มีนบุรี ทำเลศักยภาพที่เหมาะกับการอยู่อาศัย
มีนบุรี ทำเลสุดฮอตแห่งกรุงเทพฯ ตะวันออก
ทำความรู้จักย่านมีนบุรี
มีนบุรี (Minburi) ย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงด้วยศักยภาพของทำเลโดยรอบที่เหมาะเป็นแหล่งที่พักอาศัย พร้อมไลฟ์สไตล์ที่ความเจริญกำลังเข้ามาให้เติบโตขึ้นไปอีกขึ้นขั้นเพื่อช่วยให้ผู้คนสะดวกยิ่งกว่า แต่ยังคงความสงบ ใกล้ธรรมชาติ ให้คุณได้ใช้ชีวิตง่าย ไม่วุ่นวายเหมือนกลางกรุง ฯ ซึ่งมีที่มาในอดีตที่น่าสนใจ โดยมีจุดเด่นเรื่องใดบ้างและได้รับการพัฒนาพื้นที่มาอย่างไรจนกลายเป็นมีนบุรีทำเลทองในวันนี้
เจาะลึกทำเลชุมชนเก่าย่านมีนบุรี
รู้หรือไม่ มีนบุรีในอดีตเคยเป็นหนึ่งในจังหวัดของกรุงเทพมหานครตั้งแต่ปีพ.ศ. 2445 ที่มีความโดดเด่นในเรื่องปลาชุกชุมซึ่งเป็นที่มาของชื่อ มีนบุรี ที่แปลว่า เมืองปลานั่นเอง โดยคนในพื้นที่และย่านใกล้เคียงต่างคุ้นเคยกับพื้นที่ย่านมีนบุรีในชื่อ “ทุ่งแสนแสบ” หรือ “ทุ่งหลวง”
ต่อมาจึงได้มีการเริ่มสร้างเมืองซึ่งได้มีการขุดคลองสร้างถนนโดยได้ขยายพื้นที่ไปยังหลายพื้นที่ตั้งแต่ทุ่งพญาไท ทุ่งสามเสน ทุ่งมหาเมฆ ทุ่งบางกะปิและทุ่งมีนบุรีซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่มีการทำนาใหญ่ที่สุด และไม่นานมานั้นโลกก็ต้องเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยจนได้เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายมาเป็นเขตมีนบุรีจนถึงปัจจุบัน
โดยพื้นที่ในเขตมีนบุรีประมาณ 60 ตารางกิโลเมตรซึ่งถูกจัดเป็นเขตที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของกรุงเทพมหานครที่มีถนนสายหลักหลายสายเชื่อมต่อย่านต่าง ๆ ได้แก่ ย่านบางกะปิ ย่านรามคำแหง ย่านบางเขน ย่านรามอินทรา ย่านลาดกระบัง ย่านหนองจอก ย่านคลองสามวา ย่านลำลูกกา รวมถึงพื้นที่ฝั่งภาคตะวันออกซึ่งล้วนมีความเจริญ
รู้จักความเป็นมาและการพัฒนาพื้นที่ย่านมีนบุรี
จะเห็นได้ว่า “มีนบุรี” จึในอดีตมาจากเทือกสวน ไร่นา บ่อปลาจนเริ่มถูกพัฒนาเข้าสู่ความเป็นเมืองมากยิ่งขึ้นโดยในปัจจุบันพื้นที่ย่านนี้ได้ถูกรับการพัฒนาเปลี่ยนแปลงค่อยข้างเห็นได้ชัดเจนจากการเข้ามาอยู่อาศัยของผู้คนในพื้นที่ ระแวกใกล้เคียงและต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาทำงานเนื่องจากใกล้แหล่งงานทั้งนิคมในเขตมีนบุรีเอง หรือสถานที่ใกล้เคียงที่เป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างลาดกระบัง
โดยกลุ่มโครงการอสังหาฯ ที่เกิดขึ้นจะอยู่ในกลุ่มบ้านจัดสรร อาคารพาณิชย์และสถานประกอบกิจการทั้งขนาดเล็กใหญ่ นิคมอุตสาหกรรม ศูนย์การค้าที่สำคัญอาทิ ตลาดมีนบุรี ตลาดน้ำขวัญเรียมและตลาดนัดจตุจักร 2 นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครันทั้งสถานีขนส่ง สวนสาธารณะและพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ กับโครงการรถไฟฟ้าสายอนาคตที่มาตัดผ่านช่วงมีนบุรีซึ่งในอนาคตจะเข้ามาชาวยเพิ่มความสะดวกให้ก่ผู้คนในย่านนี้
ส่องทำเล“มีนบุรี”แหล่งไลฟ์สไตล์ของคนเมือง
มีนบุรี ย่านชานเมืองที่มีความคึกคักซึ่งเป็นแหล่งชุมชนและจุดเชื่อมต่อการคมนาคมที่สำคัญ อีกทั้งยังใกล้แหล่งเศรษฐกิจย่านลาดกระบังจึงทำให้ย่านนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครันเพื่อรองรับผู้คนในการใช้ชีวิต ดังนี้
- ห้างสรรพสินค้า: ศูนย์การค้านวมินทร์พลาซ่า, เซ็นทรัลแฟมิลี่, บิ๊กซีร่มเกล้า, บิ๊กซี สุขาภิบาล 3, โลตัสมีนบุรี, แฟชั่นไอแลนด์
