ซื้อบ้านผ่อนคอนโดแบบสบาย ๆ เพียงแค่เลือกสินเชื่อให้เหมาะกับตัวเอง

Author
by
At
December 23, 2022
ซื้อบ้านผ่อนคอนโดแบบสบาย ๆ เพียงแค่เลือกสินเชื่อให้เหมาะกับตัวเอง ซื้อบ้านผ่อนคอนโดแบบสบาย ๆ เพียงแค่เลือกสินเชื่อให้เหมาะกับตัวเอง

เมื่อพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดซึ่งเป็นทรัพย์สินมูลค่าสูง ทำให้หลายคนเลือกที่จะใช้วิธีขอกู้สินเชื่อแล้วผ่อนชำระกับแบงค์ ซึ่งในปัจจุบันก็มีสินเชื่อบ้านมากมายจากหลากหลายแบงค์ ที่มาพร้อมกับข้อเสนอที่แตกต่างกันไป

อย่างไรก็ตามหากเราไม่พิจารณาให้ดีก่อนเลือกสินเชื่อ ก็อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาในภายหลังได้ อย่างเช่นผ่อนชำระหนี้ไม่ไหว และเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามกันไป ดังนั้นการวางแผนการซื้อบ้านที่ดี ก็จะต้องมีการเลือกสินเชื่อให้เหมาะและเอื้อประโยชน์กับตัวเรามากที่สุด และก็ต้องรอบคอบด้วย เดี๋ยว PropertyScout จะพาทุกคนไปดูว่า เทคนิคแนวทางในการเลือกสินเชื่อ ที่จะช่วยให้ทุกคนซื้อบ้านผ่อนคอนโดได้แบบสบาย ๆ จะมีอะไรบ้าง 

เทคนิคแรก : เลือกสินเชื่อแบบดอกเบี้ยต่ำที่สุด

ถือเป็นเกณฑ์การพิจารณาในขั้นเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถใช้คัดกรองสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน ก่อนจะไปพิจารณาในรายละเอียดส่วนอื่น ๆ 

เทคนิคนี้สามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่หาข้อมูลอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อกู้ซื้อบ้านจากหลาย ๆ แบงค์ แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน แล้วเราก็ดูว่าแบงค์ไหนให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่อันดับต้น ๆ ครับ ด้วยเหตุที่ว่าอัตราดอกเบี้ยมีผลโดยตรงกับยอดการผ่อนชำระที่เราต้องจ่ายให้กับแบงค์ โดยดอกเบี้ยเยอะก็จะยิ่งทำให้เราต้องจ่ายแพง ส่วนดอกเบี้ยน้อยก็ดีกว่า เพราะว่าทำให้เราจ่ายน้อยกว่านั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เทคนิคนี้ก็มีข้อควรระวังอยู่อย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือการคำนวณหาอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการให้กู้ ด้วยเหตุที่ว่าบางแบงค์ก็จะใช้วิธีคิดดอกเบี้ยต่ำ ๆ ในช่วงแรก เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการ แต่จะปรับดอกเบี้ยสูงขึ้นในระยะเวลาต่อมา และตลอดจนสิ้นสุดระยะเวลาที่ให้กู้ เพราะฉะนั้น เมื่อเราลองคำนวณดอกเบี้ยรวมตลอดระยะเวลาการให้กู้แล้ว บางทีสินเชื่อที่ให้ดอกเบี้ยต่ำเฉพาะในช่วงแรก ๆ อาจไม่ได้ช่วยค่าผ่อนบ้านหรือผ่อนคอนโดถูกที่สุดเสมอไปก็ได้ครับ

ดอกเบี้ย ถือเป็นเกณฑ์การพิจารณาในขั้นเบื้องต้นที่ทุกคนสามารถใช้คัดกรองสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน

เทคนิคที่สอง : เลือกสินเชื่อที่ให้ระยะเวลาในการผ่อนนานสุด

อายุของผู้กู้ เป็นปัจจัยสำคัญที่แบงค์จะใช้ประเมินว่าสามารถให้ผ่อนได้นานเท่าไหร่ หากผู้ขอกู้อายุมากแล้ว แบงค์ก็อาจจะไม่สามารถให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนาน ทำให้ยอดผ่อนต่องวดสูงมากขึ้น โดยเงื่อนไขในการให้กูของแต่ละแบงค์ก็จะแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะกำหนดระยะเวลาในการให้กู้อยู่ที่ 15-30 ปี หรือในบางกรณีอาจจะได้มากกว่านั้น อย่างไรก็ตามอายุของผู้กู้จะถูกกำหนดไว้ไม่ให้เกิน 70 ปี ดังนั้นใครที่จะขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน ควรวางแผนให้ดีว่าจะขอกู้ในช่วงอายุไหน ซึ่งควรจะเป็นช่วงอายุที่เหมาะกับการกู้ซื้อบ้านไว้ด้วย เพราะการขอกู้ซื้อบ้านในตอนอายุมาก ๆ อาจจะทำให้แบกรับยอดภาระในการผ่อนสูง ๆ ไม่ไหวได้ครับ เพราะว่าระยะเวลาในการผ่อนสั้นไปนั่นเอง

เทคนิคที่สอง-เลือกสินเชื่อที่ให้ระยะเวลาในการผ่อนนานสุด-scaled
เลือกสินเชื่อที่ให้ระยะเวลาในการผ่อนนานสุด

เทคนิคที่สาม : เลือกสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้สูง

ผู้กู้ทุกคนควรเตรียมสถานะการเงินของตัวเองให้ดี และมีความพร้อม ก่อนขอยื่นกู้กับทุกแบงค์ เนื่องจากว่า สถานะทางการเงินของผู้กู้มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการพิจารณาว่าแบงค์จะให้วงเงินกับเราได้มากแค่ไหน หลังจากนั้นค่อยมาพิจารณาเลือกว่าแบงค์ไหนให้วงเงินในการกู้กับเราสูงที่สุด 

และในส่วนของวงเงินกู้สินเชื่อซื้อบ้านที่ได้รับ ก็จะเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่จะบอกว่าเราต้องควักเงินในกระเป๋ามากแค่ไหนเพื่อนำมาจ่ายส่วนต่างเองในการซื้อบ้าน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการซื้อบ้านในราคาหลังละ 3,000,000 บาท แล้วแบงค์ให้วงเงินสูงสุด 80% ก็เท่ากับเราจะได้เงินจากแบงค์มา 2,400,000 บาท แล้วที่เหลืออีก 600,000 บาทจะเป็นส่วนที่เราต้องจ่ายเอง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ววงเงินสูงสุดที่แบงค์จะให้ได้นั้นจะอยู่ตั้งแต่ 70-100% ขึ้นอยู่กับแต่ละแบงค์ ซึ่งมีเงื่อนไขการพิจารณาที่ต่างกันไปครับ

เลือกสินเชื่อที่ให้วงเงินกู้สูง

เทคนิคสุดท้าย : เลือกสินเชื่อที่แบงค์ให้ปรับโครงสร้างหนี้ได้

สิ่งสำคัญที่เราต้องไม่ลืม คือ เมื่อได้รับการอนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดจากแบงค์ เราจะต้องอยู่กับภาระของการผ่อนไปอีกยาวนานหลายปี หรืออาจจะเป็นสิบกว่าปีก็ได้ และในระยะเวลาหลังการตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน สถานะทางการเงินของเราอาจจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง 

ดังนั้น หากเราเลือกแบงค์ที่ให้ความยืดหยุ่นกับเราในการปรับโครงสร้างหนี้ได้ ก็จะเป็นผลดีกับเรามากกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่สถานะทางการเงินเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง เช่น ในช่วงที่เรามีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ เราอาจจะขอขยายเวลาการชำระหนี้ออกไป หรือขอลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ทำให้งวดผ่อนจ่ายต่อเดือนลดลง หรือ หากว่าเรามีวิกฤตทางการเงินและไม่สามารถชำระหนี้ได้จริง ๆ ก็ขอพักชำระได้ภายใต้เงื่อนไขที่ดีที่สุด เป็นต้น ส่วนในกรณีที่การเงินเราดีขึ้น มีเงินก้อนแล้วอยากโปะจ่ายหนี้ให้หมดเร็วขึ้น ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

เลือกสินเชื่อที่แบงค์ให้ปรับโครงสร้างหนี้ได้

บทสรุปส่งท้าย

PropertyScout หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังวางแผนจะซื้อบ้านหรือคอนโดอยู่นะครับ ซึ่งก็คงจะเห็นกันแล้วใช่ไหมครับว่า เมื่อเราตัดสินใจวางแผนซื้อบ้านซื้อคอนโดด้วยวิธีการกู้สินเชื่อแล้ว เราไม่ควรรีบร้อนด่วนตัดสินใจเลือก แต่ควรให้ความสำคัญกับการหาข้อมูลเปรียบเทียบแล้วนำมาพิจารณาอย่างละเอียด หากว่ามีข้อสงสัยที่ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเงื่อนไข หรือสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ก็ควรที่จะสอบถามข้อมูลจากทางแบงค์ให้ได้มากที่สุด เพราะว่าการเลือกสินเชื่อกู้ซื้อบ้านหรือคอนโดนั้นมีรายละเอียดสำคัญที่ต้องใส่ใจ ทำให้เราได้สินเชื่อที่ตอบโจทย์และเป็นประโยชน์ต่อการผ่อนชำระของเรามากที่สุดครับ


อ่านบทความ รีวิวโครงการ หรืออัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog อยากได้คำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ เช่า ซื้อ ขาย สามารถติดต่อ PropertyScout ได้เลย ทางทีมงานพร้อมให้บริการและตอบทุกข้อสงสัย!