แชร์เทคนิค “เป็นมนุษย์เงินเดือน” กู้บ้าน คอนโด ได้อย่างไร?

Author
by
At
December 29, 2022
แชร์เทคนิค “เป็นมนุษย์เงินเดือน” กู้บ้าน คอนโด ได้อย่างไร? แชร์เทคนิค “เป็นมนุษย์เงินเดือน” กู้บ้าน คอนโด ได้อย่างไร?

สวัสดีครับ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็อยากมีบ้านเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น เพราะบ้านคือส่วนหนึ่งของชีวิตทุกคน เป็นทั้งสถานที่สำหรับใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะกินข้าว นอนหลับ พักผ่อน ทำงาน และทำกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม การซื้อบ้านสักหลังโดยส่วนมากก็จะต้องใช้เงิน เป็นหลักล้านขึ้นไปอย่างแน่นอน และสำหรับคนที่ทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือน การเก็บเงินเป็นก้อนเพื่อซื้อบ้านคงต้องใช้เวลานานมาก กว่าจะได้ซื้อก็คงอายุมากกันพอดี

ซึ่งวิธีการที่คนส่วนมากนิยมทำกันก็คือ "กู้สินเชื่อบ้าน" เพราะช่วยให้ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่หมดในคราวเดียว สามารถผ่อนจ่ายเป็นงวด ๆ แต่อย่างไรก็ตาม การกู้สินเชื่อบ้านนั้นมีความเข้มงวดในการอนุมัติ ทำให้เราต้องเจอกับความยุ่งยากและมีความซับซ้อนมากกว่าสินเชื่อแบบอื่น เพราะว่าบ้านถือเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาแพงที่แบงค์จะต้องวิเคราะห์ข้อมูลของเราอย่างละเอียดก่อนปล่อยกู้ หากว่าเราทำงานประจำแล้วมีรายได้มั่นคงก็มีสิทธิกู้ผ่านได้ไม่ยาก เดี๋ยว PropertyScout จะพาทุกคนมาดูเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้มนุษย์เงินเดือนทุกคนยื่นกู้บ้านกับแบงค์ได้ผ่านฉลุย

เทคนิคแรก : สร้างรายได้ให้มั่นคง

สำหรับเทคนิคแรกอยากแนะนำให้ทุกคนพยายามสร้างรายได้ให้มั่นคง สำหรับคนที่ทำงานประจำ มีเงินเดือนเข้ามาทุกเดือน แบงค์ก็สามารถใช้ข้อมูลนี้ไปตรวจสอบได้ว่าเรามีที่มารายได้ที่ชัดเจน ทำให้คนทำงานประจำหรือมนุษย์เงินเดือนมีความได้เปรียบที่แบงค์หรือสถาบันทางการเงินจะอนุมัติปล่อยสินเชื่อให้กู้ได้ง่าย ส่วนคนที่ทำอาชีพอิสระต่าง ๆ หรือฟรีแลนซ์ หากต้องการให้แบงค์อนุมัติสินเชื่อให้ก็จะต้องสร้างรายได้ให้มีความชัดเจนและดูมั่นคงมากที่สุด

เทคนิคแรก-สร้างรายได้ให้มั่นคง-scaled
การสร้างรายได้ให้มั่นคง

เทคนิคที่สอง : หาบ้าน หรือคอนโด ที่ราคาจับต้องได้สำหรับตัวเรา

สำหรับเทคนิคต่อไป อยากแนะนำให้ทุกคนลองไปพิจารณาว่าบ้านหรือคอนโดที่เราเลือกนั้น เมื่อลองหารออกมาเป็นค่าใช้จ่ายต่องวดแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่เราผ่อนจ่ายไหวหรือไม่ และไม่ว่าบ้านหรือคอนโดที่เราเล็งไว้จะมีราคากี่ล้านก็ตามก็ไม่ควรมีราคาสูงเกินความสามารถของตัวเรา โดยเราสามารถดูจากรายได้หลักและหักลบกลบหนี้ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านหรือคอนโดไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน

ตัวอย่างรายได้ต่อเดือน ค่าผ่อนต่องวด และวงเงินสูงสุด

รายได้ต่อเดือน (บาท)จำนวนผ่อนต่องวดสูงสุด (บาท)วงเงินกู้ (บาท)
15,0006,0001,000,000
25,00010,0001,600,000
35,00014,0002,300,000
45,00018,0003,600,000
55,00022,0003,600,000
65,00026,0004,300,000
75,00030,0005,000,000
85,00034,0005,600,000
95,00038,0006,300,000
100,00040,0006,600,000

ลองประเมินความสามารถในการกู้ อิงจากรายได้ (เงินเดือน) + เงื่อนไขของแบงค์

จากที่ได้กล่าวไปว่า ค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านหรือคอนโดไม่ควรเกิน 40% ของเงินเดือน มาจากเหตุเพราะว่าธนาคารได้กำหนดเงื่อนไขว่าผู้กู้ทุกสายอาชีพสามารถแบกรับภาระหนี้ได้ที่ 40% ของรายได้ต่อเดือน และอัตราขั้นต่ำของเงินผ่อนชำระต่องวดที่แบงค์ได้กำหนดไว้ อยู่ที่ประมาณล้านละ 6,000 - 7,000 บาท

ตัวอย่าง

  • นาย PropertyScout เป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ปัจจุบันมีอายุ 25 ปี ทำงานมาได้ 1 ปี ได้รับเงินเดือน 28,000 บาท และไม่มีภาระหนี้สินอื่น

สิ่งที่นาย PropertyScout ต้องการ:

  • ขออนุมัติวงเงินกู้ซื้อบ้านในราคา 3.5 ล้านบาท

คำถามที่ตามมา:

  • แบงค์จะให้วงเงินกู้ 100% หรือไม่? และผ่อนขั้นต่ำเท่าไหร่?

วิธีคำนวณ:

ขั้นตอนแรก

  • เงินเดือน x ความสามารถในการแบกรับหนี้ที่แบงค์กำหนด = จำนวนเงินผ่อนที่สามารถรับได้

28,000 บาท x 40% = 11,200 บาท

ขั้นตอนที่สอง

  • จำนวนเงินผ่อนที่แบกรับได้ x ยอดเงินที่ต้องการกู้ ÷ อัตราขั้นต่ำของเงินผ่อนชำระต่องวด = ยอดเงินกู้ที่ได้รับอนุมัติ

11,200 บาท x 3,500,000 บาท ÷ 12,000 บาท = 3,270,000 บาท

คำตอบ: 

  • นาย PropertyScout สามารถแบกรับจำนวนเงินผ่อนต่องวดอยู่ที่ 11,200 บาทต่อเดือน ทำให้ไม่สามารถกู้ได้เต็มจำนวนที่ต้องการ ถึงแม้ไม่ว่าจะมีภาระหนี้สินอื่น แต่บ้านราคา 3,500,000 บาทก็ถือว่าเกินกำลังความสามารถของ นาย PropertyScout ไประดับนึง หากต้องการซื้อบ้านในราคานี้ควรมีเงินเดือนประมาณ 35,000 บาทขึ้นไป

*ตัวอย่างนี้เป็นเพียงแค่การประมาณเท่านั้น หากต้องการข้อมูลที่ชัดเจนขอแนะนำให้สอบถามกับธนาคาร ซึ่งแต่ละธนาคารก็จะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขแตกต่างกันไปด้วย

เทคนิคที่สอง-หาบ้าน-หรือคอนโด-ที่ราคาจับต้องได้สำหรับตัวเรา-scaled
ไม่ว่าบ้านหรือคอนโดที่เราเล็งไว้จะมีราคากี่ล้านก็ตามก็ไม่ควรมีราคาสูงเกินความสามารถของตัวเรา

เทคนิคที่สาม : ลดภาระหนี้สินทั้งหมด

การมีหนี้สินอย่างอื่นมากเกินไปจะกลายเป็นภาระทางการเงินที่ทำให้เราเหนื่อย ลำพังแค่หนี้ของการกู้เงินมาซื้อบ้านหรือคอนโดที่อยู่ระดับ 40% ของเงินเดือน ก็ถือว่าเป็นการสร้างหนี้ก้อนใหญ่แล้ว ดังนั้นถ้าให้ดีเราควรลดภาระหนี้อื่น ๆ ให้น้อยลง หรือถ้าเคลียร์หนี้ทั้งหมดได้ก็จะยิ่งดีกับตัวเรา และยังส่งผลให้แบงค์พิจารณาปล่อยสินเชื่อให้เราได้ง่ายขึ้นด้วย 

เทคนิคที่สาม-ลดภาระหนี้สินทั้งหมด
ก่อนยื่นกู้สินเชื่อบ้าน เราควรลดภาระหนี้อื่น ๆ ให้น้อยลง หรือถ้าเคลียร์หนี้ทั้งหมดได้ก็จะยิ่งดีกับตัวเรา

เทคนิคที่สี่ : อย่าลืมออมเงิน 20 % สำหรับการวางดาวน์

การออมเงินเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ดอกเบี้ยในการผ่อนชำระถูกลง ดังนั้นเราควรให้ความสำคัญกับการออม โดยออมเงินให้ได้จำนวน 20% ของราคาบ้านหรือคอนโด เพื่อไว้ใช้สำหรับการวางเงินดาวน์ อย่างเช่นบ้านราคา 4,000,000 บาท จะต้องวางเงินดาวน์ประมาณ 800,000 บาท หากว่าเราวางแผนการออมในส่วนนี้ให้ดี ก็จะทำให้ยอดค่าผ่อนบ้านแต่ละเดือนเบาลง ดอกเบี้ยถูกลง

เทคนิคที่สี่-อย่าลืมออมเงิน-20-สำหรับการวางดาวน์-scaled
อย่าลืมออมเงิน 20 % สำหรับการวางดาวน์

เทคนิคที่สุดท้าย : สร้างประวัติเครดิตบูโรที่ดี

ใครที่เป็นมนุษย์เงินเดือนแล้วทำบัตรเครดิต หรือกู้สินเชื่อในการผ่อนของอย่างอื่นอยู่อย่างเช่น รถยนต์ ต้องชำระหนี้ในแต่ละเดือนให้ตรงตามกำหนด และไม่ควรมีการค้างชำระหนี้ หรือถ้าค้างชำระก็ห้ามเกิน 90 วัน เพราะถ้าเกิดว่าค้างชำระเกิน 90 วัน เราก็จะเสียประวัติของเครดิตที่ดี ส่งผลให้การขอยื่นกู้อย่างอื่นเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะกู้สินเชื่อบ้านหรือคอนโด เพราะแบงค์ก็จะมองว่าเราเป็นบุคคลที่ไม่สามารถชำระหนี้ตามได้กำหนด ดังนั้นการสร้างเครดิตที่ดีก็จะทำให้เราดูน่าเชื่อถือสำหรับแบงค์

เทคนิคที่สุดท้าย-สร้างประวัติเครดิตบูโรที่ดี-1-scaled
การสร้างเครดิตที่ดีก็จะทำให้เราดูน่าเชื่อถือสำหรับแบงค์

บทสรุปส่งท้าย

PropertyScout ขอทิ้งท้ายไว้ว่า การที่บ้านและคอนโดเป็นสินทรัพย์ที่มีราคาสูง จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะขอกู้สินเชื่อผ่านยาก และทางสถาบันการเงิน หรือแบงค์ก็จะมีการพิจารณาอย่างเข้มงวดเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับสินเชื่อเงินสดรูปแบบอื่น ๆ ดังนั้นไม่ว่าเราจะทำงานประจำ หรือทำงานอิสระ ฟรีแลนซ์ ทำธุรกิจส่วนตัว ก็จะต้องเตรียมตัวมากพอสมควรก่อนที่จะทำการกู้บ้าน ซึ่งการเตรียมความพร้อมที่ดีก็จะทำให้ไม่ต้องมาเสียเวลาในการยื่นกู้หลาย ๆ รอบ 

ขอแนะนำว่า ก่อนที่ทุกคนจะทำการยื่นเรื่องขอกู้กับแบงค์ ควรจะมีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อยอยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป ก็จะทำให้ขอกู้ได้ง่ายขึ้น แล้วก็อย่าลืมออมเงินไว้สำหรับวางดาวน์ 20 % ของราคาบ้านหรือคอนโด จะทำให้เราไม่ต้องแบกรับภาระหนี้ต่อเดือนมากจนเกินไปอีกด้วย

สำหรับคนที่ทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็จะมีข้อได้เปรียบจากการที่แบงค์จะมองว่าเรามีความน่าเชื่อถือ เพราะมีรายได้มั่นคงและสามารถตรวจสอบที่มาได้ ในทางกลับกันคนที่ไม่ได้เป็นมนุษย์เงินเดือน ไม่ว่าจะทำอาชีพอิสระ ทำธุรกิจส่วนตัว หรือ ฟรีแลนซ์ หากจะกู้สินเชื่อผ่อนบ้านผ่อนคอนโด ก็สามารถทำได้เหมือนกัน แค่พยายามสร้างเครดิตให้ดี และทำให้รายได้ดูมีความมั่นคงที่สุด 

ลองนำเทคนิคง่าย ๆ ที่ได้แนะนำไว้ไปปรับใช้ดูนะครับ เพียงแค่นี้ก็ช่วยให้ทุกคนยื่นกู้บ้านกับแบงค์ได้ผ่านฉลุยแล้ว


อ่านบทความ รีวิวโครงการ หรืออัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog หากมีคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ ซื้อ เช่า ขาย สามารถติดต่อ PropertyScout ได้เลย! ทีมงานของเราพร้อมให้บริการและตอบทุกข้อสงสัย