- โรงพยาบาล: โรงพยาบาลนวมินทร์ 9, โรงพยาบาล สินแพทย์ เสรีรักษ์, ศูนย์บริการสาธารณสุข 43
- อาคารและสำนักงาน: สำนักงานเขตมีนบุรี
- สถานศึกษา: โรงเรียนมีนบุรี, โรงเรียนปัญจทรัพย์, โรงเรียนปิยะมินทร์คุณารักษ์, โรงเรียนภูมิสมิทธ์, โรงเรียนมีนประสาทวิทยา, วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี
- สถานที่สำคัญ : สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี
- สถานที่ท่องเที่ยวและสถานบันเทิง: Minburi Country Club, วันแล้ววันเล่า ร่มเกล้า, บ้านตะเกียง มีนบุรี, สิงห์ปะหละ, สามวัน สองคืน มีนบุรี
- สถานที่ออกกำลังกาย : Asia Socity Fitness Romklao, ฟิตเนส อาร์เค
- ร้านอาหาร : ต้มแซ่บมีนบุรี, ราดหน้าเทียมฟ้า, เปี๊ยก ข้าวต้มแปดริ้ว, ไผ่เหลือง, บ้านปีระกา, ครัวฮอม, The Little Alley, เตี๋ยวยำ-ปังหยา, บ้านไม้ขาว, ร้านอาหารชมนา Bar & Terrace
ในย่านมีนบุรีสิ่งอำนวยความสะดวกจะมีตั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง แต่ก็สามารถให้ผู้คนไปจับจ่ายใช้สอยซื้อของจำเป็นต่าง ๆหรือเดินเล่นได้ เช่น ตลาดมีนบุรี แต่หากต้องการเดินห้างแฟชั่นไอแลนด์ถือเป้นหนึ่งในตัวเลือกของผู้คนในย่านนี้เนื่องจากเดินทางไม่ไกลมากนัก
ส่วนสถานที่อื่น ๆ ทั้งร้านอาหาร ร้านนั่งชิลล์ หรือผับบาร์ก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายแต่จะเน้นเป็นอาหารท้องถิ่นมากกว่าอาหารนานาชาติ แต่สิ่งหนึ่งที่ตอบโจทย์คนมีครอบครัวได้แก่ สถานศึกษาที่มีหลายแห่งให้เลือกเรียนได้ตามความพึงพอใจของผู้ปกครองซึ่งมีทั้งสายสามัญและสายอาชีพไว้เป็นตัวเลือกให้พิจารณา
การเดินทางมายังย่าน“มีนบุรี”
“มีนบุรี” New EDB ที่ขยายตัวมาจากกรุงเทพฯ ชั้นในกับทำเลด้านการคมนาคมช่วยให้ผู้คนเข้าถึงการเดินทางได้ง่ายขึ้นโดยมีวิธีการเดินทาง ดังนี้
- รถไฟฟ้า : แม้ในปัจจุบันยังไม่มีรถไฟฟ้าให้บริการในย่านนี้ แต่อีกไม่นานก็จะมีการพาดผ่านจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ให้บริการช่วงแคราย - มีนบุรีโดยมีระยะทางทั้งหมด 34.5 กิโลเมตรโดยมี 4 สถานีจุดเปลี่ยนสำคัญ ได้แก่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (ต่อสายสีม่วง) สถานีหลักสี่ (ต่อสายสีแดง) สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ (ต่อสายสีเขียว)และสถานีมีนบุรี (ต่อสายส้ม)
- รถยนต์ส่วนตัว : มีนบุรีถือเป็นขุดเชื่อมต่อกรุงเทพฯ กับภาคตะวันออกที่ผู้คนนิยมใช้บริการโดยมีถนนสายสำคัญ ได้แก่ รามอินทรา ร่มเกล้า เสรีไทย รามคำแหง สุวินทวงศ์ ราษฏร์อุทิศและสามวาใหม่และใกล้กับทางพิเศษกาญจนามากที่สุด โดยสามารถใช้จุดขึ้นลงได้ที่ช่วงทางต่างระดับแยกสุขาภิบาล 3 หรือจะใช้ช่วงถนนเสรีไทยแล้วใช้จุดขึ้นลงบริเวณคลองกุ่มก็ได้เช่นเดียวกัน
- รถเมล์ : บริการรถสาธารณะที่เปิดให้บริการวิ่งผ่านย่านมีนบุรีเป็นระยะโดยมีทั้งหมดประมาณ 8 สายเพื่อช่วยเชื่อมต่อการเดินทางให้สะดวกมากขึ้นทั้งในระยะใกล้เคียงและเข้าสู่ใจกลางเมือง
- สาย 8 : ตลาดแฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ
- สาย 58 : มีนบุรี-ประตูน้ำ
- สาย 143 : มีนบุรี-เคหะฉลองกรุง
- สาย 168 : สวนสยาม-ถนนพระราม 9-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
- สาย 173 : บางขุนเทียน-มีนบุรี
- สาย 514 : มีนบุรี-รัชดา-สีลม
- สาย 519 : อู่สวนสยาม-เซ็นทรัลพระราม 3
- สาย 525 : สวนสยาม-ถนนมิตรไมตรี-ตลาดหนองจอก
- วินมอเตอร์ไซค์ : เนื่องจากเป็นย่านที่มีแหล่งจับจ่ายใช้สอยทำมห้วินมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่จะอยู่ตามช่วงตลาดและท่ารถโดยสารเพื่ออำนวยความสะดกให้ผู้คนย่านนี้โดยอัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ประมาณ 15 บาท
- รถตู้ : จะมีคิวรถตู้ให้บริการผู้โดยสารบริเวณตลาดมีนบุรีซึ่งจะให้บริการในโซนกรุงเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ รังสิต ประตูน้ำ เอกมัย ซึ่งอัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ประมาณ 25 บาท
- รถสองแถว: มีรถสองแถวให้บริการคิดราคาตลอดสาย 8 บาทซึ่งจะมีจุดจอดรับหลัก ๆ ช่วงตลาดมีนบุรี
ย่านมีนบุรี จึงเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างกรุงเทพฯ กับภาคตะวันออกที่ง่ายต่อการเดินทาง แต่อาจจะต้องทำใจเนื่องจากย่านนี้ค่อนข้างมีปริมาณรถสะสมหนาแน่นโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน หรือเวลาเลิกงาน หากเวลาปกติสามารถเดินทางไปมาได้ค่อนข้างลื่นไหลซึ่งหากรถไฟฟ้าสายสีชมพูพร้อมเปิดให้บริการจะมีส่วนช่วยทำให้ย่านนี้เดินทางสะดวกมากยิ่งขึ้น
มุมมองของย่านมีนบุรีการพัฒนาในอนาคต
ด้วยความเป็นที่มีนบุรีมีขนาดพื้นที่ค่อนข้างเยอะและตอบโจทย์แทบทุกด้านทั้งแหล่งที่อยู่อาศัย การคมนาคม สิ่งอำนวยความสะดวก สถานีที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงการเชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ และตะวันออก พร้อมโครงการรถไฟฟ้าสายอนาคตและที่พลาดไม่ได้อีกข้อคือใกล้กับแหล่งงานที่สำคัญทั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่และย่านใกล้เคียงที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของประเทศทำให้มีนบุรีวันนี้ไม่ใช่แค่ชานเมืองธรรมดาอีกต่อไป แต่กำลังจะได้รับการพลิกโฉมด้วยรูปลักษณ์ใหม่ซึ่งจะมีอะไรน่าสนใจบ้างมาติดตามกันเลย
ย่านมีนบุรี HUB การเดินทางแห่งอนาคตที่เหมาะกับทุกวัย
มีนบุรี ทำเลชานเมืองที่กำลังถูกพลิกโฉมจากการลงทุนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูแคราย - มีนบุรีที่ได้รับการประเมินจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์กับอาคารธนาคารสงเคราะห์(REIC) เกี่ยวกับราคาที่ดินที่มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 35 ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ที่อยู่อาศัยในย่านนี้และยังเปิดโอกาสรองรับการเติบโตของแหล่งที่พักอาศัย
เพราะในอดีตย่านนี้ค่อนข้างลำบากในเรื่องการเดินทางเนื่องจากมีเพียงรถสาธารณะ เช่น รถสองแถว รถโดยสารประจำทางและรถตู้ที่เปิดให้บริการเท่านั้นซึ่งต้องรอแต่ละเที่ยวเต็ม หรือมีเที่ยวบริการค่อนข้างน้อยทำให้ค่อนข้างเสียเวลา อีกทั้งการเดินทางโดยรถยนต์ในย่านนี้ก็มีปัญหาเรื่องการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนและหลังเลิกงานที่ค่อนข้างแน่นจากปริมาณรถสะสมอย่างต่อเนื่องทำให้เคลื่อนที่ได้ช้าสร้างความหงุดหงิดใจให้ผู้คนในย่านนี้มาอย่างยาวนาน
แต่หลังจากมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้ามาซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ในปี 2021 ซึ่งล่าช้าไปพอสมควรและคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในปี 2565 ส่งผลให้เหล่านักลงทุนอสังหาฯ เริ่มเข้ามาลงทุนโครงการบ้าน ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียมและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ มากยิ่งขึ้นและด้วยค่าที่ดินที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับย่านลาดกระบังจึงเหมาะต่อการลงทุนในกลุ่มวัยทำงานเนื่องจากใกล้กับแหล่งงานและไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก
มีนบุรี ทางเลือกใหม่ของคนกรุงที่เหมาะกับการอยู่อาศัย
นอกจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่กำลังเปิดให้บริการแล้วนั้น ในอนาคตย่านมีนบุรียังมีรถไฟฟ้าสายสีส้มจากสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี จะเปิดให้บริการซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกให้ผู้คนที่ต้องการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองให้เชื่อมถึงกันได้ไม่เกิน 30 นาทีซึ่งช่วยประหยัดเวลาค่าเดินทางและยังรวดเร็วกว่าขับไปเอง
หากหลังจากการก่อสร้างทั้งสายสีชมพูและสายสีส้มเสร็จสิ้นแล้ว มีนบุรีจะได้รับปัจจัยเชิงบวกต่อการลงทุนเป็นอย่างมากซึ่งพื้นที่ทำเลจะกลายเป็นตัวเลือกของคนกรุงที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายผ่านการตัดซื้อเพื่อเป็นที่พักอาศัยซึ่งไม่ได้เหมาะเพียงวัยทำงานที่อยู่ใกล้แหล่งงานสำคัญหลายแห่ง แต่ยังเหมาะกับกลุ่มครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นเมื่อมีบุตร
เนื่องจากปัจจัยด้านราคาที่ดินย่านมีนบุรียังไม่สูงมากนักหากเทียบกับย่านใกล้เคียงอย่างรามอินทราและลาดกระบังซึ่ง First Jobber หรือคนที่มีรายได้ปานกลางก็สามารถเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นที่พักอาศัยที่ในอนาคตทำเลย่านนี้ยังคงถูกมองเห็นว่าสามารถเจริญเติบโตได้อีกไกล
ราคาตลาด ณ ปัจจุบัน
สำหรับราคาที่ดินย่านมีนบุรี ในปัจจุบันจากการประเมินที่ดินล่าสุดในปี 2565 พบว่า ช่วงถนนสุวินทวงศ์ราคาที่ดินเฉลี่ยอยู่ที่ 42,000-62,000 บาท/ตร.ว. โดยถนนสุวินทวงศ์เป็นถนนที่มีเส้นรถไฟฟ้าสายสีส้มพาดผ่านซึ่งหากเทียบราคาที่ดินในย่านนี้กับถนนสายสำคัญเส้นใกล้เคียงอย่างรามคำแหง รามอินทรา สีหบุรานุกิจยังคงมีราคาต่ำกว่าจึงเหมาะพิจารณาเพื่อเลือกเป็นที่พักอาศัย
โดยดูจากราคาโครงการบ้านและทาวน์โฮมในปีล่าสุดพบว่ามีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 3 - 80 ล้านบาทต่อหลัง ส่วนราคาปล่อยเช่าจะเริ่มต้นประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมจะมีค่อนข้างน้อยแต่จะเริ่มต้น 1.49 ล้านบาทซึ่งทำเลจะอยู่ระหว่างมีนบุรี - รามคำแหง หรือช่วงแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ส่วนราคาปล่อยเช่าจะเริ่มต้นตั้งแต่ 5,000 บาทต่อเดือนไปจนถึงหลักหมื่นซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดห้องและโครงการ
สรุปส่งท้าย
มีนบุรี จึงเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีเนื้อที่มากที่สุดในกรุงเทพฯ ชานเมืองระหว่างกรุงเทพฯ กับภาคตะวันออกที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญทำให้ง่ายต่อการเดินทางด้วยโครงการต่าง ๆ ที่กำลังทยอยเข้ามาเพื่อพลิกโฉมย่านมีนบุรีให้มีความเจริญมากยิ่งขึ้น ดึงดูดผู้คนที่ต้องหลีกหนีความวุ่นวายให้เข้ามาอยู่อาศัยบนทำเลที่เงียบสงบแต่ไม่ไกลจากสิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงแหล่งงานและสถานที่สำคัญอื่น ๆ ในราคาที่คุ้มค่าที่ให้มากกว่าที่อยู่อาศัยไม่ว่าใครก็เข้ามาอยู่ได้ซึ่งรับรองว่าจะตอบโจทย์วีถิชีวิตให้คงความชิค แต่ได้ความสงบไปในตัว