‘ที่จอดรถ’ อีกปัจจัยสำคัญที่ต้อง ‘ใส่ใจ’ ก่อนซื้อคอนโด

‘ที่จอดรถ’ อีกปัจจัยสำคัญที่ต้อง ‘ใส่ใจ’ ก่อนซื้อคอนโด ‘ที่จอดรถ’ อีกปัจจัยสำคัญที่ต้อง ‘ใส่ใจ’ ก่อนซื้อคอนโด

สำหรับคนที่กำลังหาซื้อคอนโดสักที่อยู่ คงเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเปรียบเทียบราคา ดูว่าแต่ละโครงการที่สนใจมีห้องแบบไหนบ้าง พื้นที่ส่วนกลางดีไหม ดูว่าโครงการโดยรวมเป็นอย่างไร 

และในบทความนี้ PropertyScout อยากจะชวนทุกคนมาดูในเรื่องของ ที่จอดรถ เพราะเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกคอนโด ซึ่งทุกคนโดล้วนมีที่จอดรถให้ผู้พักอาศัยทั้งนั้น แต่ประเด็นที่อยากชวนทุกคนไปดูและทำความเข้าใจ เป็นการเจาะลึกเรื่องรายละเอียดของที่จอดรถคอนโด ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของที่จอดกับจำนวนห้อง จำนวนที่จอดกับราคาคอนโด และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่ทุกคนจะได้มีข้อมูลไปใช้ติดสินใจเลือกซื้อคอนโดได้อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัว จะได้ไม่ต้องมารู้สึกเสียดายทีหลัง เดี๋ยวไปดูกันว่าสิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับที่จอดรถจะมีอะไรบ้าง

ที่จอดรถ-อีกปัจจัยสำคัญที่ต้อง-ใส่ใจ-ก่อนซื้อคอนโด

สัดส่วนของ 'จำนวนที่จอดรถ' กับ 'จำนวนห้อง'

อย่างแรกที่อยากพูดถึง คือ คอนโดโครงการใหญ่ที่มีหลายห้อง ก็จะยิ่งมีจำนวนห้องที่ไม่มีที่จอดมากเช่นกัน และถ้าเกิดว่าการออกแบบผังที่จอดไม่ได้มีประสิทธิภาพดีนัก ในเวลาชั่วโมงเร่งด่วนจะทำให้รถติด และวุ่นวายพอสมควรทีเดียว

ยกตัวอย่างเช่น ที่จอดรถคอนโด P มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 150 ยูนิต มีที่จอด 60% หมายความว่ารองรับการจอดรถได้ 90 คัน และจะมีรถ 60 คันที่ไม่ได้จอด เทียบกับคอนโด S ที่มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 800 ยูนิต มีที่จอด 60% หมายความว่า จอดรถได้ทั้งหมด 480 คัน ทำให้ มีรถที่ไม่ได้จอดทั้งหมดถึง 320 คัน

เพียงแค่นี้ก็พอจะเห็นถึงความแตกต่างของทั้งสองคอนโดแล้วว่า มีรถ 60 คันวนหาที่จอด กับมีรถ 320 คันวนหาที่จอด จะมีโอกาสเกิดความวุ่นวายต่างกันแค่ไหน อย่างไรก็ตามก็ไม่ใช่ทุกห้องที่จะมีรถ เพียงแต่การดูสัดส่วนของ “จำนวนที่จอดรถ” กับ “จำนวนห้อง” จะทำให้เราพอเห็นภาพคร่าว ๆ ของปริมาณความต้องการที่จอดรถในคอนโด ซึ่งจะส่งผลต่อตัวเราในการใช้พื้นที่จอดรถขณะอยู่อาศัย

