รามคำแหง 12 ทำเลยอดฮิตติดรั้วมหาลัย

รามคำแหง 12 ทำเล MRT สายใหม่ที่เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง

ทำความรู้จักย่านรามคำแหง 12

รามคำแหง 12 (Ramkamheng 12) ทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกที่ใกล้มหาวิทยาลัยกับอนาคตพื้นที่ทำเลแห่งใหม่ขยายธุรกิจ EDB ที่จะเข้ามามีส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสรองรับเติบโตของแหล่งงาน ช่วยสร้างอาชีพและธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมโครงการลงทุนอีกหลายแห่งที่กำลังพัฒนาสู่การเป็น HUB ขนาดใหญ่ที่ครบทั้งการใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยสะดวกแต่ยังคงเป็นมิตรกับธรรมชาติที่ต่างจากทำเลทั่วไปและให้คุณสะดวกสบายในการเดินทางด้วยโครงการไฟฟ้าที่เชื่อมต่อถึง 3 สาย สู่การพลิกโฉมทำเลทองในอนาคตที่เหมาะกับการอาศัยและการลงทุน

 เปิดประวัติ MRT สถานีใหม่ติดรั้วมหาลัย “รามคำแหง 12”

หากพูดถึงทำเลรามคำแหง 12 สิ่งแรกที่นึกถึงคงเป็นรั้วพ่อขุนซึ่งมีถนนสายหลัก คือ ถนนรามคำแหงที่มีความยาวมากถึง 18 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกตั้งแต่สี่แยกคลองตัน - แยกสำลีและช่วงที่สองตั้งแต่ช่วงแยกสำลี - แยกตัดถนนสุวินทวงศ์ 

ถนนรามคำแหงสามารถเชื่อมต่อถนนเสรีไทย ทะลุผ่านบางกะปิเพื่อเข้าสู่โซนกลางเมืองย่านลาดพร้าวได้ นอกจากนี้ยังตัดผ่านเข้าถนนนวมินทร์เพื่อตัดเข้ารัชดาและประเสริฐมนูญกิจได้อีกด้วย อีกทั้งยังเป็นถนนสายยาวที่สายเชื่อมต่อกับโซนซานเมืองอย่างอ่อนนุชและศรีนครินทร์ได้อีกด้วย 

โดยลักษณะทั่วไปของย่านนี้จะมีมหาลัยเป็นจุดศูนย์กลางในอดีตที่มีความแข็งแกร่งในด้านวิชากฎหมายซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนจากใต้ที่เข้ามาพักอาศัยในย่านนี้ทั้งการเข้ามาทำงาน มาศึกษา ทำมาค้าขาย พื้นที่ชุมชนส่วนใหญ่จึงเป็นชาวใต้เป็นหลัก แต่ก็ยังมีผู้คนจากที่อื่น ๆ เข้ามาพักอาศัยเช่นกันและในปัจจุบันเริ่มมีผู้คนหนาแน่นมากขึ้น

 การพัฒนาพื้นที่รามคำแหง 12

ด้วยลักษณะทำเลเป็นย่านการศึกษาเก่าแก่ทำให้ “รามคำแหง 12” กลายเป็นศูนย์กลางเกิดการค้าขายรายย่อยที่มีผู้คนเข้ามาพักอาศัยค่อนข้างหนาแน่น โดยเฉพาะอพาร์ทเมนต์ ห้องเช่าที่เกิดขึ้นจำนวนมากพร้อมโครงการห้างสรรพสินค้ากลุ่มเดอะมอลล์ที่เข้ามาปักธงถึง 4 สาขาทำให้มีส่วนสร้างไลฟ์สไตล์และเข้ามาเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้คนย่านนี้ 

ถึงแม้ในปัจจุบันได้ถึงปิดไปแล้ว 2 สาขาเพื่อรองรับการขยายตัวของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีส้มที่กำลังก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 - 2 ปีนี้ อีกทั้งยังเปลี่ยนรูปแบบเป็นโครงการมิกซ์ยูสเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานเพื่อรองรับการขยายตัวของที่พักอาศัยในปัจจุบันที่ยังคงไม่เพียงต่อความต้องการเนื่องจากในอนาคตที่ดินย่านนี้ยังไม่มีแรงจูงใจแก่นักลงทุน 

