In Short
Advice
สวัสดีครับ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น เพราะบ้านคือส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคน เป็นทั้งสถานที่สำหรับใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะกินข้าว นอนหลับ พักผ่อน ทำงาน และทำกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม การซื้อบ้านสักหลังโดยส่วนมากก็จะต้องใช้เงิน เป็นหลักล้านขึ้นไปอย่างแน่นอน และสำหรับคนที่ทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือน การเก็บเงินเป็นก้อนเพื่อซื้อบ้านคงต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะได้ซื้อก็คงอายุมากกันพอดี
ซึ่งวิธีการที่คนส่วนมากนิยมทำกันก็คือ "กู้สินเชื่อบ้าน" เพราะช่วยให้ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่หมดในคราวเดียว สามารถผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ แต่อย่างไรก็ตาม การกู้สินเชื่อบ้านนั้นมีความเข้มงวดในการอนุมัติ ทำให้เราต้องเจอกับความยุ่งยากและมีความซับซ้อนมากกว่าสินเชื่อแบบอื่น เพราะว่าบ้านถือเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาแพงที่แบงค์จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลของเราอย่างละเอียดก่อนปล่อยกู้ หากว่าเราทำงานประจำแล้วมีรายได้มั่นคงก็มีสิทธิกู้ผ่านได้ไม่ยาก เดี๋ยว PropertyScout จะพาทุกคนมาดูเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนทุกคนยื่นกู้บ้านกับแบงค์ได้ผ่านฉลุย

เทคนิคแรก : สร้างรายได้ให้มั่นคง
สำหรับเทคนิคแรกอยากแนะนำให้ทุกคนพยายามสร้างรายได้ให้มั่นคง สำหรับคนที่ทำงานประจำ มีเงินเดือนเข้ามาทุกเดือน แบงค์ก็สามารถใช้ข้อมูลนี้ไปตรวจสอบได้ว่าเรามีที่มารายได้ที่ชัดเจน ทำให้คนทำงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือนมีความได้เปรียบที่แบงค์หรือสถาบันทางการเงินจะอนุมัติปล่อยสินเชื่อให้กู้ได้ง่าย ส่วนคนที่ทำอาชีพอิสระต่าง ๆ หรือฟรีแลนซ์ หากต้องการให้แบงค์อนุมัติสินเชื่อให้ก็จะต้องสร้างรายได้ให้มีความชัดเจนและดูมั่นคงมากที่สุด