สัดส่วนของ-จำนวนที่จอดรถ-กับ-จำนวนห้อง-scaled
ลานจอดรถในคอนโดมิเนียม

ในส่วนของคอนโดติดรถไฟฟ้า ถ้ามีจำนวนที่จอดรถเกิน 50% ขึ้นไปก็ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะจะมีผู้อยู่อาศัยจำนวนไม่น้อยเลือกใช้รถไฟฟ้ามากกว่าการมีรถยนต์ส่วนตัว แต่ถ้าเกิดว่าคอนโดอยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าเกิน 15 นาทีก็ควรเลือกคอนโดที่มีสัดส่วนที่จอดรถเกิน 50% และสำหรับใครที่เลือกคอนโดที่มีสัดส่วนที่จอดรถ 100 เปอร์เซ็นต์ ก็จะทำให้ใช้งานที่จอดได้อย่างสะดวก เพราะทุกห้องจะมีที่จอดรถให้สำหรับ 1 คัน แต่ราคาคอนโดก็จะแพงเช่นกัน


'จำนวนที่จอดรถ' เกี่ยวข้องกับ 'ราคาคอนโด' อย่างไร?

เป็นอีกเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ ว่าจำนวนที่จอดรถนั้นมีความสอดคล้องกันอย่างชัดเจนกับระดับราคาคอนโด ซึ่งโครงการที่ราคาแพงก็จะได้จำนวนที่จอดมากขึ้นตามกันไป ด้วยเหตุว่า ที่จอดรถมีต้นทุนค่าก่อสร้าง ค่าพื้นที่ ดังนั้นโครงการจึงต้องบวกต้นทุนเหล่านี้เข้าไปในราคาห้อง ทำให้ยิ่งมีที่จอดรถมาก ก็ยิ่งต้องบวกต้นทุนเข้าไปในราคาต่อตารางเมตรมากขึ้น 

จำนวนที่จอดรถ-เกี่ยวข้องกับ-ราคาคอนโด-อย่างไร-1-scaled
ภายในอาคารจอดรถของคอนโด

ดังนั้นขอแนะนำว่า ใครที่ไม่มีรถ ไม่แน่ใจว่าจะซื้อรถ หรือไม่ต้องการใช้รถส่วนตัว ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อคอนโดที่มีสัดส่วนที่จอดรถต่อจำนวนห้องสูง ๆ


ที่จอดรถแบบต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามคอนโด

ที่จอดรถตามคอนโดต่าง ๆ โดยทางกายภาพแล้วก็จะเหมือนที่จอดรถตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วยทั่วไป ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักตามรูปการใช้งาน แต่ละแบบก็จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนี้

  • ที่จอดรถกลางแจ้ง 
  • ที่จอดรถแบบอาคารจอด
  • ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ

ที่จอดรถกลางแจ้ง

โครงการคอนโดที่ใช้ที่จอดรถแบบกลางแจ้ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด High Rise ที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่เหลือรอบโครงการค่อนข้างมาก หรือในโครงการแบบ Low Rise ขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด ทำให้ไม่สามารถสร้างอาคารจอดรถ

หรือในบางโครงการ อาจจะมีที่จอดแบบ กึ่งกลางแจ้ง ที่เป็นที่จอดใต้อาคารให้ร่มเงาได้ครึ่งคันรถ

สำหรับข้อดีของที่จอดแบบกลางแจ้งคือ ทำให้เราไม่ต้องขับรถวนขึ้นไปหาที่จอดบนตึก ซึ่งต้องขอบอกว่าบางคอนโดนั้นมีอาคารจอดคอนข้างแคบ ทำให้ขับขึ้นอาคารจอดรถยากและทุลักทุเล โดยเฉพาะรถคันใหญ่ หรือรถสูง ๆ

อย่างไรก็ตาม การเลือกคอนโดที่มีที่จอดรถกลางแจ้งแบบนี้ รถเราก็จะต้องจอดรถตากแดดตากฝนตามสภาพอากาศ ซึ่งก็ต้องทำใจไว้ว่าสีตัวถังกับวัสดุภายในรถยนต์อาจจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

