รวมเทคนิคช่วยให้ผู้ประกอบการ SME กู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น!

รวมเทคนิคช่วยให้ผู้ประกอบการ SME กู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น! รวมเทคนิคช่วยให้ผู้ประกอบการ SME กู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น!

In Short

Advice

ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง หรือ 'SME' จำนวนไม่น้อย และต่างคนก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเองทั้งนั้น และเนื่องจากเป็นผู้ประกอบการ SME ทำให้หลายคนคิดว่าจะต้องขอกู้ซื้อบ้านยากแน่นอน

ซึงในความเป็นจริงแล้ว 'ความไม่รู้' นี่แหละครับที่ทำให้กู้บ้านไม่ผ่าน อย่างเช่นในกรณีที่สถาบันการเงินต้องการข้อมูลบางอย่างแล้วผู้ประกอบการไม่สามารถให้ข้อมูลได้ตรงความต้องการ ก็อาจทำให้การกู้บ้านครั้งนั้นไม่ผ่านได้ครับ ดังนั้นผู้ประกอบการทุกรายควรเตรียมตัวให้พร้อม รวมไปถึงเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้สถาบันการเงินเกิดความมั่นใจว่าเราสามารถจ่ายเงินค่าผ่อนได้ และนอกจากเรื่องเอกสารแล้ว ไม่ควรลืมมองในมุมมองของสถาบันการเงินด้วยครับ เพราะหากมีคนทำธุรกิจมากู้เงินเรา เราก็คงอยากรู้ว่าเงินที่เราให้ไปจะถูกนำไปใช้ทำอะไรต่อ? มีโอกาสที่จะจ่ายเงินคืนได้จริงไหม? ซึ่งก็จะต้องดูว่าธุรกิจที่ต้องการกู้มีศักยภาพหรือความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะประสบความสำเร็จ เพื่อประเมินว่าจะสามารถชำระคืนได้จริงไหมภายในระยะเวลาที่ตกลงกันครับ เดี๋ยวในบทความนี้ PropertyScout จะพาผู้ประกอบการทุกคนไปดูเทคนิคที่จะช่วยให้กู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้นครับ

รวมเทคนิคช่วยให้ผู้ประกอบการ SME กู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น!

ประเมินรายได้ของธุรกิจก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน

ประเมินรายได้ของธุรกิจก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน
ประเมินรายได้ของธุรกิจ

SME แบบกิจการครัวเรือนไม่ได้จดทะเบียนการค้า

เช่น ร้านขายของชำขนาดย่อม ๆ ซึ่งเวลาคำนวณรายได้ก็จะคำนวณโดยเอา ยอดขายลบกับต้นทุน ทำให้ได้ผลกำไรขั้นต้นออกมาครับ ยกตัวอย่างเช่น

ยอดขาย 1,200,000 บาท - ต้นทุน 850,000 บาท = กำไรขั้นต้น 350,000 บาท

สำหรับกรณีที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนการค้าเป็นกิจลักษณะ ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารจะมีการขอสำรวจกิจการโดยการเข้าไปถ่ายรูป จากนั้นก็จะให้ผู้ประกอบการทำแบบฟอร์มสำรวจรายได้ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาการกู้สินเชื่อครับ


SME จดทะเบียนการค้า

เช่น ร้านขายเครื่องเขียน ร้านกาแฟ ซึ่งธุรกิจ SME ประเภทนี้จะต้องมีหุ้นส่วนและมีสัดส่วนการแบ่งหุ้นที่ชัดเจน เนื่องจากได้ทำการจดทะเบียนการค้าแล้ว นอกจากนั้นยังมีการทำรายรับ-รายจ่ายที่ชัดเจนเนื่องจากจะต้องยื่นให้กับสรรพากรอยู่แล้วครับ ตัวอย่างการคำนวณรายได้ เช่น

ผู้ถือหุ้น : นาย Property ถือหุ้น 60% และ นาย Scout ถือหุ้น 40%

ธุรกิจมียอดขาย 1,200,000 บาท - ต้นทุน 850,000 บาท = กำไรขั้นต้น 350,000 บาท

นาย Property จะได้ 210,000 บาท ส่วน นาย Scout จะได้ 140,000 บาท

นอกจากนั้นธุรกิจ SME จะต้องดำเนินกิจการมาไม่น้อยกว่า 2 ปี ครับ เพราะถ้าหากน้อยกว่านี้สถาบันการเงินจะพิจารณาปล่อยกู้ยากขึ้น และในช่วง 2-3 ปี แรกที่กิจการกำลังเติบโต ก็ไม่ควรแบ่งรายได้ซื้อทรัพย์สินส่วนตัวมากจนเกินไป แต่ควรที่จะเอาเงินมาต่อยอดธุรกิจ เพื่อที่จะได้สร้างความมั่นคงให้ธุรกิจมีความแข็งแรงยิ่งขึ้นครับ


