สำโรง ทำเลเก่าแก่ที่คึกคักมาอย่างยาวนาน
สำโรง ทำเลอินเตอร์เชนจ์ที่น่าจับตา
ทำความรู้จักย่านสำโรง
สำโรง (Samrong) ย่านชานเมืองฝั่งสมุทรปราการที่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 2 สถานีที่มาพร้อมจุดเด่นของทำเลศักยภาพที่เป็นศูนย์กลางความสะดวกตอบโจทย์ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของผู้คนในย่านนี้ซึ่งในอนาคตยังเดินทางได้ง่ายยิ่งกว่ากับเส้นทางรถไฟฟ้าที่พสดผ่านจากกรุงฯ สู่สำโรงที่ครอบคลุมแทบทุกสถานีที่สำคัญจึงเหมาะต่อการเดินทางทำให้เหมาะต่อการพักผ่อนและการลงทุนซึ่งถูกยกให้เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของชาวสมุทรปราการซึ่งจะมีอะไรน่าติดตามอีกบ้างมาเริ่มกันเลย
สำโรง ทำเลชุมชนเก่าศูนย์กลางความเจริญของชาวสมุทรการ
เริ่มกันที่การพาคุณผู้อ่านมารู้จักกับชุมชนเก่าแก่ย่านสำโรงที่มีประวัติมาอย่างยาวนานโดยย่านสำโรงได้มีจุดเริ่มต้นมาจาก “คลองสำโรง” ซึ่งเป็นคลองขุดที่เชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำบางปะกงซึ่งถือเป็นคลองที่สำคัญของชาวสมุทรปราการซึ่งมีความยาวประมาณ 55 กิโลเมตร
โดยมีชุมชนอาศัยตามแนวริมคลองสำโรงมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในอดีตซึ่งยังใกล้กับปากน้ำซึ่งเป็นที่ติดต่อค้าขายสำคัญทางเรือมาตั้งแต่สมัยอยุธยาและทำให้คลองสำโรงนั้นได้รับการขยายตัวมาอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงรัตนโกสินทร์ก็เริ่มมีการสร้างเมืองยิ่งทำให้พื้นที่ย่านนี้เติบโต
ต่อมาในยุคที่กรุงเทพฯ ก้าวสู่เมืองหลวงของประเทศก็ได้เริ่มมีการพัฒนาขยายเมือง ขยานถนน มีสิ่งปลูกสร้างเกิดขึ้นมากมายและหนึ่งในนั้นก็มีการสร้างสะพานข้ามคลองสำโรงเพื่อเพิ่มความสะดวกเนื่องจากครอบคลุมถนนสายสำคัญหลายสาย อาทิ ถนนทางรถไฟสายเก่า ถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ ถนนกิ่งแก้ว ถนนเคหะบางพลี ถนนเลี่ยงเมืองบางบ่อ ถนนรัตนราช ถนนเทพรัตน ถนนสิริโสธร รวมถึงทางพิเศษบางพลี-สุขสวัสดิ์ซึ่งช่วยทำให้การเดินทางของผู้คนย่านนี้ง่ายยิ่งขึ้น
รู้จักความเป็นมาและการพัฒนาพื้นที่สำโรง
สำหรับจุดเปลี่ยนสำคัญในช่วงที่กรุงเทพฯ ขยายตัวด้วยลักษณะพื้นที่ที่ค่อนข้างใกล้ เดินทางสะดวก ผู้คนอาศัยค่อนข้างเยอะทำให้เกิดห้างสรรพสินค้าภายใต้ชื่อ อิมพีเรียลเวิร์ลสำโรงเกิดขึ้นราว ๆ ปีพ.ศ. 2525 โดยถือเป็นห้างที่มีความทันสมัยและส่งผลบวกต่อพื้นที่รอบข้างเกิดเป็นร้านค้าต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย
แต่ในส่วนความเป็นย่านสำโรงคือการมีผู้คนพลุกพล่านที่มีผู้คนอยู่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่เริ่มจากสำโรงเหนือไปจนถึงช่วงบริเวณถนนปู่เจ้าสมิงพราย แต่พื้นที่เด่นสุดจะอยู่ช่วงรอบรัศมีศูนย์การค้าอิมพีเรียลสำโรงซึ่งเป็นจุดที่มีเส้นทางรถไฟฟ้า BTS ตัดผ่านหน้าห้างพอดีและยังเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับถนนเทพารักษ์และถนนปู่เจ้าสมิงพรายทำให้เดินทางได้ค่อนข้างสะดวก
โดยในปัจจุบันสิ่งอำนวยความสะดวกยังคงมีเพียงอิมพีเรียลเวิร์ลที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งหลัก ๆ นอกจานั้นก็จะเป็นเพียงร้านค้า ร้านอาหารที่เน้นเจาะตลาดท้องถิ่นเท่านั้น แต่ในส่วนการคมนาคมกลับได้รับอานิสงค์ค่อนข้างมากหลังจากมีรถไฟฟ้าตัดผ่านทำให้คนทำงานเลือกเป็นทำเลในการพักอาศัยมากขึ้นเนื่องจากใช้เวลาไม่นานในการเดินทางเชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองจึงทำให้ย่านสำโรงเป็นย่านชานเมืองที่คนเลือกมาพักอาศัยมากที่สุดในจังหวัดสมุทรปราการ
สัมผัสสไตล์ชุมชนเก่าย่าน “สำโรง” ที่ครบตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
สำโรง ทำเลชานเมืองใกล้กรุงเทพฯ ที่มาพร้อมความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของชาวสมุทรปราการที่มีแหล่งไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน ดังนี้
- ห้างสรรพสินค้า: อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง, บิ๊กซี สำโรง, ชัยวิวัฒน์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต, เซ็นทรัล บางนา, โรบินสันไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ, แจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์
- โรงพยาบาล: โรงพยาบาลสำโรงการแพทย์, โรงพยาบาล เมืองสมุทรปู่เจ้าฯ, โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์
- อาคารและสำนักงาน: สำนักงานเทศบาลตำบลสำโรงเหนือ, อาคาร ชุมทอง 24
- สถานศึกษา: โรงเรียนมัธยมวัดด่านสำโรง, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลด่านสำโรง, โรงเรียนอนุบาลนนนที, โรงเรียนมหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์, โรงเรียนอนุบาลด่านสำโรง, อนุบาลจตุรมุก, โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา
- สถานที่สำคัญ : สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ,
- สถานที่ท่องเที่ยวและสถานบันเทิง: ศาลเจ้าพ่อทัพ, วัดด่านสำโรง, พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ, เมืองโบราณ สมุทรปราการ, เสร่อ ซอย7, ผักหวานคันทรีผับ,
- สถานที่ออกกำลังกาย : North Fitness Gym. sukumvit109, 24Max by gym plus, Max Fitness
- ร้านอาหาร : Letana Hotel & Cafe’24Hrs, Smooth & Simple, ร้านชาบู น้ำซุปกระชากใจ, Supornchai, ร้านกินอร่อยฟู้ดเซอร์วิส, Botanic cafe
คงจะปฎิเสธไม่ได้เลยว่าย่านสำโรงเป็นย่านชานเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งของกินที่ค่อนข้างหาง่ายสามารถเลือกซื้อได้ทั้งตามตลาดสดทั่วไป หรือห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังมีร้านเด็ดร้านดังอีกหลายเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยที่พร้อมเสริฟถึงคุณทุกวัน พร้อมร้านคาเฟ่ที่มีให้ถ่ายรูปแบบชิค ๆ หรือจะเป็นฟิลล์บาร์ที่เสริฟ์อาหารพร้อมฟังดนตรีสดก็มีให้เลือกหลายร้านซึ่งเหมาะกับการกลับมาจากทำงานแบบเหนื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งเหมาะกับการไปทำกิจกรรมร่วมกันทั้งแบบคู่รัก ครอบครัวและเพื่อนฝูงได้อย่างสนุกสนานจึงเป็นฟิล์วันสบาย ๆ ที่เหมาะกับการพักผ่อนเน้นความสงบแต่ครบด้วยความสะดวก