ที่จอดรถกลางแจ้ง-scaled
ที่จอดรถกลางแจ้ง

ที่จอดรถแบบอาคารจอด

ที่จอดรถแบบอาคารจอด ถือว่าเป็นรูปแบบที่หลายโครงการคอนโดเลือกใช้กัน ด้วยเหตุที่ว่ามีพื้นที่แบบลานเปิดโล่งน้อย ทำให้ไม่สามารถสร้างที่จอดกลางแจ้งให้มีจำนวนเพียงพอกับจำนวนผู้อยู่อาศัยในโครงการ ดังนั้นการสร้างที่จอดแบบอาคารก็จะช่วยประหยัดเนื้อที่ และเพิ่มจำนวนที่จอดให้มากขึ้น

สำหรับโครงการที่มีที่จอดในอาคาร ที่พบเห็นกันบ่อยจะมีอยู่ 2 แบบดังนี้

  • อาคารจอดรถแบบอยู่รวมกับอาคารพักอาศัย
  • อาคารจอดรถแบบแยกออกมาจากอาคารพักอาศัย

อาคารจอดรถแบบอยู่รวมกับอาคารพักอาศัย

อาคารจอดรถประเภทนี้จะอยู่ในโครงสร้างเดียวกันกับอาคารพักอาศัย ส่วนมากจะอยู่ในโครงการคอนโดขนาดกลางจนไปถึงขนาดใหญ่ โดยจะสร้างไว้ในโซนชั้นล่าง ก่อนที่จะขึ้นไปถึงโซนพักอาศัยชั้นบน และบางโครงการอาจจะสร้างชั้นจอดใต้ดินเพิ่มเพื่อเพิ่มจำนวนที่จอดให้มากขึ้น

ข้อดี

  • ประหยัดพื้นที่กว่าการทำที่จอดรถแบบลานโล่ง
  • ให้ความสะดวกในเรื่องการใช้งาน จอดรถเสร็จสามารถเดินเข้าโถงลิฟท์ที่เชื่อมต่อกับชั้นอาคารจอดรถ แล้วขึ้นไปบนชั้นห้องพักได้เลย
  • รถไม่ต้องจอดตากแดดตากฝน

ข้อเสีย

  • หากว่าออกแบบไม่ดีหรือมีพื้นที่คับแคบไป จะทำผู้พักอาศัยใช้งานลำบาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับรถขึ้น-ลงที่จอด การขับสวนกัน หรือการถอยเข้าจอด
  • หากไม่มีการวางระบบการระบายอากาศที่ดี หรือจำนวนช่องให้แสงอาทิตย์เข้าน้อย จะทำให้มีกลิ่นเหม็น อุดอู้ และถ้ามีหลอดไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยได้
อาคารจอดรถแบบอยู่รวมกับอาคารพักอาศัย-scaled
อาคารจอดรถแบบอยู่รวมกับอาคารพักอาศัย

อาคารจอดรถแบบแยกออกมาจากอาคารพักอาศัย

เป็นอาคารจอดรูปแบบที่อยู่แยกออกมาจากอาคารพักอาศัย เพื่อใช้สำหรับจอดรถเท่านั้น ซึ่งในบางโครงการอาจจะอยู่รวมกับส่วนกลาง ตัวอย่างเช่น สร้างอาคารจอดรถอยู่ในโซนชั้นล่าง ๆ แล้วทำเป็นสโมสร สวน ฟิตเนส หรือสระว่ายน้ำ ไว้ในโซนชั้นบนหรือบนดาดฟ้าของอาคาร ที่จอดรถลักษณะนี้ส่วนมากจะพบได้ในโครงการบนที่ดินขนาดใหญ่ 

ข้อดี

  • ช่วยให้ดูแลจัดการง่าย (สำหรับโครงการ)
  • ทำให้ได้พื้นที่มากขึ้นในอาคารพักอาศัย รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางที่ใช้เป็น Facilities อำนวยความสะดวกให้กับผู้พักอาศัย

ข้อเสีย

  • เมื่อจอดรถแล้วต้องเดินย้อนกลับมาที่อาคารพักอาศัย บางโครงการอาจจะมีหลังคาบริเวณทางเดินเชื่อม แต่สำหรับโครงการที่ไม่มีก็จะต้องเดินตากแดดตากฝนกลับมายังห้องพัก
อาคารจอดรถแบบแยกออกมาจากอาคารพักอาศัย
อาคารจอดรถแบบแยกออกมาจากอาคารพักอาศัย Image by yusabuy.com

ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ โครงการคอนโดหลาย ๆ ที่ ได้เริ่มใช้เทคโนโลยีระบบที่จอดรถอัจฉริยะ แบบอัติโนมัติ โดยเฉพาะคอนโดระดับราคาหลักสิบล้านบาทขึ้นไป เพียงแค่ขับรถไปจอดในจุดรับรถ ระบบก็จะยกรถของเราขึ้นไปจอดบนชั้นจอดด้านบนและนำรถกลับมาส่งให้เราได้ทุกเวลาที่เราต้องการใช้รถ 

ข้อดี

  • ช่วยประหยัดพื้นที่ โดยเฉลี่ยแล้วที่จอดรถแบบอัตโนมัติสามารถช่วยให้โครงการประหยัดพื้นที่ได้ถึง 50% ทำให้และทำให้มีพื้นที่จอดรถเพิ่มขึ้นประมาณ 40-50%

ข้อเสีย

  • ในช่วงเวลาเร่งด่วน บ้างครั้งอาจจะต้องเสียเวลารอคิว
  • หากระบบเกิดการขัดข้อง ส่งผลให้ไม่สามารถเรียกรถได้
  • หากว่าการซ่อมแซมหรือซ่อมบำรุง จำทำให้ไม่สามารถใช้งานได้
  • บางโครงการที่ใช้ระบบที่จอดรถแบบอัตโนมัติ อาจจะมีการเก็บค่าส่วนกลางแพงขึ้น
ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ
ที่จอดรถแบบอัตโนมัติ Image by livingpop.com

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่จอดรถในคอนโดมิเนียม

ไหน ๆ ก็เป็นการเจาะลึกเรื่องรายละเอียดของที่จอดรถแล้ว เรื่องกฎหมายก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้ ซึ่งก็ได้มีกฎหมายควบคุมเรื่องจำนวนที่จอดของแต่ละโครงการคอนโดเช่นกัน สำหรับการกำหนดจำนวนที่จอดนั้น ทางโครงการไม่สามารถกำหนดได้เองตามความต้องการ แต่จะต้องจัดทำที่จอดให้มีจำนวนเหมาะสมตามตามขนาด โครงการไหนที่จัดทำที่จอดน้อยกว่ากฎหมายกำหนด ก็อาจจะไม่ได้รับอนุญาติให้ดำเนินการก่อสร้างอาคาร

สำหรับจำนวนที่จอดรถของโครงการคอนโดมิเนียมนั้น จะต้องเป็นไปตามข้อกฎหมาย ดังนี้

พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 : จำนวนที่จอดรถในคอนโดมิเนียม คำนวณตามพื้นที่การใช้สอย

ใน พรบ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2544 และ กฏกระทรวงฉบับที่ 7 จัดให้ คอนโดมิเนียมเป็นประเภทของ ที่อยู่อาศัยรวม หรือ อาคารชุด และถูกแบ่งออกเป็นอีก 2 กรณี คือ ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพ ฯ และนอกเขตกรุงเทพ ฯ มีการคำนวณตามพื้นที่การใช้สอยดังนี้

  • ในเขตพื้นที่กรุงเทพ ฯ คอนโดที่มีห้องพื้นที่ตั้งแต่ 60 ตารางเมตร ขึ้นไป ต้องมีที่จอดรถ 1 คัน ต่อ 1 ห้อง
  • นอกเขตพื้นที่กรุงเทพ ฯ คอนโดที่มีห้องพื้นที่ตั้งแต่ 60 ตารางเมตร ขึ้นไป ต้องมีที่จอดรถ 1 คัน ต่อ 2 ห้อง
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่จอดรถในคอนโดมิเนียม-scaled
ที่จอดรถในคอนโดมิเนียม