แต่เมื่อเริ่มมีเส้นทางรถไฟฟ้าเข้ามาเชื่อมต่อหลายสาย พร้อมการพัฒนาจากศูนย์การค้าเดิมเป็นโครงการใหม่ ๆ ที่ได้เป็นพื้นที่แค่ศูนย์การค้าเพียงอย่างเดียว แต่มีความผสนผสานมากขึ้น (Mix used) จึงเกิดเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสะท้อนให้กลุ่มนักลงทุนมองอนาคตย่านรามคำแหงเปลี่ยนไปซึ่งไม่ใช่แค่แหล่งสถานศึกษาต่อไป แต่จะก้าวขึ้นสู่ส่วนต่อขยายเศรษฐกิจแห่งใหม่ที่น่าลงทุน 

เติมเต็มการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับไลฟ์สไตล์ย่าน “รามคำแหง 12”

ด้วยไลฟ์สไตล์พื้นที่ทำเลใกล้สถานศึกษา แต่ใช่ว่าจะมีแค่โรงเรียนและร้านหนังสือ “รามคำแหง 12” ยังมาพร้อมจุดเด่นในเรื่องไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างครบครัน อีกทั้งยังคงความเป็นมิตรกับธรรมชาติ ที่ถึงแม้ผู้คนจะค่อนข้างพลุกพล่านแต่วิถีชีวิตยังค่อนข้างเรียบง่าย แต่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ดังนี้

• • ห้างสรรพสินค้า: เดอะมอล์ รามคำแหง เดอะมอลล์ บางกะปิ บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ สาขาหัวหมาก A-Link Square 
  • โรงพยาบาล: โรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลสมิติเวช สหคลินิกแพทย์ปัญญา 3
  • สถานศึกษา: มหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงเรียนเทพลีลา โรงเรียนนานาชาติเซนต์มาร์ค โรงเรียนราชานุชิต มหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ วิทยาเขตหัวหมาก  
  • อาคารและสำนักงาน: UM Tower 
  • สถานที่สำคัญ : สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางกะปิ สนามกอล์ฟนวธานี
  • สถานที่ท่องเที่ยวและสถานบันเทิง: ตลาดนัดกกท. กระต่ายหมายจันทร์ German house ห้องสมุด มหาดไทย Aftermoon ลอฟ ทู บาร์ สวนเสเฮฮา โกดังเล่า LAB ซอยมหาดไท 
  • สถานที่ออกกำลังกาย : FBT Fitness Center Home Fitness Club ราม65 Boost Fitness Bangkok
  • ร้านอาหาร : Tairyo Sushi ติ่งไท้ ฝู Shabuox halal ก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมูป้ายเหลือง ลุงจำเนียร ระเบียงบัง see 180 แกงป่าอาหารไทย รามคำแหง 24

จะเห็นได้ว่าย่าน “รามคำแหง 12” มีเดอะมอลล์เป็นห้างใหญ่มาค่อนข้างยาวนานแต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการเลือกช้อปของผู้คนเพราะภายในยังมีพื้นที่ร้านค้าให้บริการค่อนข้างครบตามความต้องการและในปัจจุบันก็มีห้างสรรพสินค้า และมิกซ์ยูสเกิดขึ้นอีกหลายแห่งจึงเพิ่มตัวเลือกให้ผู้คนย่านนี้ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเอาใจผู้ปกครองที่มีสถานศึกษาทั้งไทยและต่างชาติใกล้บ้านที่มีคุณภาพ รวมถึงยังใกล้สถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล สถานีตำรวจ และสถานที่สำคัญอื่น ๆ อีกทั้งยังใกล้สถานที่ออกกำลังกายทำให้สามารถทำกิจกรรมหลังเลิก หรือเลือกไปดื่มแฮงก์เอ้ากันได้ซึ่งมีทั้งฟิลล์บาร์นั่งชิลล์และผับให้สนุกกันแบบสุดเหวี่ยง จึงเป็นอีกย่านที่มีทั้งความสนุกด้วยไลฟ์สไตล์ที่ยังเป็นมิตรกับธรรมชาติ  

