ไขข้อสงสัย อายุเท่าไหร่ถึงควรมีบ้านของตัวเอง?
สวัสดีครับ การมีบ้านเป็นของตัวเองอาจจะไม่ใช่ความต้องการที่เร่งด่วนสำหรับหลาย ๆ คน เพราะต่างคนต่างมีการจัดการชีวิตที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะยังอยากเช่าอพาร์ตเม้นท์ หรือคอนโดที่อยู่ใกล้กับออฟฟิศ เพราะว่าช่วยประหยัดเวลาในการเดิินทาง หลายคนยังมีความจำเป็นที่จะต้องอยู่กับพ่อแม่ ด้วยเหตุผลส่วนตัวต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ยังมีคนอีกจำนวนมากที่กำลังอยากมีบ้านของตัวเอง ไม่ว่าจะเพื่อเป็นหลักประกันในอนาคต เพื่อสร้างครอบครัว หรือเหตุผลอื่น ๆ ก็ตาม ซึ่งคำถามที่ตามมาสำหรับคนที่อยากมีบ้านก็คือ เราควรมีบ้านตอนอายุเท่าไหร่ จึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสม ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันกับ PropertyScout ได้ในบทความนี้เลย
เมื่อมีจุดประสงค์ในการซื้อบ้านที่ชัดเจน
ความชัดเจนสามารถนำไปสู่การเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมได้ครับ ดังนั้นก่อนเลือกซื้อบ้านให้ถามตัวเองก่อนว่า ต้องการจะซื้อบ้านไปเพื่ออะไร อย่างเช่น หากต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับอยุ่เอง ใกล้ที่ทำงานในเมือง อย่างงี้คอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าในเมืองน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แต่หากต้องการซื้อบ้านเพื่อวางแผนแต่งงาน รองรับการขยายจำนวนสมาชิกในครอบครัว แบบนี้การซื้อทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยวอาจจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าครับ ส่วนการซื้อบ้านเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้านเดี่ยว หรือทาวน์โฮม ทำเลถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกครับ
เมื่อมีความสามารถทางด้านการเงินมากพอ
สำหรับความสามารถในการซื้อบ้าน ไม่ได้หมายความแต่เพียงว่าต้องมีเงินก้อนเพื่อไปซื้อบ้านด้วยเงินสดนะครับ แต่ยังรวมไปถึง ความสามารถที่จะผ่อนบ้านได้จนครบสัญญา จริงอยู่ว่าการซื้อบ้านด้วยเงินสดถือเป็นการประหยัดค่าดอกเบี้ย แต่บ้านเป็นสินทรัพย์มูลค่าสูงและหนทางที่จะได้เงินก้อนมาซื้อบ้านคงไม่ใช่เรื่องง่ายครับ ดังนั้นการขอสินเชื่อบ้านจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในการเพิ่มความสามารถในการซื้อบ้าน แต่เราก็ควรมีการวางแผนทางการเงินให้ดีเสียก่อนจะกู้ซื้อบ้านนะครับ
องค์ประกอบที่บ่งชี้ความพร้อมในการซื้อบ้าน มีอะไรบ้าง?
สำหรับความสามารถทางด้านการเงินที่บ่งชี้ว่าเราพร้อมซื้อที่อยู่อาศัย จะขึ้นอยู่กับ 3 องค์ประกอบหลักดังนี้ครับ
- รายได้ประจำเดือน
- อายุผู้กู้ ซึ่งส่งผลต่อระยะเวลาการกู้
- อัตราดอกเบี้ยชำระเงินกู้
หากลองศึกษาเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ รายได้มักสัมพันธ์กับอายุ ดังนี้
- ช่วงเริ่มทำงานใหม่ (First Jobber) อายุ 23 - 25 ปี รายได้เฉลี่ย 12,000 - 19,000 บาทต่อเดือน สามารถกู้ซื้อบ้านในราคา 780,000 - 1,300,000 บาท (กู้ 35 ปี) สำหรับในวัยนี้ควรระมัดระวังเรื่องความฟุ่มเฟือยและเปลี่ยนงานบ่อยครับ
- ช่วงมุ่งมั่นทำงาน (Executive) อายุ 26 - 30 ปี รายได้เฉลี่ย 20,000 - 40,000 บาทต่อเดือน สามารถกู้ซื้อบ้านราคา 1,650,000 - 2,600,000 บาท (กู้ 35 ปี) เป็นวัยแห่งมั่นสู่ความสำเร็จ มีโอกาสก้าวหน้า และโอกาสล้มเหลวด้วยเช่นกัน
- ช่วงเริ่มต้นชีวิตคู่ (Newly Married Couple) อายุ 31 – 35 ปี รายได้ 41,000 - 70,000 บาทต่อเดือน สามารถซื้อบ้านราคา 2,950,000 - 4,400,000 บาท (กู้ 30 ปี) เป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายที่อยู่อาศัยร่วมกันกับคู่ครองครับ
