In Short
Advice
เลือกให้ถูกรับรองอยู่สบายค่ะ
สวัสดีค่า เวลาที่เราซื้ออสังหา ฯ สักครั้ง เราก็ต้องตัดสินใจจากอะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งทำเลที่ตั้ง ราคา สิ่งอำนวยความสะดวก ไปจนถึงเรื่องของการตกแต่งและปัจจัยอื่น ๆ มากมาย และเราบอกเลยว่าอีกหนึ่งปัจจัยที่เราต้องดูด้วยก็คือเรื่องของ กระจก นั่นเองค่ะ เนื่องจากกระจกติดบ้านนั้นก็นับได้ว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านและคอนโดที่เราอยู่ไปแล้วเหมือนกัน
ดังนั้นวันนี้ PropertyScout จะพาคุณไปรู้จักชนิดของกระจกต่าง ๆ ว่ากระจกที่ติดบ้านนั้นจะมีกี่ประเภท มีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบเหมาะกับที่อยู่แบบไหน ไปดูกันเลยค่ะ!

ทำไมกระจกถึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน

ในปัจจุบัน จะเห็นได้เลยว่ากระจกนั้นแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านไปแล้วค่ะ เพราะการติดตั้งกระจกตามบ้านนั้น จะช่วยเพิ่มช่องแสงในบ้าน ให้ภายในดูปลอดโปร่ง โล่ง สบาย อีกทั้งการที่เลือกใช้แสงให้ถูกยังทำให้บ้านของคุณดูละมุนขึ้นมาได้ด้วย เท่านี้ไม่พอนะคะ การที่คุณใช้กระจกเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างภายนอกนั้น หากมองจากด้านนอกเข้ามา จะทำให้เราไม่รู้สึกว่าอาคารนี้มีความคับแคบแต่อย่างใดเลยค่ะ
นอกจากนี้ กระจกยังทำให้บ้านหรือห้องของเราดูสวยงามขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งให้ความรู้สึกโมเดิร์น บ้านไม่รก ไม่คับแคบ เป็นต้นค่ะ
ประเภทของกระจกติดบ้าน
ส่วนกระจกติดบ้านนั้นจะมีหลายแบบมากมายให้ได้เลือกตามประเภทการใช้งานค่ะ โดยที่จะแบ่งตามนี้เลย
กระจกธรรมดา

กระจกธรรมดา หรือกระจกที่เป็นแบบกระจกใส โดยที่ตัวกระจกนั้นจะเป็นเนื้อสีใสที่สามารถมองเห็นทะลุไปยังอีกด้านได้อย่างชัดเจน ไม่มึความซับซ้อนในการทำ มีความแข็งแรงที่ไม่มาก และมีเนื้อสัมผัสที่ต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องความเรียบค่ะ แต่ว่าด้วยความใสของเนื้อกระจกนี้ จึงทำให้ความร้อนและแสงสามารถทะลุผ่านเข้ามาด้านในได้อย่างเต็มที่ค่ะ
ใช้กับอะไร: บานประตู หน้าต่าง
ข้อดี
- สามารถเห็นทะลุได้อย่างชัดเจน
- เหมาะกับห้องที่ต้องการความกว้างแต่ก็ต้องการพื้นที่แยก
ข้อเสีย
- ร้อนง่ายกว่ากระจกแบบอื่น
กระจกนิรภัยเทมเปอร์

กระจกนิรภัยเทมเปอร์ เป็นกระจกประเภทนิรภัยที่มีความแข็งแรงกว่ากระจกใสประมาณ 3-5 เท่า โดยที่จะมีกระบวนการการผลิตที่มาจาก Clear Float Glass แล้วนำมาผ่านความร้อนอีกครั้ง จะนำมาผ่านความเย็นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการแตกหักได้ยาก แต่ถ้าแตกออกมาจะมีลักษณะเป็นเม็ดเล็ก ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งาน
ตัวกระจกนี้สามารถรองรับน้ำหนักได้ 10 เท่า และทนแรงดัดมากถึง 3 เท่า นอกจากนี้ยังรับแรงอัดของลมได้ดีด้วยค่ะ
ใช้กับอะไร: ผนังอาคาร กระจกบานเปลือย ราวระเบียง ประตูกระจก ผนังกั้นอาบน้ำ
ข้อดี
- แตกยาก รับแรงได้มากกว่า 10 เท่า
- ถ้าแตกแล้วจะไม่เป็นอันตรายกับผู้ที่อยู่แถวนั้น
ข้อเสีย
- ไม่สามารถตัดหรือเจาะได้ เพราะทนแรง Point Load ได้น้อย
กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์/กระจกเคลือบผิว

กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์/กระจกเคลือบผิว จะถูกเรียกว่า Solar Reflective Glass เกิดจากการนำกระจกประเภท Clear Float Glass ไปเคลือบด้วยออกไซด์เพื่อสะท้อนแสงอาทิตย์เพื่อไม่ให้แสงเข้าสู่อาคาร แต่กระจกนั้นจะลดได้อยู่ที่ประมาณ 30% ของแสงทั้งหมด ทำให้แสงที่ส่องเข้ามานั้นจะไม่แรงเท่ากระจกธรรมดานั่นเองค่ะ
กระจกประเภทนี้จะมีความเงา มันวาวกว่ากระจกทั่วไป ประกอบด้วยกระจกทั้ง 2 ชนิด ได้แก่ กระจกสะท้อนรังสีจากดวงอาทิตย์ และกระจกแผ่รังสีต่ำ (Low-E Glass) ที่มีลักษณะคล้ายกับ Solar Reflective Glass ต่างแค่ว่าโลหะที่ใช้เคลือบจะเป็นโลหะเงินบริสุทธิ์ที่ถ่ายเทความร้อนได้มากกว่า
ใช้กับอะไร: ใช้กับอาคารหรือส่วนที่ต้องการสะท้อนแสงส่วนเกินออกไป
ข้อดี
- ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ทั้งเครื่องปรับอากาศและพัดลม
- ทำให้ห้องไม่ร้อนเท่ากระจกธรรมดา
ข้อเสีย
- มองผ่านจากภายนอกเข้ามาได้ลำบาก
กระจกสะท้อนแสงกันความร้อน

กระจกสะท้อนแสงกันความร้อน หรือกระจกที่เรียกว่า Low-E Glass เป็นอีกหนึ่งประเภทกระจกที่ใช้โลหะเงินบริสุทธิ์ในการเคลือบกระจก ทำให้ถ่ายเทความร้อนได้ดี อีกทั้งยังลดปัญหาเรื่องของการแตกร้าว ช่วยเพิ่มความทนทานให้ใช้งานได้มากกว่ากระจกแบบ กระจกสะท้อนรังสีอาทิตย์ ค่ะ ซึ่งกระจกนี้จะมีข้อดีกว่าคือแสงจะสามารถผ่านเข้ามาได้มากกว่า แต่ไม่ร้อน
ใช้กับอะไร: ใช้กับอาคารหรือส่วนที่ต้องการสะท้อนแสงส่วนเกินออกไป
ข้อดี
- แสงลอดเข้ามาได้เยอะกว่าแต่ไม่ร้อน
- ทนทานกว่า
ข้อเสีย
- มองผ่านจากภายนอกเข้ามาได้ลำบาก แต่ไม่เท่ากับกระจกสะท้อนแสง
กระจกฉนวนกันความร้อน

กระจกฉนวนกันความร้อน หรือจะเรียกย่อ ๆ ว่า IGU ก็ได้ค่ะ (ย่อมาจาก Insulated Glass Unit) จะเป็นการนำกระจกสองแผ่นมาประกบกัน โดยจะมี Aluminium Spacer หรือเฟรมอลูมิเนียม ที่จะเว้นช่องว่างระหว่างกระจกทั้ง 2 แผ่นค่ะ ทำให้ตรงกลางนั้นสามารถใส่เป็นอากาศแห้ง (Dried Air) หรือก๊าซเฉื่อยเข้าไปได้ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยลดความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ภายในอาคารได้ ซึ่งผลการทดลองส่วนใหญ่นั้นแสดงให้เห็นเลยว่า สามารถสะท้อนความร้อนได้ 95% ถึง 98% เลยทีเดียว
และอีกหนึ่งข้อดีก็คือ การใช้กระจกแบบนี้จะไม่ทำให้เกิดฝ้าหรือหยดน้ำบนกระจก แม้ว่าอุณภูมิจะต่างกันมาก ส่วนใหญ่นั้นจะเน้นไปที่การใช้เพื่อประหยัดพลังงานภายในอาคาร หรือเฉพาะกับในอาคาร
ใช้กับอะไร: ห้องที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ เช่นห้องเก็บไวน์ ห้องเก็บอาหาร
ข้อดี
- ลดความร้อนได้เยอะ
- ประหยัดค่าไฟ
ข้อเสีย
- ติดตั้งยากกว่ากระจกธรรมดา
กระจกลามิเนต

กระจกลามิเนต จัดเป็นกระจกนิรภัยประเภทหนึ่งค่ะ เพราะคุณสมบัติของกระจกนี้ก็คือ เมื่อแตกแล้วเศษกระจกจะยังคงเป็นแผ่น ไม่เป็นเม็ดหรือแตกเป็นเศษ เนื่องจากกระจกประเภทลามิเนตก็คือการนำเอากระจกนิรภัยเทมเปอร์มากกว่า 2 แผ่นขึ้นไปมายึดติดประกบ โดยที่ระหว่างแต่ละชั้นนั้นจะมีฟิล์มคั่นกลางระหว่างนั้น ทำให้เวลาแตกจะยังคงเป็นแผ่นอยู่นั่นเอง
อีกทั้งกระจกประเภทนี้ยังเก็บเสียงได้ดี ป้องกันรังสี UV และความร้อนได้มากกว่า 90% เลยทีเดียวค่ะ
ใช้กับอะไร: ผนังภายนอกอาคารสูง ราวกันตก
ข้อดี
- ลดความร้อนได้ตามต้องการ
- แตกยาก หากแตกแล้วไม่เป็นอันตราย
ข้อเสีย
- ราคาแพงกว่าปกติ
ตัวอย่างการใช้กระจกกับการออกแบบ
ภาพด้านล่างนี้ จะเป็นตัวอย่างของการดีไซน์กระจกกับการออกแบบ ที่เราสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบันค่ะ






สรุปส่งท้าย
กระจกติดบ้าน อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หลาย ๆ คนไม่ควรมองข้ามค่ะ เพราะตัวกระจกนั้นมีหลายชนิด ซึ่งเราก็ต้องเลือกให้ตรงกับประเภทการใช้งานให้ได้มากที่สุด อีกทั้งการที่ติดตั้งกระจกรอบ ๆ บ้านนั้นยังช่วยให้บ้านดูปลอดโปร่ง โล่ง สบาย มีช่องแสงให้ลอดผ่าน ทำให้กระจกนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ไปเสียแล้ว
ในปัจจุบัน จะเห็นได้เลยว่ากระจกนั้นแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านไปแล้วค่ะ เพราะการติดตั้งกระจกตามบ้านนั้น จะช่วยเพิ่มช่องแสงในบ้าน ให้ภายในดูปลอดโปร่ง โล่ง สบาย อีกทั้งการที่เลือกใช้แสงให้ถูกยังทำให้บ้านของคุณดูละมุนขึ้นมาได้ด้วย เท่านี้ไม่พอนะคะ การที่คุณใช้กระจกเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างภายนอกนั้น หากมองจากด้านนอกเข้ามา จะทำให้เราไม่รู้สึกว่าอาคารนี้มีความคับแคบแต่อย่างใดเลยค่ะ
สนใจเช่า-ซื้อโครงการใน PropertyScout
คลิกด้านล่างได้เลย
FAQs
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique.
Explore More Topics
Free real estate resources and tips on how to capitalise