จำนวนที่จอดรถในคอนโดคำนวณตามขนาดของอาคาร

สำหรับในด้านกฎหมาย ที่จอดรถของ คอนโดมิเนียม หรือ อาคารชุด จะต้องพิจารณาจากหลักเกณฑ์ดังนี้ หากเป็น อาคารขนาดใหญ่ ที่สร้างไว้เพื่อใช้เป็นอาคาร หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของอาคารเป็นที่ประกอบกิจการประเภทเดียวหรือหลายประเภท โดยมีความสูงจากระดับถนนตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไป และมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นในหลังเดียวกันเกิน 1,000 ตารางเมตร หรือมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใดในหลังเดียวกันเกิน 2,000 ตารางเมตร

ดังนั้นโครงการที่พื้นที่ก่อสร้างมากกว่า 1,000 ตารางเมตร และ สูง 15 เมตร ขึ้นไป หรืออาคารที่มีพื้นที่ก่อสร้างเกิน 2,000 ตารางเมตร จะถูกจัดว่าเป็นอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีข้อกำหนดจำนวนที่จอดรถโดยคำนวนจากขนาดของอาคาร แยกออกเป็นอีก 2 กรณี ดังนี้

  • ในเขตพื้นที่กรุงเทพ ฯ ทุกพื้นที่ก่อสร้าง 120 ตารางเมตร ต้องมีที่จอดรถ 1 คัน
  • นอกเขตพื้นที่กรุงเทพ ฯ ทุกพื้นที่ก่อสร้าง 240 ตารางเมตร ต้องมีที่จอดรถ 1 คัน

เมื่อคำนวนที่จอดรถจากทั้ง 2 กรณีข้างต้นแล้ว ให้ก่อสร้างตามกรณีที่ได้จำนวนมากที่สุด ถ้าหากนำจำนวนที่จอดรถมาเทียบกับจำนวนห้อง ก็จะได้จำนวนร้อยละ (%) ของที่จอดรถในโครงการคอนโดนั้น ๆ

วิธีคำนวณ

จำนวนที่จอดรถ x 100 ÷ จำนวนยูนิตห้องคอนโด = จำนวน % ที่จอดรถ

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างที่อยู่ในโครงการคอนโดมิเนียม เป็นการลงทุนของเดเวลอปเปอร์ทั้งหมด ตั้งแต่ราคาที่ดิน ค่าก่อสร้าง รวมไปถึงที่จอดรถ ซึ่งจะถูกนำมาคำนวณเป็นราคาขาย ห้อง/ตารางเมตร ในตอนสุดท้ายอยู่ดี ทำให้คอนโดที่มีห้องพักอาศัยเยอะ จำนวนที่จอดรถเยอะ มีราคาห้องแพงตามกันไปนั่นเอง


บทสรุปส่งท้าย

PropertyScout เขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะเห็นว่าปัจจุบันหลาย ๆ คนก็ยังคงใช้รถยนต์ส่วนตัวกันอยู่ ด้วยความที่สะดวกในการเดินทาง และเรื่องที่จอดรถ ยังจัดเป็นหนึ่งในปัญหายอดฮิต ของคนที่อยู่คอนโด ก็ว่าได้ ซึ่งมีตั้งแต่ที่จอดรถไม่เพียงพอต่อต้องการของคนทั้งคอนโดได้ สำหรับคอนโดโดยส่วนใหญ่ ก็จะมีที่จอดรถให้ 50%-60% ของจำนวนห้อง บางโครงการที่มีผู้พักอาศัยเยอะก็จะยิ่งมีความวุ่นวายในที่จอดรถ โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน 

หวังว่าข้อมูลเรื่องที่จอดรถคอนโดทั้งหมดในบทความนี้ จะเป็นประโยชน์กับทุกคน ที่จะนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อคอนโดนะครับ เพื่อที่จะได้คอนโดที่ตอบโจทย์ตรงใจตัวเองมากที่สุด


อ่านบทความ รีวิวโครงการ หรืออัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog หากมีคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ ซื้อ เช่า ขาย สามารถติดต่อ PropertyScout ได้เลย! ทีมงานของเราพร้อมให้บริการและตอบทุกข้อสงสัย