ้านก็เป็นอะไรที่แนะนำเช่นกันค่ะ


ทำไมต้องเลือกให้เหมาะสม

มาถึงคำถามสุดท้าย ทำไมต้องเลือกสีให้เหมาะสม? เราบอกเลยว่าการที่เราเลือกสีกับการแต่งบ้านให้เหมาะสมและเข้ากับบ้านนั้น จะช่วยให้บ้านหรือห้องนั้นมีความน่าอยู่มากขึ้นเลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งยังส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกด้วยนะคะ หากเลือกไม่เหมาะสม อาจจะทำให้เรารู้สึกหม่นหมองแทนที่จะช่วยให้เราผ่อนคลายและมีความสุขก็ได้ค่ะ

อีกทั้งการที่เราเลือกให้ชัดเจนแต่แรกนั้นจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าค่ะ เพราะว่าเรายังไม่จำเป็นต้องย้ายเฟอร์นิเจอร์เข้ามา แต่ถ้าเกิดว่าเรามาทาหลังจากที่ผ่านไปแล้วสักพัก ก็อาจจะทำให้เราต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย และอาจจะต้องหาที่อยู่อื่นชั่วคราว เนื่องจากการปรับปรุงบ้านต้องใช้เวลานานนั่นเอง


สรุปส่งท้าย

จะเห็นได้เลยว่าการเลือกสีกับการแต่งบ้านให้เข้ากันนั้นก็เป็นอะไรที่สำคัญไม่แพ้กันกับการเลือกเฟอร์นิเจอร์เลยค่ะ นี่เลยเป็นเหตุผลว่าทำไม PropertyScout จึงอยากแนะนำทิปส์การทาสีบ้านให้กับทุกคนนั่นเองค่ะ ที่จะไม่ได้มีแค่โทนสีทาบ้านยอดฮิตเท่านั้น แต่ยังมีทริคในการเลือกสีด้วยนะคะ นอกจากนี้ สีแต่ละสียังมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของเราด้วย เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญจริง ๆ เลยค่ะ

ทาง PropertyScout หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณในการตกแต่งบ้านหรือห้องใหม่ ให้น่าอยู่และผ่อนคลายแบบที่สุด ถ้าใครมีบทความหรือหัวข้ออะไรอยากมาพูดคุย มาแชร์ สามารถพิมพ์มาได้เลยค่า เจอกันใหม่นะคะ บะบายยยย


ติดต่อเช่า-ซื้อ-ขาย อสังหา ฯ กับเราได้ง่าย ๆ
คลิกเลย