- ช่วงลูกวัยเรียน (Nuclear Family) อายุ 36 - 50 ปี เป็นช่วงเวลาที่วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลงอย่างมากครับ ต้องจัดสรรทั้งเวลาส่วนตัว การงาน และการเงิน มากกว่านั้นค่าใช้จ่ายอาจเพิ่มขึ้นในระกับคูณ 3 - 4 เท่า แต่รายได้เพิ่มประมาณ 2 เท่า เท่ากับ 75,000 - 150,000 บาทต่อเดือน สามารถซื้อบ้านราคา 4,700,000 - 8,800,000 บาท (กู้ 25 ปี)
- ช่วงวัยเกษียณ (Retirement) อายุ 51 - 60 ปี รายได้ 160,000 - 250,000 บาทต่อเดือน สามารถกู้ซื้อบ้านได้อีก 5 ปี ในราคา 3,000,000 - 4,000,000 บาท เป็นช่วงที่ลูกมีงานทำมีรายได้เป็นของตนเอง สำหรับคนส่วนใหญ่จะเป็นช่วงปลอดภาระหนี้ แต่ยังต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในบ้านอยู่บ้างครับ
*หมายเหตุ - ผู้ที่มีความสามารถสูง สามารถมีรายได้สูงกว่าค่ามาตรฐานได้ครับ
จากคุณสมบัติที่ได้กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าในวัยเริ่มทำงานหรือช่วงอายุ 23 ปีขึ้นไป ก็เริ่มขอสินเชื่อได้แล้วครับ สำหรับข้อดีของการเริ่มขอสินเชื่อตั้งแต่อายุยังน้อย คือ ทำให้เรามีระยะเวลาผ่อนชำระได้นาน ซึ่งทำให้ได้รับสิทธิ์ในการผ่อนด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า เพราะโดยทั่วไปแล้ว วัยเริ่มทำงานนับว่ายังมีภาระในการใช้จ่ายไม่มากเมื่อเทียบกับภาระค่าใช้จ่ายเมื่ออายุมากขึ้น ที่ถึงแม้เงินเดือนจะสูงขึ้น แต่ภาระการใช้จ่ายก็มักจะสูงขึ้นไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการวางแผนแต่งงาน ค่าใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงลูก ค่ากินอยู่ ค่าเทอม ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุพการี หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของตัวเองครับ และเมื่ออายุมากขึ้น หากดูแลสุขภาพไม่ดีก็มีโอกาสที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าวัยเริ่มทำงานอาจจะมีภาระทางครอบครัวไม่มาก แต่พึงระวังค่าใช้จ่ายในการเข้าสังคม ทั้งงานสังสรรค์เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อน รวมทั้งการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากเป็นช่วงปีแรก ๆ ที่สามารถหารายได้ได้เอง และต้องการความเป็นอิสระสูง ทั้งนี้การสร้างภาระโดยการผ่อนค่าบ้าน อาจกลายเป็นหนึ่งหนทางที่จะช่วยฝึกวินัยการออมให้เราได้เช่นกันครับ
สรุปส่งท้าย
PropertyScout หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังมองหาบ้านหลังใหม่อยู่นะครับ สำหรับคนที่ต้องการหรือให้ความสำคัญกับการมีบ้านสำหรับการใช้ชีวิตของตัวเองในอนาคตก็ไม่ควรรอช้าครับ ให้เริ่มสำรวจตัวเองและเตรียมความพร้อมด้านการเงิน รวมไปถึงเริ่มหาข้อมูลราคาบ้านตั้งแต่วันนี้ เพราะการเริ่มต้นได้เร็วถือเป็นการสร้างหลักประกันในอนาคตที่มั่นคงกว่าครับ
สำหรับคนที่มีรายได้น้อย กู้วงเงินได้น้อยก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ อาจจะลองไปหาเทคนิคในการต่อยอดการซื้อบ้านได้เช่นกัน อย่างเช่น ในช่วงเริ่มต้นของการทำงาน อาจตัดสินใจซื้อคอนโดห้องเล็ก ราคาไม่สูง และเมื่อมีรายได้สูงขึ้นมีความสามารถในการผ่อนชำระได้มากขึ้น ก็ตัดสินใจขายคอนโด เพื่อไปซื้อทาวน์โฮม และต่อมาก็ขายทาวน์โฮมเพื่อไปซื้อบ้านเดี่ยวในที่สุด ซึ่งระหว่างในช่วงที่ยังไม่ได้อาศัยอยู่เอง เราก็สามารถปล่อยเช่า สร้างกระแสเงินสด เพื่อนำมาลดภาระในการผ่อนชำระในแต่ละเดือนได้อีกด้วยครับ
PropertyScout แหล่งรวมอสังหา ฯ ที่ดีที่สุดในประเทศไทย
หาทรัพย์ที่ชอบ ในราคาที่ใช่ ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก