In Short
Advice
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แหล่งการค้า จุดเปลี่ยนถ่ายคมนาคมสำคัญ
“ย่านอนุสาวรีย์ชัย”เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันทำเลพื้นที่แห่งนี้ เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายคมนาคมสำคัญ ให้กับเมืองหลวงแห่งนี้ โดยมีถนนเส้นทางหลัก 4 เส้นทางที่เป็นทางสัญจรวิ่งเข้าสู่วงเวียนขนาดใหญ่ เพื่อนวนออกไปยังจุดหมายต่างๆตามเส้นถนนได้ทั่วสารทิศในกรุงเทพมหานครแห่งนี้ จึงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญ สำคัญคนทั่วไปที่เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ในการเปลี่ยนเส้นทางเดินรถ เพื่อไปยังจุดมุ่งหมายอีกที โดยมีรถโดยสารสาธารณะที่ครอบคลุมการเดินทางมากมาย ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์ รถตู้ ซึ่งเป็นการเดินทางไปยังทุกเส้นทาง ในเมือง และออกเมืองต่างจังหวัดใกล้เคียงด้วยรถตู้อีกด้วย จึงสะดวกสุดๆในการเดินทาง การเดินเป็นจุดเปลี่ยนการเดินทางนี้เอง ทำให้พื้นที่อนุเสาวรีย์ เป็นพื้นที่น่าสนใจ เพราะพื้นที่ไหนที่มีผู้คน พื้นที่นั้นมักมีโอกาส ยิ่งผู้คนเยอะ ยิ่งทำให้ทำเลเเห่งนี้เป็นที่จับตามองสำหรับนักลงทุน เริ่มตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านบริการต่างๆ จนไปถึงทำเลแห่งการเติบโตทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เพราะด้วยการเป็นพื้นที่ที่สะดวกต่อการเดินทาง สิ่งต่างๆจึงเริ่มขยับขยายเป็นเเหล่งทำเลที่น่าสนใจน่าติดตามอีกด้วย
ทำความรู้จักอนุสาวรีย์ชัยฯ
อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นอนุสรณ์สถานสำคัญ ก่อสร้างบริเวณสี่แยกถนนราชวิถีตัดกับถนนพญาไท และต้นถนนพหลโยธิน (ขณะนั้นเรียกว่าถนนประชาธิปัตย์) พื้นที่ 6,781 ตารางวา อีกทั้งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญของกรุงเทพมหานครที่มีรถโดยสารให้บริการเป็นจำนวนมากในหลายเส้นทาง ทั้งรถประจำทาง รถไฟฟ้า และรถตู้ ผ่านตลอด 24 ชั่วโมง โดยตั้งอยู่บนพื้นที่วงเวียนขนาดใหญ่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง 4 เส้นทางถนน โดยมีถนนถนนพหลโยธิน ถนนราชวิถี และถนนพญาไท โดยทั้ง 4 ถนนวิ่งออกเส้นทางต่างๆดังนี้
- ทิศเหนือ : ถนนพหลโยธิน เกาะพหลโยธิน » สะพานควาย-ห้าแยกลาดพร้าว เข้าสู่โซนกรุงเทพตอนเหนือด้วยถนนพหลโยธิน ได้แก่ อารีย์ จตุจักร ลาดพร้าว เป็นต้น
- ทิศใต้ : ถนนพญาไท เกาะพญาไท » แยกรางน้ำ เข้าสู่กรุงเทพชั้นในและ CBD ด้วยถนนพญาไท
- ทิศตะวันออก : ถนนราชวิถี เกาะดินแดง » แยกสามเหลี่ยมดินแดง เข้าสู่ถนนวิภาวดีรังสิต New CBD พระราม9 ไปจนถึงโซนตะวันออกของกรุงเทพฯ
- ทิศตะวันตก : ถนนราชวิถี เกาะราชวิถี » แยกตึกชัย เข้าสู่สวนดุสิตจนถึงพระนครและฝั่งธนบุรี เป็นแหล่งรวมโรงพยาบาล หน่วยงานราชการ และสถาบันทางการแพทย์
ประวัติความเป็นมาย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะของไทยในกรณีพิพาทอินโดจีนกับฝรั่งเศส หลังความขัดแย้งสิ้นสุดลง รัฐมนตรีขณะนั้น มีมติให้สร้างอนุสาวรีย์เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ราชการสงครามและประสบอันตรายถึงแก่ชีวิต เพื่อให้เป็นเกียรติประวัติวีรกรรม และเป็นเครื่องเตือนใจอนุชนรุ่นต่อมา ให้ชื่อว่า “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ”
เรียงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดกว่าจะเป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในปัจจุบัน
- ในช่วงสมัย รัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีขณะนั้น มีความต้องการสร้างชาตินิยมแบบใหม่ ในกับคนไทยในชาติ และได้เริ่มดำเนินการทวงดินเก่าๆที่เคยเสียไปให้กับเหล่าจักรวรรดินักล่าอาณานิคมต่างๆ ด้วยการสร้างชาตินิยมแบบใหม่นี้จึงทำให้คนในชาติเองก็ตื่นตัวและกระตุ้นให้เกิดกระแส ขอคืนดินแดนที่เคยไปในสมัยรัชกาลที่5 กลับมา
- พ.ศ. 2483 สมัยนั้นอยู่ในช่วงสงครามโลกพอดี ฝรั่งเศสเจ้าอาณานิคม กำลังเพรี่ยงพล้ำให้กับเยอรมนี ฝรั่งเศสจึงขอทำสัญญาสงบศึกกับไทย และสัญญาจะไม่รุกรานไทย ไทยจึงได้โอกาสต่อรองขอคืนพื้นที่ดินแดนลาวและกัมพูชาที่ยึดไปกลับคืนให้ไทย
- พ.ศ. 2483 ในปีเดียวกัน ฝรั่งเศสปฏิเสธข้อเสนอ จึงได้เริ่มรุกรานไทยด้วยการยิงปืนข้ามแม่น้ำโขง ส่งเครื่องบินล่วงล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย เครื่องบินฝรั่งเศสได้เข้ามาทิ้งระเบิดที่จังหวัดนครพนม ไทยจึงตอบโต้และเคลื่อนกำลังเข้ายึดดินแดนในอินโดจีนส่วนที่เป็นของไทยกลับคืนมาหลายแห่ง
- พ.ศ. 2484 ญี่ปุ่นขอเสนอตัวเป็นกลางไกล่เกลี่ยกรณีพิพาท ผลทำให้ฝรั่งเศสยอมคืนดินแดนบางส่วนในอินโดจีนให้ไทย ได้แก่ หลวงพระบางฝั่งขวา จำปาศักดิ์ ศรีโสภณ และพระตะบอง หลังจากไทยได้ดินแดนบางส่วนมา จึงทำการให้สัญชาติไทยให้กับ ทั้งชาวลาว และกัมพูชาหรือเขมรแดง ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ขณะนั้น ในการรบครั้งนี้ฝ่ายไทยสูญเสียทหารและพลเรือน 59 นาย
- พ.ศ. 2484 ในปีเดียวกัน จึงมีมติในการสร้างอนุสาวรีย์ เพื่อฉลองชัยชนะที่ได้ พื้นที่ 4จังหวัดคืนกลับมา และเพื่อเทิดทูนวีรกรรมของทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่เสียชีวิตไปในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ก่อนที่ต่อมาไทยได้ประกาศเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะ ญี่ปุ่นในสงครามโลก
- หลังจากจบสงครามโลก ทำให้ไทยทำให้ไทยตกเป็นจำเลยสงคราม แต่ด้วยการทำงานของฝ่ายเสรีไทยทำให้ไทยรอดพ้นจากสถานะ การเป็นผู้แพ้สงคราม โดยมีข้อแม้ที่เราต้องเพื่อที่เราจะเข้าร่วมกับองค์การสหประชาชาติ ซึ่งเป็นการรวมตัวของฝ่ายชนะสงครามคือ ไทยต้องคืน 4 จังหวัด ที่ได้กลับมาให้กับฝรั่งเศส และคืนดินแดนให้แก่อังกฤษของพม่า และมาเลเซีย ที่ช่วงสงครามญี่ปุ่นโอนมาให้ไทยดูแลให้ช่วงที่ประกาศเข้าร่วมกับฝ่ายอักษะในขณะนั้น
ถึงแม้ตอนจบเราจะต้องคืนให้กับฝรั่งเศส แต่สัญลักษณ์แห่งการเชิดชูให้กับเหล่าคนไทยผู้เสียชีวิต ได้เป็นอนุสรณ์ในเชิงสัญลักษณ์ที่ให้ความหมายถึงการต่อสู้และการเสียสละเพื่อปกป้องดินแดนของทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน
ความน่าสนใจในการออกแบบ โดยมีหม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล เป็นสถาปนิกผู้ออกแบบ
มีแรงบันดาลใจ 5 ประการ คือ
- ปฏิบัติการของกองทัพทั้งสี่
- ปฏิบัติการอย่างกล้าหาญของกำลังพลโดยเฉพาะ
- อาวุธที่ทหารใช้สู้รบ
- เหตุการณ์สำคัญที่ต้องเปิดการสู้รบ
- ความสนใจของประชาชน
โดยอนุสาวรีย์ใช้สัญลักษณ์เป็นรูปดาบปลายปืน ซึ่งเป็นอาวุธประจำกายทหาร จำนวน 5 เล่ม ประกอบรวมกันจัดตั้งเป็นกลีบแบบรูปมะเฟือง ปลายดาบชี้ขึ้นบน ส่วนคมของดาบหันออก ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นผิวประดับด้วยหินอ่อน มีความสูงจากฐานถึงยอดประมาณ 50 เมตร (เฉพาะส่วนของดาบปลายปืนสูงประมาณ 30 เมตร) ดาบปลายปืนส่วนด้ามตั้งเป็นฐานเหนือเพดานห้องโถงใหญ่ ภายในห้องโถงใช้เก็บกระสุนปืนใหญ่และบรรจุอัฐิทหารที่เสียชีวิตในกรณีพิพาทไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส
ส่วนด้านนอกรอบโคนดาบปลายปืน มีรูปปั้นหล่อทองแดงวีรชน ขนาดความสูงขนาด 2 เท่าของคนจริง ประกอบด้วย 5 เหล่า ได้แก่ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และพลเรือน
ศิลปินผู้ปั้นรูปเหล่านี้เป็นลูกศิษย์ของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เช่น สิทธิเดช แสงหิรัญ, อนุจิตร แสงเดือน, พิมาน มูลประสุข, แช่ม ขาวมีชื่อ ภายใต้การควบคุมของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
- รูปปั้นทหารบก - ที่แสดงท่าถือปืนพร้อมรบชี้ดาบปลายปืนขึ้นฟ้านั้น เป็นผลงานของ นายแช่ม แดงชมพู โดยอาศัย นายพิมาน มูลประมุข เป็นแบบ
- รูปปั้นทหารเรือ - ที่แต่งเครื่องแบบกลาสี มือซ้ายประคองลูกปืนใหญ่ มือขวาเตรียมบรรจุลูกปืนลงในรังเพลิงท้ายลูกปืน เป็นผลงานของ นายสิทธิเดช แสงหิรัญ โดยมี เรือเอก สิงห์ นาคมี ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์ยุทธนาวี เกาะช้าง ตำแหน่งพลบรรจุลูกปืนป้อมปืนหัว ประจำ ร.ล.รัตนโกสินทร์ เป็นแบบ
- รูปปั้นทหารอากาศ - ที่ยืนนิ่ง มือจับลูกระเบิด สีหน้าสงบเยือกเย็น เป็นผลงานของ นายสิทธิเดช แสงหิรัญ โดยนายแสวง สงฆ์มั่งมี เป็นแบบ
- รูปปั้นตำรวจ - ที่ยืนถือปืน ในลักษณะพร้อมใช้ สายตามองไปข้างหน้า เป็นผลงานของ นายพิมาน มูลประมุข
- รูปปั้นพลเรือน - ที่ยืนมือซ้ายถือหนังสือ สายตาสงบนิ่ง เป็นผลงานของ นายอนุจิตร แสงเดือน
ปัจจุบันปรากฏรายชื่อผู้เสียชีวิตที่จารึกไว้รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิด้านนอก นับตั้งแต่ พ.ศ. 2483 - 2497 จำนวน 807 ชื่อ และที่ปรากฏด้านในอนุสาวรีย์ มีรายชื่อผู้เสียชีวิตทุกสมรภูมิทั้งที่มีอัฐิและไม่มีอัฐิ จำนวน 7,297 ราย – นับโดยองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก เมื่อ พฤษภาคม พ.ศ. 2558
จนเป็นอนุสาวรีย์ชัยในปัจจุบันให้คนไทยได้เห็น โดยมีการอนุรักษ์และซ่อมแซม หลายต่อหลายครั้ง ทั้งบูรณะผิวเดิม ขูดลอกล้างสีเดิม และทาสีใหม่ เพื่ออนุรักษ์การเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญต่อไป
อนุสาวรีย์ชัยฯ แหล่งอาศัยของผู้คนในปัจจุบัน ที่เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินรถของกรุงเทพมหานคร
ปัจจุบันย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ แม้จะไม่ใช่พื้นการเติบโตอย่าง CBD ที่เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน แต่เป็นพื้นที่แห่งการสัญจร ที่มีผู้คนมากมายเดินทางมายังพื้นที่แห่งนี้ แต่เป็นหนึ่งในทำเลจุดเปลี่ยนการเดินทางสำคัญให้กับผู้คน ทำให้การเดินทางสัญจรไปยังพื้นที่ต่างๆได้อย่างสะดวก ถึงแม้แต่ละวันมีผู้คนมากมายเดินทางมายังพื้นที่แห่งนี้ แต่อนุสาวรีย์ไม่ใช่พื้นที่ ที่มีการพักอาศัยในรูปแบบคอนมากพอถ้าเทียบกับพื้นที่อื่นๆในกรุงเทพ แต่มีคอนโดบางแห่งที่สร้างมาในระดับ High Rise ส่วนคอนโด Low Rise ยังคงมีไม่มากเนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ส่วนใหญ่ใช้ในเชิงพาณิชย์มากกว่า แต่มีการพักอาศัยรูปแบบอพาร์ทเม้นท์ ที่รองรับผู้อยู่อาศัยบางส่วน ตามไลฟสไตร์ผู้คนที่มายังพื้นที่แห่งนี้ ที่มีความเร่งรีบของผู้คนจำนวนมาก รวมถึงแหล่งค้าขาย ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ก็ตอบสนองความเร่งรีบนั้นในการค้าขาย ประเภทสินค้าที่จะขายดีจึงจะเป็นสินค้าที่ซื้อขายง่ายๆ หยิบจับซื้อได้เลยในราคาที่จับต้องได้ไม่ต้องคิดมากในช่วงเวลาเร่งรีบ
แม้พื้นที่แห่งนี้จึงยังไม่เกิดทำเล Luxury แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุด คือการรองรับการเดินทางที่สะดวกสุด แต่หากท่านต้องการหาที่พักเพื่ออาศัย ถึงแม้มีคอนโดในพื้นที่เป็นตัวเลือกไม่มากสำหรับท่านมาก หากอยากได้ตัวเลือกคอนโดที่เยอะขึ้น พื้นที่รอบข้างใกล้เคียงจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ก็เป็นพื้นที่ทำเลตัวเลือกที่ดีไม่น้อยไม่น้อย
สิ่งอำนวยความสะดวกโลเคชั่นสำคัญต่างๆ อนุสาวรีย์ชัยฯ
การพัฒนาเมืองให้พื้นเติบโตคู่กับผู้คนที่เข้าใช้ประโยชน์ในทำเลแห่งนี้ มีความน่าสนใจอยู่ที่พื้นที่แห่งนี้พัฒนาเป็นทำเลการค้าขาย ร้านอาหารชื่อดังมากมาย แต่มีพื้นที่ใกล้เคียงอื่นๆที่เป็นทำเลการแพทย์ โรงเรียน ทำให้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯแห่งนี้สะดวกต่อการเข้าถึง โลเคชั่นสำคัญๆต่างที่ครอบคลุมการใช้ชีวิตในทุกมิติของผู้คนตลอดวัน และเป็นทำเลที่คึกคักตั้งแต่เช้าจรดค่ำรองรับผู้คนมากมายที่เดินทางมายังพื้นที่แห่งนี้
- ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า : Victory Mall , เซ็นเตอร์วัน , วิคตอรี่ ฮับ , Circular Shopping mall , คิงส์ พาวเวอร์ รางน้ำ , เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า เป็นต้น
- ร้านอาหาร : Eat I Am You Are , ลูกชิ้นดิสโก้ , ก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์ อนุสาวรีย์ชัยฯ , ปาเต๊ะ , ก๋วยเตี๋ยวเรือพระนคร สาขาเซ็นจูรี่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , ก๋วยจั๊บน้ำข้นอนุสาวรีย์ , อนงค์ ก๋วยเตี๋ยวเรือ เป็นต้น
- สถานศึกษา : โรงเรียนพญาไท , โรงเรียนกิ่งเพชร, โรงเรียนสันติราษฎ์วิทยาลัย , โรงเรียนมักกะสันพิทยา , โรงเรียนเซนต์ดอมินิค เป็นต้น
- สถานพยาบาล : โรงพยาบาลราชวิถี , โรงพยาบาลโรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน , โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า , โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า , โรงพยาบาลสงฆ์ , โรงพยาบาลรามาธิบดี , โรงพยาบาลพญาไท 1 เป็นต้น
- สวนสาธารณะ : สวนสันติภาพ เป็นต้น
- อาคารสำนักงานสำคัญ : อาคารเลิศปัญญา , สำนักงาน ป.ป.ส. , สถานีตำรวจนครบาลพญาไท , สถานีตำรวจนครบาลดุสิต , สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง , สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน , สถานีตำรวจนครบาลดินแดง , ธนาคารทหารไทย สาขาพญาไท , ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นจูรี่ พลาซ่า , ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , ธนาคารออมสิน สาขาชัยสมรภูมิ , ธนาคารกรุงไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , ธนาคารกสิกรไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น
- สถานที่สำคัญอื่นๆ : อู่ซ่อมรถสวัสดิการ , Kerry Express Parcel Service Point สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , Kerry Express สาขาเซ็นเตอร์วัน เป็นต้น
- ศูนย์การค้าของอุปโภคบริโภค : ตลาดนัดอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ , ตลาดนัด เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่ พลาซ่า , V STREET MARKET เป็นต้น
การเดินทางมายัง “อนุสาวรีย์ชัยฯ”
เป็นที่ทราบกันดีว่า สิ่งที่เป็นแลนด์มากค์สำคัญให้กับอนุสาวรีย์ชัยฯ คือแหล่งที่เป็นจุดเปลี่ยนการเดินทางสำคัญ ทำให้การเดินทั้งขาเข้าและขาออก เดินทางได้สะดวก ที่รองรับผู้คนนับหลายหมื่นคนต่อวัน อีกทั้งยังเป็นแหล่งขนส่งสาธารณะมากมายที่ครอบคลุมการเดินทางทั้งในกรุงเทพ รวมถึงการเดินทางออกต่างจังหวัด โดยเป็นพื้นที่การสัญจรทางท้องถนนสำคัญ ที่เปรียบเสมือนไข่แดงเป็นจุดผ่านไปยังเส้นทางต่างๆทั่วถึงรอบกรุงเทพ แม้จะเป็นการเดินทางที่สะดวกแต่เมื่อเป็นเวลาเร่งรีบจะทำให้มีบางช่วงที่รถติดหากท่านสัญจรมาด้วยรถยนต์เตรียมเผื่อเวลามาให้ดีจะสะดวกมากกว่า
- ทางรถยนต์ : เป็นเส้นทางที่สำคัญที่สุดในการเดินทาง เพราะการเป็นถนนที่รองรับการสัญจรที่เยอะ ด้วยการเป็นการสัญจรเส้นทางหลักทำให้การเดินทางสามารถไปยังจุดหมายครอบคลุมรอบกรุงเทพ และออกต่างจังหวัดในโซนภาคเหนือ ภาคอีสาน การเดินทางด้วยเส้นทางถนนมีบางช่วงที่รถติด จำเป็นต้องเผื่อเวลาซักนิด โดยทางเดินถนนเส้นต่างๆมีดังนี้
- ถนนพหลโยธิน เป็นถนนสายหลัก เป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังสถานีขนส่งหมอชิต รวมถึงเป็นเส้นทางในการเดินออกต่างจังหวัดทั้งภาคเหนือและภาคอีสานได้ด้วย
- ถนนพญาไท เป็นถนนซึ่งเชื่อมต่อกับกรุงเทพชั้นในสามารถเดินทางได้เข้าไปในเขตกรุงเทพชั้นเมืองได้ด้วย
- ถนนดินแดง-วิภาวรังสิต เป็นถนนสามารถเชื่อมต่อไปยังสนามบินดอนเมืองรวมถึงมีทางยกระดับอุตราภิมุขเป็นทางด่วนพิเศษอยู่บนถนนวิภาวดีสำหรับผู้ต้องการความรวดเร็วในการเดินทาง
- ถนนราชวิถี เป็นถนนที่นำไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงสถานบันการแพทย์ต่างๆจำนวนมาก
- ทางพิเศษ : เป็นทางเดินรถที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางเพื่อแบ่งเบาการเดินด้วยท้องถนน มีทางพิเศษศรีรัช เป็นทางพิเศษ และเพิ่มประสิทธิภาพให้ย่านนี้กลายเป็นแหล่งเชื่อมต่อด้านคมนาคมที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
- รถเมล์ : มีรถเมล์หลายเส้นทางที่วิ่งในพื้นที่แห่งนี้ คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้คนมากมาย มีรถเมล์หลายสายวิ่งผ่านถนนหลักทั้ง 4 เส้นทางถนนดังนี้
- พหลโยธิน ได้แก่สาย 12, 24, 36, 36ก, 58, 69, 92, 168, 171, 172, 187, 528, 529, 538, R26E
- พญาไท ได้แก่สาย 14, 17, 29, 34, 36, 38, 39, 54, 59, 62, 74, 77, 139, 140, 172, 177, 183, 187, 204, 503, 529, 536, 539, 542
- ดินแดง ได้แก่สาย 26, 27, 29, 34, 38, 39, 54, 63, 74, 77, 97, 108, 157, 166, 177, 204, 502, 503, 509, 510, 522, A2
- ราชวิถี ได้แก่สาย 12, 14, 18, 28, 92, 97, 108, 157, 171, 509, 515, 536, 538, 539, 542, R26E
- รถจักรยานยนต์รับจ้าง : เป็นพื้นที่การเดินทางที่สะดวกที่สุดในช่วงเร่งรีบ และเป็นที่นิยมที่สุด เนื่องจากสะดวกและรวดเร็ว โดยรถจักรยานต์รับจ้างมักจะจอดอยู่ไม่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยฯ มากนัก
- รถไฟฟ้า : เป็นการเดินทางที่สร้างความเจริญให้กับทำเลแห่งนี้โดยมี รถไฟฟ้าสายสีเขียว BTS เป็นอีกตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกไม่ต้องฝ่ารถติด โดยเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และรถไฟได้ โดยเปลี่ยนขบวนรถได้ที่สถานีพญาไท โดยปัจจุบันรถไฟฟ้า BTS ยังสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต (ปัจจุบันเปิดถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ทำให้อนาคตจะกลายเป็นรถไฟฟ้าที่วิ่งยาวต่อเนื่องเชื่อมต่อได้ตั้งแต่ สถานีเคหะสมุทรปราการ จนถึงสถานีคูคตได้เลย โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน
รถตู้ : แต่เดิมย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ถือเป็นแหล่งรวมของจุดจอดรถตู้ในกรุงเทพฯ แต่หลังจากมีการจัดระเบียบจุดจอดรถตู้ใหม่ทำให้ปัจจุบันมี ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ มีเพียงรถตู้ที่ให้บริการเป็นเส้นทางสั้น ๆ เท่านั้น ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยจะจอดที่เกาะพหลโยธิน (ป้ายรถเมล์ไปสะพานควาย) เกาะดินแดง (หน้าห้างแฟชั่นมอลล์) เกาะพญาไท (ป้ายรถเมล์ไปพญาไท) ส่วนจุดจอดรถหน้าโรงพยาบาลราชวิถีปัจจุบันไม่มีให้บริการ
ภาพรวมความเจริญสู่ทำเลทองการพัฒนา ในอนาคต
อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นทำเลที่คงเสน่ห์แห่งเมืองที่ไม่หลับใหล จากการใช้ชีวิตในเมืองรองรับการเดินทางตลอดวัน โดยช่วงกลางวันเป็นแหล่งค้าขายเชิงพาณิชย์มากมาย กลางคืนก็เป็นแหล่งเมืองที่ใกล้กับสถานบันเทิงยามค่ำคืน อีกทั้งพื้นที่แห่งนี้ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญในการใช้ชีวิตอย่างครบวงจรในทุกมิติการใช้ชีวิต เช่นโรงพยาบาลในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงรวมกัน 10กว่าแห่ง ห้างร้านต่างที่รองรับการบริโภคจากผุ้คนที่แวะเวียนมายังพื้นที่แห่งนี้ โดยการการอยู่อาศัย จากพื้นที่ ที่ส่วนใหญ่ครอบครองโดยหน่วยงานราชการจึงทำให้การอาศัยในรูปแบบคอนโดมีไม่มาก แต่ก็มีบางส่วนพอรองรับผู้อาศัย High Rise ส่วน Low Rise ก็พบบ้างเล็กน้อย หากเป็นโครงการใหม่ ๆ ซึ่งพบการเปิดตัวน้อยมาก แต่โดยรอบทำเลก็เป็น แหล่งที่น่าสนใจในการอาศัย และใช้ชีวิตที่ตอบสนองฟังชั่นอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ในอนาคตทำเลอนุสาวรีย์ชัยฯ ยังคงเป็นพื้นที่แห่งการเติบโตตามความต้องอาศัยของคนในพื้นที่อย่างแน่นอน แต่ขึ้นอยู่กับนักลงทุนใหญ่ๆว่าจะสามารถหาพื้นที่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับการเติบโตได้ในพื้นที่ไหนและคุ้มค่าสะดวกต่อการลงทุนหรือเปล่า อนุสาวรีย์ชัยฯ จึงเป็นพื้นที่น่าติดตามว่าอนาคตจะเกิดการพัฒนาด้านต่านในรูปไหนบ้าง
อนุสาวรีย์ชัยฯ ทำเลคุ้มค่าน่าลงทุน ราคาพุ่งต่อเนื่อง
ราคาซื้อขายและเช่าคอนโด ในพื้นที่แห่งนี้พบว่ามีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยไม่มากนัก เนื่องด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกจังจองเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์เกือบหมดแล้ว จึงมีเพียงคอนโดมิเนียมไม่กี่แห่ง โดยราคาเฉลี่ย
- ราคาขายเริ่มต้นที่ 230,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร
- ราคาเช่าเริ่มต้นที่ 17,000-18,000 บาทต่อเดือน สำหรับห้องไม่เกิน 35 ตารางเมตร
ราคาประเมินที่ดินในย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ ในช่วงปีต่างๆ และการคาดการณ์ในอนาคต
- ในช่วงปี 2559 – 2562 เฉลี่ยราคาประเมินที่ดินอยู่ที่ 300,000-400,000 ต่อตารางวา
- ในช่วงปี 2563 – 2566 เฉลี่ยราคาประเมินที่ดินอยู่ที่ 400,000 ต่อตารางวา
ราคาเฉลี่ยจะเติบโตขึ้นตามทำเลสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีความทันสมัยเพิ่มมากขึ้นและจำนวนความต้องการของผู้ที่ต้องการอาศัยเข้ามาและใช้ชีวิตในพื้นที่ และพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ แห่งนี้ก็ตอบสนองความต้องการของผู้คนได้เป็นอย่างดี
สรุปส่งท้าย
อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นทำเลที่มีจุดเด่นด้านการเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินรถ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติ เป็นแหล่งค้าขาย มีโรงพยาบาล โรงเรียนชื่อดัง และร้านอาหารอร่อยๆมากมาย และมีพื้นที่ล้อมรอบเต็มไปด้วยทำเลสำคัญแห่งการเติบโต อนุสาวรีย์ชัยฯ จึงเป็นพื้นที่ไข่แดงที่เป็นพื้นที่อยู่จุดตรงกลาง สำหรับการเดินทาง ที่เกิดความสะดวก
หากท่านเป็นหนึ่งคนที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพทย์น่าลงทุนในพื้นที่ย่านแห่งนี้ สามารถเข้ามาเยี่ยมชมโครงการต่างๆ ผ่านทางเว็บไซต์ https://propertyscout.co.th ได้ทันที เพราะเราได้รวบรวมแหล่งรวม อสังหาฯ ที่ดีที่สุดในประเทศไทยให้สำหรับท่านแล้ว
FAQs
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique.
Explore More Topics
Free real estate resources and tips on how to capitalise