เทคนิคที่สอง : หาบ้าน หรือคอนโด ที่ราคาจับต้องได้สำหรับตัวเรา
สำหรับเทคนิคต่อไป อยากแนะนำให้ทุกคนลองไปพิจารณาว่าบ้านหรือคอนโดที่เราเลือกนั้น เมื่อลองหารออกมาเป็นค่าใช้จ่ายต่องวดแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่เราผ่อนจ่ายไหวหรือไม่ และไม่ว่าบ้านหรือคอนโดที่เราเล็งไว้จะมีราคากี่ล้านก็ตามก็ไม่ควรมีราคาสูงเกินความสามารถของตัวเรา โดยเราสามารถดูจากรายได้หลักและหักลบกลบหนี้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านหรือคอนโดไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน
ตัวอย่างรายได้ต่อเดือน ค่าผ่อนต่องวด และวงเงินสูงสุด
รายได้ต่อเดือน (บาท) | จำนวนผ่อนต่องวดสูงสุด (บาท) | วงเงินกู้ (บาท) |
15,000 | 6,000 | 1,000,000 |
25,000 | 10,000 | 1,600,000 |
35,000 | 14,000 | 2,300,000 |
45,000 | 18,000 | 3,600,000 |
55,000 | 22,000 | 3,600,000 |
65,000 | 26,000 | 4,300,000 |
75,000 | 30,000 | 5,000,000 |
85,000 | 34,000 | 5,600,000 |
95,000 | 38,000 | 6,300,000 |
100,000 | 40,000 | 6,600,000 |
ลองประเมินความสามารถในการกู้ อิงจากรายได้ (เงินเดือน) + เงื่อนไขของแบงค์
จากที่ได้กล่าวไปว่า ค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านหรือคอนโดไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน มาจากเหตุเพราะว่าธนาคารได้กำหนดเงื่อนไขว่าผู้กู้ทุกสายอาชีพสามารถแบกรับภาระหนี้ได้ที่ 40% ของรายได้ต่อเดือน และอัตราขั้นต่ำของเงินผ่อนชำระต่องวดที่แบงค์ได้กำหนดไว้ อยู่ที่ประมาณล้านละ 6,000 - 7,000 บาท
ตัวอย่าง
- นาย PropertyScout เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ปัจจุบันมีอายุ 25 ปี ทำงานมาได้ 1 ปี ได้รับเงินเดือน 28,000 บาท และไม่มีภาระหนี้สินอื่น
สิ่งที่นาย PropertyScout ต้องการ:
- ขออนุมัติวงเงินกู้ซื้อบ้านในราคา 3.5 ล้านบาท
คำถามที่ตามมา:
- แบงค์จะให้วงเงินกู้ 100% หรือไม่? และผ่อนขั้นต่ำเท่าไหร่?
วิธีคำนวณ:
ขั้นตอนแรก
- เงินเดือน x ความสามารถในการแบกรับหนี้ที่แบงค์กำหนด = จำนวนเงินผ่อนที่สามารถรับได้
28,000 บาท x 40% = 11,200 บาท
ขั้นตอนที่สอง
- จำนวนเงินผ่อนที่แบกรับได้ x ยอดเงินที่ต้องการกู้ ÷ อัตราขั้นต่ำของเงินผ่อนชำระต่องวด = ยอดเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ
11,200 บาท x 3,500,000 บาท ÷ 12,000 บาท = 3,270,000 บาท
คำตอบ:
- นาย PropertyScout สามารถแบกรับจำนวนเงินผ่อนต่องวดอยู่ที่ 11,200 บาทต่อเดือน ทำให้ไม่สามารถกู้ได้เต็มจำนวนที่ต้องการ ถึงแม้ไม่ว่าจะมีภาระหนี้สินอื่น แต่บ้านราคา 3,500,000 บาทก็ถือว่าเกินกำลังความสามารถของ นาย PropertyScout ไประดับนึง หากต้องการซื้อบ้านในราคานี้ควรมีเงินเดือนประมาณ 35,000 บาทขึ้นไป
*ตัวอย่างนี้เป็นเพียงแค่การประมาณเท่านั้น หากต้องการข้อมูลที่ชัดเจนขอแนะนำให้สอบถามกับธนาคาร ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขแตกต่างกันไปด้วย

เทคนิคที่สาม : ลดภาระหนี้สินทั้งหมด
การมีหนี้สินอย่างอื่นมากเกินไปจะกลายเป็นภาระทางการเงินที่ทำให้เราเหนื่อย ลำพังแค่หนี้ของการกู้เงินมาซื้อบ้านหรือคอนโดที่อยู่ระดับ 40% ของเงินเดือน ก็ถือว่าเป็นการสร้างหนี้ก้อนใหญ่แล้ว ดังนั้นถ้าให้ดีเราควรลดภาระหนี้อื่น ๆ ให้น้อยลง หรือถ้าเคลียร์หนี้ทั้งหมดได้ก็จะยิ่งดีกับตัวเรา และยังส่งผลให้แบงค์พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้เราได้ง่ายขึ้นด้วย

เทคนิคที่สี่ : อย่าลืมออมเงิน 20 % สำหรับการวางดาวน์
การออมเงินเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ดอกเบี้ยในการผ่อนชำระถูกลง ดังนั้นเราควรให้ความสำคัญกับการออม โดยออมเงินให้ได้จำนวน 20% ของราคาบ้านหรือคอนโด เพื่อไว้ใช้สำหรับการวางเงินดาวน์ อย่างเช่นบ้านราคา 4,000,000 บาท จะต้องวางเงินดาวน์ประมาณ 800,000 บาท หากว่าเราวางแผนการออมในส่วนนี้ให้ดี ก็จะทำให้ยอดค่าผ่อนบ้านแต่ละเดือนเบาลง ดอกเบี้ยถูกลง

เทคนิคที่สุดท้าย : สร้างประวัติเครดิตบูโรที่ดี
ใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วทำบัตรเครดิต หรือกู้สินเชื่อในการผ่อนของอย่างอื่นอยู่อย่างเช่น รถยนต์ ต้องชำระหนี้ในแต่ละเดือนให้ตรงตามกำหนด และไม่ควรมีการค้างชำระหนี้ หรือถ้าค้างชำระก็ห้ามเกิน 90 วัน เพราะถ้าเกิดว่าค้างชำระเกิน 90 วัน เราก็จะเสียประวัติของเครดิตที่ดี ส่งผลให้การขอยื่นกู้อย่างอื่นเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะกู้สินเชื่อบ้านหรือคอนโด เพราะแบงค์ก็จะมองว่าเราเป็นบุคคลที่ไม่สามารถชำระหนี้ตามได้กำหนด ดังนั้นการสร้างเครดิตที่ดีก็จะทำให้เราดูน่าเชื่อถือสำหรับแบงค์

บทสรุปส่งท้าย
PropertyScout ขอทิ้งท้ายไว้ว่า การที่บ้านและคอนโดเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะขอกู้สินเชื่อผ่านยาก และทางสถาบันการเงิน หรือแบงค์ก็จะมีการพิจารณาอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับสินเชื่อเงินสดรูปแบบอื่น ๆ ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำงานประจำ หรือทำงานอิสระ ฟรีแลนซ์ ทำธุรกิจส่วนตัว ก็จะต้องเตรียมตัวมากพอสมควรก่อนที่จะทำการกู้บ้าน ซึ่งการเตรียมความพร้อมที่ดีก็จะทำให้ไม่ต้องมาเสียเวลาในการยื่นกู้หลาย ๆ รอบ
ขอแนะนำว่า ก่อนที่ทุกคนจะทำการยื่นเรื่องขอกู้กับแบงค์ ควรจะมีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อยอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป ก็จะทำให้ขอกู้ได้ง่ายขึ้น แล้วก็อย่าลืมออมเงินไว้สำหรับวางดาวน์ 20 % ของราคาบ้านหรือคอนโด จะทำให้เราไม่ต้องแบกรับภาระหนี้ต่อเดือนมากจนเกินไปอีกด้วย
สำหรับคนที่ทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็จะมีข้อได้เปรียบจากการที่แบงค์จะมองว่าเรามีความน่าเชื่อถือ เพราะมีรายได้มั่นคงและสามารถตรวจสอบที่มาได้ ในทางกลับกันคนที่ไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะทำอาชีพอิสระ ทำธุรกิจส่วนตัว หรือ ฟรีแลนซ์ หากจะกู้สินเชื่อผ่อนบ้านผ่อนคอนโด ก็สามารถทำได้เหมือนกัน แค่พยายามสร้างเครดิตให้ดี และทำให้รายได้ดูมีความมั่นคงที่สุด
ลองนำเทคนิคง่าย ๆ ที่ได้แนะนำไว้ไปปรับใช้ดูนะครับ เพียงแค่นี้ก็ช่วยให้ทุกคนยื่นกู้บ้านกับแบงค์ได้ผ่านฉลุยแล้ว
อ่านบทความ รีวิวโครงการ หรืออัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog หากมีคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ ซื้อ เช่า ขาย สามารถติดต่อ PropertyScout ได้เลย! ทีมงานของเราพร้อมให้บริการและตอบทุกข้อสงสัย
FAQs
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique.
Explore More Topics
Free real estate resources and tips on how to capitalise