“รามคำแหง 12” ศูนย์กลาง interchange เชื่อมต่อรถไฟฟ้า 3 สาย

ด้วยไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต “รามคำแหง 12” ที่มีค่อนข้างครบ แม้จะไม่หลากหลายเท่าย่านใกล้เคียงแต่กำลังก้าวเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในด้านการคมนาคมที่จะเข้ามาเพิ่มความสะดกในการเดินทางของผู้คนในย่านนี้ซึ่งมีวิธีการเดินทาง ดังนี้

• • รถไฟฟ้า : ในปัจจุบันย่านนี้มีรถไฟฟ้าสถานีใกล้สุดคือ Airport Railink สถานีหัวหมากและในอนาคตจะสถานีรถไฟฟ้าอีกหลายสายผ่าน ได้แก่ MRT สายสีส้ม (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-บางกะปิ) สถานีรามคำแหง 12, MRT สายสีเทา วัชรพล-ลาดพร้าว-พระราม 9 และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-พัฒนาการ) ที่จะเข้ามามีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลงย่านนี้ 
  • รถยนต์ส่วนตัว : ในส่วนการเดินทางย่านรามคำแหง 12 จะใช้ถนนรามคำแหงเป็นหลักซึ่งจะตั้งแต่ถนนพัฒนาการต่อเนื่องถึงเขตมีนบุรีและยังมีถนนสายรองหลายสาย เช่นประชาอุทิศที่เชื่อมยังทางพิเศษฉลองรัช หรือหัวหมากที่เชื่อมไปยังกรุงเทพกรีฑาทะลุไปยังสานศรีนครินทร์ นอกจากนี้ยังมีตรอกซอกซอยย่อย ๆ ทะลุออกไปลาดพร้าวได้อีกด้วย 

สำหรับทางพิเศษที่ใกล้สุดในย่านนี้คือทางพิเศษฉลองรัชและศรีรัชฯ ที่อยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงประมาณ 1 - 2 กิโลเมตร 

• • รถเมล์ : อีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยรถสาธารณะให้บริการประมาณ 8 สาย ดังนี้  

• • • รถเมล์สาย 22: สวนสยาม-สาธุประดิษฐ์
    • รถเมล์สาย 40: สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพมหานคร(สายใต้)-ตลาดลำสาลี
    • รถเมล์สาย 60: สวนสยาม-ปากคลองตลาด
    • รถเมล์สาย 71: ปัฐวิกรณ์-วัดธาตุทอง
    • รถเมล์สาย 93: หมู่บ้านนักกีฬาฯ-สี่พระยา
    • รถเมล์สาย 501: อู่สวนสยาม-หัวลำโพง
    • รถเมล์สาย 545: นนทบุรี-สำโรง
    • รถเมล์สาย 207: มหาวิทยาลัยรามคำแหง-มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2

• • วินมอเตอร์ไซค์ : เนื่องจากเป็นย่านที่มีซอยย่อยค่อนข้างมากทำให้ย่านรามคำแหงมีวินไล่ตามจุดต่างๆ ที่สำคัญตั้งแต่เดอะมอลล์ไปยังซอยย่อยอื่น ๆ โดยมีอัตราค่าบริการเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 20 บาท ซึ่งขึ้นอยู่กับระยะทางของผู้โดยสาร 
  • รถสองแถว : จะมีคิวรถสองแถววิ่งให้บริการไปมาอยู่ไม่น้อยเช่น คิวหลักบริเวณคิวสองแถว ราม 24 สามารถเดินทางไปเดอะไนน์ เดอะมอลล์บางกะปิ แฮปปี้แลนด์ พัฒนาการ เป็นต้น ค่าบริการเริ่มตั้งแต่ 8 บาท
  • รถตู้ : จะมีคิวให้บริการอยู่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ให้บริการไปทั้งในโซนกรุงเทพชั้นในและชานเมือง รวมถึงจังหวัดใกล้เคียงซึ่งอัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 35 บาท 
  • เรือ : ย่านนี้ยังมีท่าเรือให้บริการหลายจุด ได้แก่ ท่าวัดเทพลีลา ท่าตรงข้ามมหาวิทยาลัยรามคำแหง ท่าสะพานมิตรมหาดไทย และท่าเดอะมอล์ รามคำแหง 24 

จึงทำให้พื้นที่ “รามคำแหง 12” เชื่อมต่อด้วยเส้นทางการคมนาคมแทบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางเรือ ทางรางไว้ให้บริการผู้คนในย่านนี้ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น และด้วยโครงการเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตที่จะเข้ามาให้บริการถึง 3 สายจะยิ่งช่วยเติมเต็มทุกการเดินทาง อีกทั้งยังช่วยลดระยะเวลาในการแก้ปัญหาการจราจรที่ค่อนข้างหนานแน่น ยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วนที่แทบจะไม่ขยับซึ่งปัญหานี้จะดีขึ้นในช่วงวันหยุดและเทศกาล 

 มุมมองของย่านสถานีย่านรามคำแหง 12 กับการพัฒนาในอนาคต

 “รามคำแหง 12” ทำเล MRT สายใหม่ที่มีความคึกคักอย่างต่อเนื่องจากเป็นย่านสถานศึกษาและแหล่งงานต่าง ๆ ทั้งออฟฟิศ สำนักงานและย่านอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทำให้ย่านนี้คึกคักไปด้วยนักเรียน นักศึกษาและกลุ่มคนวัยทำงานที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านนั่งชิลล์ ผับบาร์ หรือสถานที่สำคัญ เช่น โรงพยาบาล หรือสถานีตำรวจ รวมถึงศูนย์ราชการต่าง ๆ และกำลังพลิกโฉมก้าวสู่ย่าน EDB ที่จะเข้ามามีส่วนสำคัญให้ย่านนี้เติบโตขึ้นไปอีกระดับ

รามคำแหง 12 ย่านทำเล EBD แห่งใหม่ที่คนแห่ซื้ออย่างต่อเนื่อง

รามคำแหง 12 ถือเป็นอีกย่านหนึ่งที่ถูกพูดถึงค่อนข้างบ่อยซึ่งไม่เพียงแค่ในแง่การศึกษา แต่ยังกล่าวถึงศักยภาพของทำเลด้านการพักอาศัยที่ค่อนข้างโดดเด่น โดยเฉพาะส่วนของโครงการที่พักอาศัยต่าง ๆ รวมถึงการคมนาคมเนื่องจากเป็นถนนเส้นยาวที่สามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ย่านธุรกิจส่วนต่อขยาย (EBD) กับพื้นที่รอบนอกเข้าไว้ด้วยกัน

ทำให้ในปัจจุบันย่านนี้กลายเป็น NEW EBD หรือ Extension Business District ส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าที่มากถึง 3 สายซึ่งเป็นตัวนำความเจริญเข้ามาสู่พื้นที่สะท้อนผ่านมุมมองนักลงทุนที่เริ่มมีโครงการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้างสรรพสินค้า ที่พักอาศัย สำนักงานเข้ามามากขึ้น รวมถึงยังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ยังความคงความเรียบง่ายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของย่านนี้อยู่เสมอจึงทำให้ผู้คนไม่ว่าจะวัยเรียน วัยทำงาน หรือครอบครัวก็มักจะเลือกพื้นที่ในการใช้ชีวิต 

โดยการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน (Infrasture) ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังมีที่ดินให้พัฒนานำไปใช้สอยได้อีกค่อนข้างเยอะทำให้คนต่างเริ่มแห่มาเช่าซื้ออสังหาฯ ย่านนี้มากขึ้นทำให้กลายเป็นทำเลที่มีความต้องการในตลาดค่อนข้างสูงเพราะตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตและการเดินทาง 

 “รามคำแหง 12” HUB ใหญ่ฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออกที่น่าลงทุน

ส่องทำเลย่านนี้กันมาสักพักก็พอจะเริ่มเห็นภาพอนาคตย่านรามคำแหง 12 กันแล้วบ้างกับอนาคตรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มที่จะอำนวยความสะดวกของผู้คนย่านนี้เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อไปยังสายรถไฟฟ้าสีอื่น ๆ ได้ถึง 3 สาย ได้แก่ สายสีน้ำเงิน สายสีเหลือง และสายสีชมพูให้ง่ายต่อการเดินทางแบบขั้นสุด ไม่ต้องเสียเวลารถติดซึ่งโครงการคืบหน้าไปแล้วกว่า 94% 

พร้อมแนวโน้มการก้าวเป็น EDB เชื่อมต่อ CBD ย่านธุรกิจใจกลางเมืองจากฝั่งรัชดา - พระราม 9 เนื่องจากเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่รองรับทั้งคนทำงาน วัยเรียนและนักศึกษที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันทั้งศูนย์การค้าและระบบขนส่งมวลชนที่มีครบทั้งทางบก ทางเรือและทางรางให้เลือกเดินทางได้ตามรูปแบบที่คุณต้องการ 

โดยมีโครงการที่พักอาศัยเกิดขึ้นใหม่เยอะมากโดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าซึ่งโครงการย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านจัดสรร อพาร์ทเมนต์ ห้องเช่า และคอนโดมิเนียมบ้างแต่ยังน้อยเมื่อเทียบกับย่านใจกลางเมืองเนื่องจากผู้คนย่านนี้จะเป็นกลุ่มวัยเรียน วัยทำงานเป็นส่วนใหญ่ซึ่งมีตั้งระดับรายได้น้อย ปานกลางไปถึงสูงที่พักอาศัยย่านนี้จึงไม่ได้มีราคาสูงมากนัก

จึงเหมาะแก่การลงทุนทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัย หรือซื้อเก็บไว้ลงทุนเพราะตั้งแต่เริ่มมีการสร้างรถไฟฟ้าราคาที่ดินย่านนี้ปรับตัวสูงขึ้น 10 - 20% โดยเฉพาะพื้นที่แปลงใหญ่เพราะในปัจจุบันเริ่มหาซื้อได้ยากแต่ความต้องการซื้อยังคงสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รามคำแหงกลายป็น HUB สำคัญอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่น่าลงทุน 

ราคาตลาด ณ ปัจจุบัน

สำหรับราคาซื้อขายที่ดินในย่านรามคำแหง 12 ในปัจจุบันราคาที่ดินเกือบเทียบเท่าย่านพระราม 9 ที่มีราคาที่ดินเฉลี่ยอยู่ที่ 300,000 บาท/ตร.ว ซึ่งราคาที่ดินรามคำแหงในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 - 300,000 บาท/ตร.ว เนื่องจากเป็นช่วงถนนที่มีโครงการรถไฟฟ้าสายอนาคตเชื่อมต่อได้หลายสายที่ง่ายต่อการเดินทางเชื่อมต่อทั้งพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในและชั้นนอก 

ด้วยทำเลที่ใกล้กับสถานศึกษาทำให้กลุ่มอสังหาฯ จะเป็นการปล่อยเช่าห้องพัก หรือโครงการคอนโดซึ่งในปัจจุบันยังน้อย หากเทียบกับโครงการบ้านจัดสรร หรือทาวน์โฮมที่มีราคาเริ่มต้นประมาณ 4.29 ล้านเพื่อกลุ่มวัยทำงานที่ต้องการสร้างครอบครัวในอนาคต 

สำหรับกลุ่มห้องพักและคอนโดจะมีราคาเช่าเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3 - 5 พันบาทไปจนถึงหลักหมื่นขึ้นอยู่กับโครงการ แต่สำหรับราคาซื้อคอนโดจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1.39 ล้านซึ่งถือว่าเป็นช่วงระดับราคาที่ไม่สูงมากนักเหมาะกับกลุ่มคนวัยทำงานที่มีฐานเงินเดือนระดับกลางซึ่งค่อนข้างจะผ่อนสบายประมาณ 4-6 พันต่อเดือนเท่านั้น  

 สรุปส่งท้าย

ใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัยใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกและเดินทางง่ายเชื่อมต่อได้หลายเส้นทางในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป “รามคำแหง 12” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุณควรลองพิจารณาที่ในอนาคตอีกไม่ไกลความสะดวกจะมาใกล้คุณมากขึ้นซึ่งช่วยให้ประหยัดเวลา ไม่ต้องหงุดหงิดกับปัญหารถติด ให้เดินเล่น เที่ยวช้อปหาของกินได้ง่ายไม่ต้องไปถึงใจกลางเมืองที่ยังคงความครึกครื้นให้คุณไปสังสรรค์ แฮงก์เอ้ากับเพื่อน ๆ หรือทำกิจกรรมกันแบบครอบครัวได้อีกด้วย รามคำแหงจึงเป็นย่านที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คุณจะได้รับทั้งกลิ่นอายความเป็นเมืองและความเรียบง่ายไปพร้อมกัน