รวมประเด็นฮิต! ทำไมถึงกู้บ้านไม่ผ่าน?

Author
by
At
December 23, 2022
รวมประเด็นฮิต! ทำไมถึงกู้บ้านไม่ผ่าน? รวมประเด็นฮิต! ทำไมถึงกู้บ้านไม่ผ่าน?

สวัสดีครับ หลายคนคงมีคำถามเวลาที่เราจะกู้สินเชื่อผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดกับแบงค์ แล้วดันเกิดปัญหากู้ไม่ผ่านขึ้นมา ซึ่งคำถามเหล่านั้นก็คงจะหนีไม่พ้นว่า “ทำไมเราถึงกู้ไม่ผ่านล่ะ” หรือ “ทำไมแบงค์ถึงไม่อนุมัติเงินให้เรา” และก็คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็คงทำให้หลายคนเกิดอาการฉุนไม่น้อย เดี๋ยวในบทความนี้ PropertyScout จะพาทุกคนมาดูกันในประเด็นของปัญหา “กู้บ้านไม่ผ่าน” “กู้คอนโดไม่ผ่าน” กัน และเราจะไปหาคำตอบถึงเรื่องนี้กัน ว่าสาเหตุที่เเท้จริงแล้วมันสามารถเกิดจากอะไรบ้าง แล้วเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแบบนั้นหรือเปล่า เดี๋ยวไปดูกันเลยครับ

รวมประเด็นฮิต-ทำไมถึงกู้บ้านไม่ผ่าน

มีเงินดาวน์ไม่พอ

หลายคนอาจจะเกิดคำถามว่า เงินดาวน์ไม่พอเกี่ยวอะไรกับการผ่อนด้วย? ยังไงก็ผ่อนไหวอยู่แล้ว ต้องขอบอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวอย่างยิ่ง เพราะว่าปกติแบงค์จะพิจารณาปล่อยกู้วงเงินให้กับเราประมาณ 70-80% ของราคาประเมิน ซึ่งนั้นก็หมายความว่าอีก 20-30% ที่เหลือเป็นส่วนของเงินดาวน์ที่เราต้องรับผิดชอบจ่ายให้ครบ ดังนั้นเราควรวางแผนการออมเงินสักก้อนไว้สำหรับซื้อบ้าน หากเราไม่มีเงินก้อนในสัดส่วนที่ได้กล่าวไปของราคาบ้าน แบงค์ก็จะประเมินว่าเรามีความเปราะบางทางการเงิน ดูไม่มั่นคง และไม่อนุมัติให้เรากู้เงินนั่นเองครับ

มีเงินดาวน์ไม่พอ-scaled
หากเราไม่มีเงินก้อนในสัดส่วนที่ได้กล่าวไปของราคาบ้าน แบงค์ก็จะประเมินว่าเรามีความเปราะบางทางการเงิน

ปัญหาจากผู้กู้ร่วม

สำหรับการกู้ร่วมกับญาติหรือคนสนิท บางแบงค์จะไม่นับรายได้จากผู้กู้ร่วมที่ไม่ได้เป็นพนักงานประจำ หากว่าผู้กู้ร่วมของเราทำอาชีพอิสระต่าง ๆ แล้วมีรายได้ไม่มาก ไม่มีกิจการของตัวเอง แบงค์ก็จะไม่รับพิจารณาครับ แต่ถ้าเกิดว่าผู้กู้ร่วมของเราเป็น แพทย์ อัยการ หรือข้าราชการ และพวกเขาไม่มีหนี้สินติดตัว ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นมาก

ปัญหาจากผู้กู้ร่วม-scaled
กู้ร่วมกับญาติหรือคนสนิท

เรื่องการงานก็สำคัญ

ต่อมาก็เรื่องการงาน ซึ่งแบงค์ก็จะพิจารณาว่างานที่เราทำอยู่ทุก ๆ วันว่าทำที่ไหน รับเงินเดือนอย่างไร มีความมั่นคงไหม ซึ่งทุกอย่างเป็นปัจจัยที่แบงค์จะต้องนำไปคิดพิจารณาก่อนปล่อยเงินกู้ เพราะการผ่อนบ้านต้องผ่อนจ่ายในระยะยาว ถ้าเราไม่มีความมั่นคงทางการเงินก็ยากที่จะได้รับการอนุมัติครับ

เรื่องการงานก็สำคัญ-scaled
แบงค์กจะพิจารณาว่างานที่เราทำอยู่ทุก ๆ วันว่าทำที่ไหน รับเงินเดือนอย่างไร มีความมั่นคงไหม

รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนตัว

สมมุติว่าผ่อนบ้านราคา 2 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 15 ปี ก็จะมีค่างวดตกอยู่ที่ประมาณ 14,000 บาทต่อเดือน แล้วเรามีเงินเดือน 40,000 บาท เมื่อหักค่าบัตรเครดิต ค่าผ่อนรถ ค่าซื้อของ และยังมีค่าใช้จ่ายกินอยู่ต่าง ๆ อีก ก็อาจจะมีเงินเหลือไม่พอค่าบ้าน ซึ่งแบงค์ก็จะดูรายได้ของเราหลังหักค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งหมด ถ้าหักค่าใช้จ่ายออกหมดแล้วยังไม่พอค่างวดในแต่ละเดือน แบงค์ก็จะไม่อนุมัติปล่อยกู้ให้เรา เพราะถ้าให้ไปแล้วมีปัญหาอย่างแน่นอนครับ

รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนตัว-scaled
ถ้าหักค่าใช้จ่ายออกหมดแล้วยังไม่พอค่างวดในแต่ละเดือน แบงค์ก็จะไม่อนุมัติปล่อยกู้ให้เรา

บทสรุปส่งท้าย : ทางออกของปัญหา

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับประเด็นฮิตที่ทำให้ขอกู้บ้านไม่ผ่าน คงจะตอบคำถามที่ค้างคาใจของหลาย ๆ คนไปแล้วว่าทำไมถึงกู้บ้านไม่ผ่าน? สรุปแล้วเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงไหน? PropertyScout ขอแนะนำว่าถ้ารู้ตัวกันเเล้วก็ลองเปลี่ยนตัวเองใหม่ อาจจะลองเริ่มจากการออมเงินก็ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถ เริ่มจากการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าเราใช้เงินจ่ายค่าอะไรบ้างในแต่ละวัน เมื่อเห็นภาพรวมแล้วก็ลองดูรายละเอียดค่าใช้จ่ายปลีกย่อยแต่ละอย่าง แล้วพิจารณาว่าอันไหนควรลดและเก็บออมครับ 

และในขั้นตอนของการออม ลองตั้งใจออมสักประมาณ 6-12 เดือน โดยออมแต่ละเดือนให้เท่ากับยอดเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละงวด ถือว่าเป็นการซ้อมการผ่อนบ้านไปในตัวครับ นอกจากนั้นยังเป็นการแก้ไขประวัติการเงินของเราให้ดีขึ้นอีกด้วย


อ่านบทความ รีวิวโครงการ หรืออัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog อยากได้คำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ เช่า ซื้อ ขาย สามารถติดต่อ PropertyScout ได้เลย ทางทีมงานพร้อมให้บริการและตอบทุกข้อสงสัย!