ประเมินภาระหนี้สินที่มีอยู่ ก่อนกู้ซื้อบ้าน

ประเมินภาระหนี้สินที่มีอยู่-ก่อนกู้ซื้อบ้าน
ประเมินภาระหนี้สินที่มีอยู่

สำหรับการดำเนินธุรกิจ SME ผู้ประกอบการหลาย ๆ รายก็จะมีการขอสินเชื่อเพื่อเอาไปดำเนินกิจการ ตัวอย่างเช่น การเสริมสภาพคล่องของกิจการ การซื้อเครื่องจักร และอื่น ๆ ซึ่งถือได้ว่าเป็นข้อดีสำหรับเจ้าของกิจการที่อยากที่จะกู้ซื้อบ้าน เพราะสถาบันการเงินไม่ได้นำภาระหนี้สินในส่วนนี้มาคิดรวมด้วยครับ เนื่องจากภาระหนี้กิจการเป็นภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูง และอย่างที่กล่าวในหัวข้อที่แล้วว่ารายได้ของ SME สถาบันการเงินได้ทำการรวมภาระหนี้ตรงนี้เข้าไปคำนวณด้วยแล้วนั่นเองครับ

นี่เป็นเป็นเหตุผลที่สถาบันการเงินไม่ได้นำมาคิดรวม เพราะหากมากไปกว่านี้ภาระหนี้การกู้ซื้อบ้าน คือ 'ภาระหนี้ส่วนบุคคล' ซึ่งต่างจากภาระหนี้ของกิจการในรูปแบบ 'นิติบุคคล' โดยสิ้นเชิง โดยที่ภาระหนี้ส่วนบุคคลหมายถึง ภาระหนี้ที่ทำให้ชีวิตเกิดความ Enjoy หรือเพื่อตอบสนองความต้องการส่วนตัว อย่างเช่น หนี้รถ บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล เป็นต้นครับ

สถาบันการเงินจะได้เกณฑ์การคำนวณจาก 3 ปัจจัยหลักที่ได้กล่าวไป ตัวอย่างการคำนวณ คือ สถาบันการเงินจะคำนวณแบบครึ่งหนึ่ง เช่น รายได้สุทธิอยู่ที่ 200,000 บาท ซึ่งภาระหนี้ก็ไม่ควรจะเกิน 100,000 บาท เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสามารถผ่อนไหว และสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างก็คือ ยิ่งรายได้มากโอกาสที่ธนาคารจะให้กู้ก็มากตามไปด้วยครับ


ต้องมีวินัยในการผ่อนชำระหนี้ ก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน

ต้องมีวินัยในการผ่อนชำระหนี้-ก่อนตัดสินใจกู้ซื้อบ้าน
วินัยในการผ่อนชำระหนี้

มาถึงตอนนี้แล้วผู้ประกอบการหลายคนก็คงสงสัยกันว่า ทำอย่างไรให้ธนาคารรู้จักเราพอสมควร? ว่าเราเป็นใคร ทำธุรกิจอะไร มีประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง? สิ่งนี้ ถือได้ว่าเป็นด่านแรกที่ธนาคารจะตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการมีประวัติชำระหนี้ที่ดี หรือมีหนี้เสียหรือไม่ พฤติกรรมการชำระหนี้ที่ผ่านมาสามารถบ่งชี้ได้ว่าผู้กู้รายนี้เป็นลูกค้าชั้นดีไหม เคยมีประวัติติดยอดค้างชำระอะไรหรือเปล่า

ซึ่งในปัจจุบันการยื่นขอสินเชื่อธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน หรือสินเชื่อส่วนบุคคล หรือซื้อรถ ทุกคนต้องแสดงตัวตนเรื่องประวัติการชำระหนี้จากการตรวจสอบประวัติเครดิตครับ หรือที่เรียกกันว่า 'เครดิตบูโร' นั่นเอง แต่ในกรณีที่ยังไม่มีประวัติการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลก็อาจจะต้องเริ่มคิดที่จะสร้างประวัติทางการเงินขึ้นมาบ้าง เนื่องจากธนาคารจะได้รู้จักเรามากขึ้นผ่านการผ่อนชำระหนี้ และจะได้ง่ายต่อการพิจารณาการปล่อยกู้ซื้อบ้านให้กับเราครับ


กู้ร่วม

กู้ร่วม
กู้ร่วม

การกู้ร่วมที่เป็นการทำสัญญากู้สินเชื่อด้วยกันกับอีกคน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ความฝันการอยากมีบ้านเป็นจริงมากขึ้นครับ โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการ SME เพราะจะช่วยให้สถาบันการเงินมีความมั่นใจได้ว่าผู้ประกอบการมีผู้กู้ร่วมที่มีศักยภาพที่จะผ่อนชำระได้ หากใช้วิธีกู้ร่วม ก็จะมีข้อดีคือ สามารถขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ได้วงเงินเพิ่มมากขึ้น และไม่ต้องแบกรับภาระหนี้เพียงคนเดียวครับ


ก่อนกู้ซื้อบ้าน ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?

ก่อนกู้ซื้อบ้าน-ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
เอกสารที่ต้องเตรียม

สำหรับเอกสารกู้ซื้อบ้านของเจ้าของธุรกิจ SME ถือได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากกับเจ้าของกิจการในรูปแบบ SME ครับ ถ้าหากเป็นกรณี SME ประเภทจดทะเบียนการค้า มีเอกสาร 'ภ.พ. 30' ก็จะยิ่งเป็นเรื่องง่ายครับ เนื่องจากในเอกสารจะบอกไว้อย่างละเอียดว่ามีรายรับรายจ่ายมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งมี Statement กับทางสถาบันการเงินแบบเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนด้วยครับ

แต่ถ้าหากเป็นธุรกิจ SME ประเภทที่ไม่ได้จดทะเบียนการค้าก็มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องโชว์ Statement ให้กับสถาบันการเงินดูครับ นอกจากนั้นก็จะต้องมีบิลค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับกิจการ และรายรับจะต้องสอดคล้องไปกับรายจ่ายด้วยเช่นเดียวกันครับ

สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการกู้ซื้อบ้านกับสถาบันการเงิน โดยส่วนมากก็จะมีดังนี้ครับ


เอกสารทั่วไป

  1. สำเนาบัตรประชาชน บัตรข้าราชการ หรือหนังสือเดินทาง
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน
  3. สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณะบัตร/ใบแจ้งความแยกกันอยู่
  4. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล (ถ้ามี)

เอกสารแสดงรายได้

กรณีประกอบอาชีพประจำ หรือผู้มีรายได้ประจำ

  • หนังสือรับรองเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนแบบใช้สวัสดิการของหน่วยงาน
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน
  • สมุดบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน

กรณีเจ้าของธุรกิจ

  • สำเนาทะเบียนการค้าหรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท
  • รายชื่อผู้ถือหุ้น
  • รายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน
  • สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษี
  • หลักฐานการเสียภาษี เช่น ภ.พ. 30 เป็นต้น
  • รูปถ่ายกิจการ 4-5 ภาพพร้อมแผนที่ตั้งโดยสังเขป

กรณีประกอบอาชีพอิสระ

  • รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  • ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เช่น แพทย์, ทนาย, สถาปนิก เป็นต้น

เอกสารหลักประกัน

  • สำเนาโฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิห้องชุด
  • สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญามัดจำ
  • แผนที่แสดงทำเลที่ตั้งของที่ดินหลักประกัน

*บางสถาบันการเงินอาจมีรายละเอียดเรื่องการเตรียมเอกสารสำหรับขอกู้ซื้อบ้านที่แตกต่างไปจากที่กล่าวข้างต้น ดังนั้นควรศึกษารายละเอียด เงื่อนไขของสถาบันการเงินนั้น ๆ ให้ดีนะครับ


สรุปส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเทคนิคช่วยให้ผู้ประกอบการ 'SME' กู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น จะเห็นได้ว่าการเตรียมความพร้อมสำหรับการกู้ซื้อบ้านจากสถาบันการเงินถือเป็นเรื่องทั่วไปเลย เพียงแต่ในบางครั้งหลาย ๆ คนอาจจะละเลยไปบ้าง และไม่ได้วางแผนให้ดีไว้ก่อน แบบนี้แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่ถึงเวลาที่จะใช้เงินกู้ สถาบันการเงินก็จะมองว่าเราขาดความพร้อม ทำให้ผู้ประกอบการอย่างเราไม่ได้เงินตามที่ต้องการครับ ในทางกลับกันผู้ประกอบการ SME ที่ได้เตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดีแล้ว มีการวางแผนการเงินที่ดี เวลายื่นหลักฐานต่าง ๆ ให้ธนาคารดำเนินการพิจารณาการขออนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับเงินกู้ตามแบบที่ต้องการ PropertyScout หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกคนนะครับ สำหรับใครที่มีความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ หรือ อยากแชร์ประสบการณ์การซื้อบ้าน สามารถคอมเม้นท์กันมาได้ตรงด้านล่างเลยนะครับ


อ่านบทความ รีวิวโครงการ อัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog

มีคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ เช่า ซื้อ ขาย

คลิกตามด้านล่างได้เลย


อ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง คลิก






FAQs

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique.

Explore More Topics

Free real estate resources and tips on how to capitalise