การเดินทางมายังย่าน“สำโรง”
“สำโรง” ย่านชานเมืองที่เป็นศูนย์กลางความเจริญของชาวสมุทรปราการที่ไม่ได้มีจุดเด่นเพียงแค่เรื่องไลฟ์สไตล์แต่ยังครอบคลุมถึงการคมนาคมที่ค่อนข้างสะดวกตอบโจทย์การใช้ชีวิตผู้คนย่านนี้
- รถไฟฟ้า : สำรับรถไฟฟ้าสายหลักที่กำลังเปิดให้บริการคือ สายสุขุมวิทซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจากแบริ่งไปจนถึงเคหะที่สถานีสำโรง (E15) และสายสีเหลืองซึ่งเป็นโครงการในอนาคตที่เปิดให้บริการตั้งแต่ลาดพร้าว-สำโรงที่คาดว่าจะให้บริการได้ภายในปี 2565
- รถยนต์ส่วนตัว : ถนนเส้นทางหลักสายสำคัญของสำโรง คือ ถนนสุขมวิทและถนนเทพารักษ์ที่เชื่อมสองสายเข้าด้วยกันและสามารถทะลุไปยังเส้นศรีนครินทน์ได้แต่ต้องทำใจในเรื่องการเดินทางเนื่องจากในย่านนี้ค่อนข้างมีการจราจรที่หนาแน่น ส่วนทางพิเศษที่ใกล้สุดจะเป็นทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่มีจุดขึ้น-ลงช่วงบริเวณพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
- รถเมล์ : แม้จะอยู่ชานเมืองแต่รถโดยสารสาธารณะวิ่งให้บริการตลอดทั้งวันเนื่องจากมีจำนวนผู้คนต้องการใช้บริการจำนวนมากโดยมีรถเมล์ให้บริการทั้งหมดประมาณ 8 สาย ดังนี้
- สาย 2 : สำโรง-ปากคลองตลาด
- สาย 23 : อู่เมกา-เทเวศร์
- สาย 45 : อู่เมกา-ท่าน้ำสี่พระยา
- สาย 102 : ปากน้ำ-อู่สาธุประดิษฐ์
- สาย 129 : บางเขน-สำโรง
- สาย 142 : ปากน้ำ-แสมดำ
- สาย 508 : ปากน้ำ-ท่าราชวรดิษฐ์
- สาย 511 : ปากน้ำ-สายใต้ใหม่
- วินมอเตอร์ไซค์ : ส่วนวินมอเตอร์ไซต์มีให้บริการตลอดเวลาทั้งตามห้างใหญ่ ตรอกซอยซอยต่าง ๆ เนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการทั้งนักเรียน คนทำงานค่อนข้างเยอะโดยจุดที่ให้บริการเยอะสุดจะอยู่ตรงช่วงถนนเทพารักษ์และด้านหน้าอิมพีเรียมเวิร์ลซึ่งอัตราค่าราคาบริการจะเริ่มต้นประมาณ 15 บาท
- รถตู้ : จะมีคิวรถตู้ให้บริการตรงบริเวณด้านหน้าูนย์การค้าอิมพีเรียมเวิร์ลซึ่งจะให้บริการรถตู้ทั้งวิ่งเข้ากรุงเทพฯ และออกต่างจังหวัด อาทิ รังสิต ศรีราชา ชลบุรี พัทยา ราชบุรี เป็นต้นโดยอัตราค่าโดยสารจะเริ่มต้น 30 บาทไปจนถึงหลักร้อย
- รถสองแถว: จะให้บริการบนเส้นถนนสุขุมวิทวิ่งไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เช่น บางนา หนามแดง เซ็นทรัลบางนา โดยอัตราค่าโดยสารจะอยู่ที่ 8 บาทตลอดสาย
ย่านสำโรง จึงเป็นย่านที่การคมนาคมค่อนข้างสะดวกสบายเนื่องจากมีทั้งเส้นทางหลักให้บริการทะลุเข้าออกเชื่อมต่อได้ทั้งในเมืองและจังหวัดใกล้เคียงค่อนข้างง่าย แต่อาจจะต้องเผื่อเวลาเนื่องจากย่านนี้ค่อนข้างมีจราจรหนาแน่นทั้งเส้นสุขุมวิทและเทพารักษ์ ดังนั้นเพื่อประหยัดเวลาอาจะเลือกเปลี่ยนไปใช้เส้นทางรถไฟฟ้าที่มีสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมืองที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีแทน
มุมมองของย่านสำโรงการพัฒนาในอนาคต
แม้จะเป็นทำเลที่มีความโดดเด่นมาตั้งแต่ในอดีต แต่อนาคตย่านสำโรงยังคงมีที่ดินให้นักลงทุนสามารถนำไปพัฒนาได้อีกค่อนข้างเยอะซึ่งหนึ่งในนั้น คือ โครงการที่พักอาศัยเนื่องจากเป็นทำเลที่ตั้งอยู่ชานเมืองที่ใกล้ทั้งเมืองกรุงและยังเชื่อมต่อพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงได้อย่างสะดวกทำให้ได้รับการความนิยมอย่างต่อเนื่องซึ่งในอนาคตจะมีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกบ้างมาติดตามกัน
สำโรง ทำเลทองรองรับการเติบโต
สำโรง ทำเลทองจุดศูนย์กลางความเจริญของชาวสมุทรปราการที่เดินทางเชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองได้ง่ายและยังสามารถขยายพื้นที่เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตได้อีกไกลกับความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เปิดให้บริการช่วงลาดพร้าว - สำโรงซึ่งวิ่งผ่านช่วงศรีนครินทร์ พัฒนาการ บางกะปิ และลาดพร้าวเชื่อมกับสถานี MRT จึงเป็นสถานีที่มีความสำคัญช่วยลดระยะเวลาการเดินทางในย่านที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น
นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงค์จากเมกะโปรเจคอย่าง Bangkok mall ซึ่งตั้งอยู่ช่งตรงกันข้ามศูนย์นิทรรศการและประชุมไบเทคบางนา (Bitec) ริมถนนสุขุมวิทและยังมีอีกหลายโครงการช่วงถนนบางนา-ตราดอย่าง The Forestias ที่คืบหน้าไปสักระยะแล้ว
และย่านสำโรงยังเป็นแหล่งงานสำคัญของประเทศบนช่วงเส้นเทพารักษ์ ปู่เจ้าสมิงพรายและนิคมอุตสาหกรรมบางปูจึงทำให้ย่านนี้ค่อนข้างมีผู้คนหนาแน่นและยิ่งมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เปิดให้บริการถึงสถานีเคหะฯ สมุทรปราการยิ่งทำให้นักลงทุนมองเห็นศักยภาพของทำเลในการพัฒนาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะกลุ่มคอนโดที่กำลังก่อสร้างอีกหลายโครงการ
สำโรง จุดเด่นการเชื่อมต่อที่เหมาะต่อการลงทุน
นอกจากจุดเด่นเรื่องการคมนาคมแล้ว “ย่านสำโรง” ยังเป็นทำเลที่เหมาะต่อการลงทุนโดยเฉพาะในกลุ่มที่พักอาศัยเนื่องจากมีผู้คนอยู่อาศัยในย่านนี้จำนวนมากซึ่งจะเห็นได้ชัดจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีการปรับเปลี่ยนไปเป็นแนวสูงมากกว่าแนวราบเนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าที่เข้าถึงและยิ่งมีสถานี Interchage จะยิ่งเป็นตัวผลักดันให้ย่านสำโรงกลายเป็นแหล่งการค้าที่ขยายตัว
โดยโครงการเชิงพาณิชย์ในอนาคตอาจถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นโครงการรีเทลที่มีความทันสมัยมากขึ้นซึ่งมีกระแสข่าวต่อเนื่องเกี่ยวกับการลงทุนจากผู้ค้าปปลีกรายใกญ่ในไหนที่ต้องการก้านื้อที่ดินไปพัฒนาเนื่องจากมองเห็นศักยภาพของทำเลในย่านนี้
ส่วนผู้อาศัยเองก็เหมาะทั้งวัยคนทำงานและคนมีครอบครัวเนื่องจากใกล้ทั้งสถานศึกษารัฐและเอกชนในย่านนี้และพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ปกครอง รวมถึงยังมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่อย่างสำโรงการแพทย์และยังใกล้แหล่งงานทั้งสำนักงานและอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมถึงยังเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้ใกล้ไม่เกิน 30 นาที
ทำให้ย่านสำโรงกลายเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญเหมาะทั้งอยู่อาศัยและลงทุนซึ่งหากในตลาดปล่อยเช่าจะมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาพักอาศัยไม่ขาดสายแน่นอนเพราะใกล้สิ่งอำนวยความสะดกแทบทุกด้านและแนวโน้มราคาก็เพิ่มขึ้นทุกปี
ราคาตลาด ณ ปัจจุบัน
โดยข้างต้นได้เผยให้เห็นศักยภาพของทำเลย่านสำโรงที่มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยพบว่าราคาล่าสุดในปี 2565 ของถนนสุขุมวิทมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 210,000-650,000 บาท/ตร.ว แต่สำโรงจะมีราคาต่ำกว่าย่านแบริ่งและบางนา
โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยจะเป็นคนไทยซื้ออยู่อาศัยเอง หรือเพื่อลงทุนเนื่องจากราคาค่อนข้างจับต้องได้ง่ายโดยราคาเฉลี่ยของคอนโดจะอยู่ที่ประมาณ 70,000 บาท/ตารางเมตร โดยราคาซื้อขายจะเริ่มต้นประมาณ 1.39 ล้าน ส่วนราคาปล่อยเช่าคอนโดจะเริ่มต้นประมาณ 5,500 บาทต่อเดือนซึ่งขึ้นอยู่กับการขนาดพื้นที่ใช้สอย ส่วนทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยวราคาซื้อขายจะเริ่มต้นประมาณ 2.99 ล้านบาท สำหรับราคาปล่อยเช่าจะเริ่มต้นประมาณ 10,000 - 90,000 บาทต่อเดือน
ซึ่งถือว่าราคาอสังหาฯ ในย่านนี้ยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับย่านใกล้เคียงอย่างบางนาและแบริ่งทำให้เหมาะต่อการพักอาศัย หรือื้อเพื่อลงทุนเนื่องจากค่อนข้างครอบคลุมสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านและยังมีศักยภาพในการพัฒนาต่อได้อีกในอนาคต
สรุปส่งท้าย
ยกให้ย่านสำโรงเป็นแลนด์มาร์คของชาวสมุทรปราการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและครอบคลุมทุกการใช้ชีวิตทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและการคมนาคม โดยพร้อมรองรับทุกการเติบโตและยังมีขีดความสามารถในการขยายพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ทั้งในรูปแบบที่พัก หรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ให้ก้าวไปอีกระดับซึ่งทำเลนั้นเหมาะทั้งวัยทำงานและครอบครัวเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนที่มีครบทุกด้าน รวมถึงยังเหมาะต่อการลงทุนจากอานิสงค์ความต้องการพักอาศัยที่ยังคงเพิ่มขึ้นสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี