จะเดินทางไกลทั้งที ดูแลบ้านยังไงให้ปลอดภัยกันนะ!?
ไม่อยู่บ้านนาน ๆ ต้องระวังอะไรบ้าง?
เวลาวันหยุดทั้งที เราก็ต้องอยากออกไปเที่ยวกันจริงไหม โดยเฉพาะวันหยุดยาว ๆ ที่น่าออกไปเที่ยว ไปเดินทางไกลเป็นที่สุด! ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ วันหยุดนักขัตฤกษ์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งวันว่างของเราก็ตาม ซึ่งการได้ออกไปเที่ยวนั้นก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้เราได้พักผ่อนกาย พักผ่อนใจ ได้พบเจออะไรใหม่ ๆ ที่จะมาเติมพลังงานของเราได้ แต่.. หลาย ๆ คนก็อาจจะมัวยุ่งกับการจัดของ จัดแพลนต่าง ๆ จนลืมดูแลบ้านก่อนเดินทางไกลไปรึเปล่า?
ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ วันนี้ PropertyScout จะพาทุกคนไปเช็กทุกอย่างในบ้านให้ชัวร์ก่อนออกว่า บ้านเรานั้นปลอดภัยแล้วหรือไม่ กลับบ้านมาจะมีอะไรหายไปไหม เพราะทุกคนเองก็มีบ้านของตัวเอง แถมยังเป็นบ้านที่เราอยู่ประจำ จะทิ้งให้เกิดอันตรายก็คงไม่ดี ดังนั้นอย่ารอช้า มาดูกันเลยค่ะ!
ดูอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด
อันดับแรกที่ต้องดูก็คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด นั่นเองค่ะว่าตัวอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านนั้นได้ถูกปิดหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของสวิชซ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ สวิชซ์ปลั๊กสามตรา คอมพิวเตอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น รวมไปถึงเบรคเกอร์ ปลั๊กไฟ หรือตัวคัตเอาท์ภายในบ้านด้วยนะคะ แนะนำให้ไล่ปิดไปทีละชั้นหรือทีละห้องเพื่อกันลืมนะคะ ไม่ว่าจะเป็นทั้งบ้านหรือคอนโดก็ตามค่ะ
แล้วก็อีกหนึ่งส่วนที่ห้ามลืม นั่นก็คือปลั๊กตู้เย็นค่ะ หลาย ๆ บ้านมักจะเสียบปลั๊กตู้เย็นไว้ตลอดเวลา แต่นั่นสามารถทำได้เนื่องจากว่ามีคนอยู่ตลอดเวลา หากเกิดเหตุการณ์อะไรก็สามารถรับมือได้ทัน แต่หากไม่มีใครอยู่บ้านนาน การถอดปลั๊กตู้เย็นออกนั้นเป็นเรื่องที่ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะตัวปลั๊กนั้นสามารถร้อนได้ตลอดเวลาเลยค่ะ
ช่วยอะไร?
การที่เราทำแบบนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังช่วยเรื่องปัญหาไฟลัดวงจรและเครื่องร้อน อีกหนึ่งสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในเคหะสถานเวลาที่คนไม่อยู่นั่นเองค่ะ
Fun Tips!
หากกลัวที่จะลืม เราแนะนำให้ไล่ปิดไปทีละห้องแล้วเช็กให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องนั้น เริ่มจากห้องที่ไม่อยู่แล้ว เช่นห้องนอน ห้องน้ำ จากนั้นจึงไล่มายังบริเวณห้องครัว ห้องรับแขก และบริเวณรอบ ๆ บ้านนั่นเองค่ะ
เช็กระบบน้ำในบ้าน
เมื่อดูระบบไฟเสร็จแล้ว สิ่งที่ห้ามลืมเช็กอีกอย่างก็คือ ระบบน้ำ นั่นเองค่ะ แม้ตรงนี้จะไม่ได้อันตรายและสร้างหายนะได้เท่ากับการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร แต่ถ้าเผลอเปิดทิ้งไว้ แม้จะเป็นแค่หยดเล็ก ๆ แต่หากหายหรือทิ้งไว้นานเกินไป อาจจะทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ที่ร้ายแรงตามมาได้ค่ะ
ดังนั้นวิธีการเช็กง่าย ๆ ก็คือเดินไปดูตั้งแต่บริเวณครัว ว่าตัวอ่างล่างจานนั้นปิดรึยัง รวมไปถึงในห้องน้ำ ทั้งตัวอ่างล่างหน้า ฝักบัว ก๊อกน้ำภายใน ไปจนถึงบริเวณนอกบ้านด้วยนะคะ เมื่อเช็กหมดแล้ว อย่าลืมกลับมาปิดวาลล์น้ำและปั๊มน้ำเพื่อกันน้ำไหลด้วยนะคะ
ช่วยอะไร?
แน่นอนว่าเรื่องแรกต้องช่วยเรื่องประหยัดค่าน้ำแน่นอนค่ะ และเรื่องต่อมา หากเราปล่อยน้ำไว้นาน อาจจะเกิดปัญหาน้ำท่วมที่ทำให้ต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์และพื้นห้องบริเวณนั้นและบริเวณใกล้เคียงได้เลยค่ะ
Fun Tips!
การเดินเช็กทีละส่วนเหมือนการเช็กไฟฟ้า ก็ช่วยให้เราสามารถทวนความจำและรีเช็กไปในตัวได้ด้วยค่ะ
สังเกตแก๊สหุงต้ม
ในกรณีที่คุณอยู่คอนโด คุณอาจจะไม่ต้องเจอปัญหาเรื่องนี้ เนื่องจากที่ว่าคุณมีเตาไฟฟ้าใช้ แต่กรณีที่คุณอยู่บ้านนั้น คุณต้องระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษ นั่นก็คือเรื่องของ แก๊สหุงต้ม นั่นเองค่ะ เพราะตัวแก๊สภายในบ้านนั้นนับเป็นวัตถุไวไฟที่อันตราย แถมยังก่อให้เกิดประกายไฟได้ง่ายมาก ๆ ดังนั้นการเช็กให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญเลยค่ะ
ตัวแก๊สนั้นวิถีการเช็กง่าย ๆ ก็คือดูที่บริเวณวาลล์หัวหมุนนะคะ ตรงบริเวณวาลล์จะมีเขียนว่าหมุนทางไหนคือเปิดและปิด ให้คุณหมุนไปทางที่ปิด และหมุนให้สุดจนกว่าคุณจะหมุนไม่ได้ เพื่อเป็นการทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีแก๊สรั่วไหลเกิดขึ้น นอกจากนี้ เรายังสังเกตได้จากกลิ่นด้วยค่ะ เพราะตัวถังแก๊สภายในบ้านจะมีการเติมกลิ่นเข้าไปเพื่อแจ้งเตือนให้รู้ว่ามีแก๊สรั่วไหลนั่นเองค่ะ
ช่วยอะไร?
แน่นอนว่าการที่คุณปิดวาลล์แก๊สก่อนออกจากบ้าน จะช่วยป้องกันแก๊สรั่วไหล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาไฟไหม้และระเบิด ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อบ้านคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อเพื่อนบ้านใกล้ ๆ กันด้วย โดยเฉพาะเมื่อบ้านของคุณนั้นมีผนังติดกับเพื่อนบ้านค่ะ
Fun Tips!
เช็กง่าย ๆ ด้วยการดูวาลล์ ส่วนใหญ่จะหมุนไปทางด้านซ้าย แต่เพื่อความชัวร์เราแนะนำให้ดูอีกทีนะคะว่าหมุนไปทางไหน เมื่อหมุนเสร็จแล้ว ดูที่เตาแก๊สอีกรอบด้วยนะคะว่าปิดเรียบร้อยแล้วหรือไม่
สังเกตล็อคทุกส่วนให้ดี
เมื่อเช็กทุกอย่างหมดแล้ว อย่าลืมดู ล็อคบ้าน ให้ดีด้วยนะคะ ถ้าอยู่คอนโดก็จะง่ายขึ้นมาหน่อย เพราะว่าก็จะมีห้องที่ต้องดูแค่ไม่กี่ห้อง แต่ถ้าคุณอยู่เป็นบ้าน ยิ่งหลังใหญ่เท่าไหร่ ห้องที่ต้องเช็กนั้นก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น ตั้งแต่หน้าต่างในแต่ละห้อง ประตูระเบียง ประตูห้องนอน ไปจนถึงประตูบ้าน และประตูใหญ่ แต่สำคัญที่สุด ต้องดูด้วยนะคะว่าล็อคกลอนบ้านเราเสียไหม ถ้าเสียต้องรีบเปลี่ยนค่ะ
สิ่งแรกที่จะเช็กได้เลยก็คือหน้าต่างค่ะ หน้าต่างนี้สามารถเช็กได้ในทุกห้องเลย เช็กให้ดีว่าลงกลอนหมดแล้วไหม หากเช็กหมดแล้ว แนะนำให้ไปดูที่ระเบียงต่อ บ้านส่วนใหญ่นั้นจะมีระเบียง และจะอยู่ที่ชั้นสองเป็นต้นไป ซึ่งก็อันตรายต่อการที่โจรจะขึ้นบ้านได้ ดังนั้นต้องเช็กให้ดีกว่าประตูระเบียงนั้นใส่กลอนดีรึยัง
ส่วนประตูห้องอื่น ๆ นั้นเมื่อล็อคจากภายนอกแล้ว ต้องเก็บกุญแจให้ดีและห้ามลืมนะคะว่าเก็บกุญแจไว้ที่ไหน ส่วนที่ประตูบ้านนั้น เช็กกลอนและแม่กุญแจให้ดีค่ะ
ช่วยอะไร?
กันขโมยขึ้นบ้านได้ก็คงเป็นปัจจัยสำคัญแน่นอนเลยค่ะ เพราะว่าบางครั้งเราก็ต้องป้องกันบ้านเราด้วยตัวเองก่อน จริงไหมคะ?
Fun Tips!
ล็อคแน่นหนาไม่ว่า แต่ต้องห้ามลืมที่เก็บกุญแจหรืออย่าลืมพกกุญแจไปด้วยนะคะ เดี๋ยวเข้าบ้านตอนกลับไม่ได้จะลำบากค่า
กำจัดสิ่งสกปรกภายในบ้าน
เช็กทุกอย่างหมดแล้ว ต้องอย่าลืมเช็กขยะหรือสิ่งสกปรกภายในบ้านด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขยะในถัง เศษอาหารในอ่างล้างจาน ไปจนถึงอาหารใกล้เสียในตู้เย็นและตู้กับข้าว เนื่องจากของเหล่านี้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ อาจจะทำให้สัตว์รบกวนต่าง ๆ เข้ามาภายในบ้านได้ โดยเฉพาะมดและแมลงสาบ ซึ่งยากต่อการกำจัดหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ
นอกจากนี้เสื้อผ้าก็เป็นสิ่งที่ต้องซักก่อนค่ะ โดยเฉพาะชุดชั้นใน เพราะหากทิ้งไว้ อาจจะเกิดอาการหมักหมม เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และเกิดเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ที่อาจจะส่งผลต่อเราได้ ตั้งแต่อาการคัน ไปจนถึงอาจจะเกิดเชื้อเข้าร่างกายได้นะคะ
ช่วยอะไร?
ลดการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน ลดแบคทีเรีย และยังช่วยลดเรื่องของการที่เจอสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ด้วยนะคะ
Fun Tips!
เคลียขยะลงถังแล้ว อย่าลืมนำไปทิ้งที่ถังขยะใหญ่ด้านนอกด้วยนะคะ ส่วนเสื้อผ้าถ้าไม่อยากซักเอง ไปร้านซักรีดเองก็ช่วยประหยัดเวลาไปได้พอควรเลยค่ะ
เก็บทรัพย์สินและสิ่งของมีค่าให้ดี
อันนี้ต้องสังเกตดี ๆ อย่าลืมเด็ดขาด เพราะทรัพย์สินมีค่าของคุณนั้นกว่าจะเก็บมาได้ก็ใช้เวลานาน จะปล่อยให้โจรมาขโมยไปก็คงจะใช่ที่ ดังนั้น ต้องเก็บทรัพย์สินและเอกสารของคุณให้ดี ไม่ว่าจะเป็นในตู้ ในเซฟ หรือในที่ที่มิดชิด ที่สำคัญ ต้องอย่าลืมเช็กล็อคด้วยว่าล็อคนั้นยังใช้ได้ดีอยู่รึเปล่า
แต่ถ้ารู้สึกไม่ชัวร์ว่าของที่เก็บไว้จะอยู่ดีหรือไม่ การที่นำไปฝากไว้กับธนาคารนั้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะมีคนช่วยดู มีระบบดี อีกทั้งยังมีความปลอดภัยและมีหลักประกันที่การันตีได้ว่าถ้าหายจะได้คืนนั่นเอง
ช่วยอะไร?
ช่วยปกป้องทรัพย์สินของเรานั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินประเภทเงินสด ไปจนถึงทรัพย์สินที่เป็นสิ่งของ ทั้งนาฬิกา แหวน สร้อย เครื่อเพชร เครื่องประดับ เป็นต้น
Fun Tips!
เมื่อใส่รหัสเซฟแล้ว อย่าลืมจดไว้ด้วยนะคะ เพราะตัวเซฟนั้นถ้าเปิดไม่ได้จริง ๆ อาจจะต้องถึงขั้นไปที่ร้านให้เขาตัดออกค่ะ
ฝากบ้านไว้กับคนที่ไว้ใจ/ตำรวจ
การที่เราฝากบ้านไว้กับใครสักคนก็เหมือนกับการที่เราติดกล้องวงจรปิดไว้รอบ ๆ บ้าน โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่น่ารัก (กรณีนี้แนะนำให้ใช้เฉพาะคนที่สนิทและไว้ใจกันเท่านั้นนะคะ) เพราะเอาเข้าจริง เพื่อนบ้านนี่แหละคือคนที่จะเข้ามาช่วยเราดูแลบ้าน ทั้งสวน สัตว์เลี้ยง และช่วยสังเกตการณ์สถานการณ์ต่าง ๆ แถมยังดูไม่มีพิรุธสำหรับโจรด้วยค่ะ
และอีกทางเลือกนึงนั่นก็คือ ฝากบ้านไว้กับตำรวจ ที่สามารถฝากไว้ได้ที่สถานีตำรวจที่อยู่ในเขตของคุณเลยค่ะ โครงการนี้มีมาหลายปีแล้วโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว ทำได้ง่าย ๆ เพียงเดินเข้าไปในสถานีตำรวจ แจ้งเลขที่บ้าน หมู่บ้าน และช่วงวันหยุดที่เราจะไปค่ะ
ช่วยอะไร?
สำหรับบ้านที่ไม่มีกล้องวงจรปิด วิธีนี้จะเหมาะกับการดูแลบ้านให้ปลอดภัยเป็นพิเศษค่ะ
Fun Tips!
วิธีนี้เราแนะนำกับกรณีที่มีเพื่อนบ้านที่สนิทและไว้ใจกันได้จริง ๆ นะคะ เพราะถ้าไม่ไว้ใจกันมากก็เหมือนกับเราพาโจรเข้าบ้านกลาย ๆ เลยค่ะ
ติดกล้องวงจรปิด
กรณีที่เราอยากจะติดตั้งกล้องวงจรปิดก็ทำได้เช่นกันนะคะ เพราะว่าตัวกล้องวงจรปิดนั้นจะทำให้เราสังเกตบ้านได้ตลอด 24 ชม. แถมยังสามารถดูได้ด้วยตัวเองด้วยค่ะ ซึ่งการติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่เยอะหรือน้อยต่างกันออกไปตามชนิด ประเภท และจำนวนกล้องที่ต้องติดตั้งนั่นเองค่ะ
ซึ่งกล้องนั้นก็จะมีหลายแบบ ตั้งแต่แบบที่เปิดดูได้แบบ Real Time ไปจนถึงแบบที่ต้องแกะการ์ดออกมาเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม อีกทั้งตัวกล้องนั้นยังมีทั้งแบบบันทึกภาพ บันทึกเสียง และบันทึกได้ทั้งสองอย่างค่ะ
ช่วยอะไร?
ความปลอดภัยแน่นอนเลยค่ะ แถมยังสามารถดูได้ด้วยตัวเองอีกด้วยค่ะ ทำให้กล้องวงจรปิดนั้นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หลาย ๆ คนชอบค่ะ
Fun Tips!
เลือกกล้องให้ดีจะช่วยให้เราสามารถใช้งานได้ครั้งเดียว เรื่อย ๆ และคุ้มค่ากว่าการเลือกราคาถูกมาค่ะ
เตรียมแผนดูแลสัตว์เลี้ยง
สำหรับคนที่มีสัตว์เลี้ยงที่บ้านนั้น หลาย ๆ ครั้งที่เวลาเราไปต่างจังหวัด เราก็ไม่สามารถจะพาน้อง ๆ ไปด้วยได้เพราะสาเหตุหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการโดยสาร ความลำบาก และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไว้จะต้องหาทางดูแลรักษาเขาให้ดีก่อนที่เราจะกลับมาค่ะ
วิธีแรกหากเป็นสัตว์เล็กที่ไม่ต้องการการดูแลมาก ก็อาจจะเตรียมอาหาร น้ำไว้ให้อย่างเพียงพอ แต่ถ้าเป็นสัตว์ที่ต้องการการดูแล เราแนะนำวิธีต่อมา นั่นก็คือให้นำไปฝากไว้กับโรงพยาบาลหรือโรงแรมสัตว์นะคะ เพราะมีคนดูแลตลอดเวลา โดยเฉพาะหากเกิดปัญหาอะไรขึ้น หรือเราจะซื้อหุ่นยนต์เลี้ยงสัตว์ไว้ในบ้านก็ได้ค่ะ
ช่วยอะไร?
วิธีนี้จะช่วยให้น้องสัตว์ของเราได้รับความปลอดภัยและการดูแลตลอดเวลา หมดห่วงเรื่องการที่น้องจะอดข้าวอดน้ำไหมแน่นอนค่ะ
Fun Tips!
การนำไปฝากไว้ในโรงพยาบาลนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องระวังและดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายด้วยนะคะ เนื่องจากแต่ละที่นั้นมีราคาไม่เท่ากัน
สรุปส่งท้ายก่อนเดินทางไกล
จะเห็นได้เลยว่าการเดินทางไกลแต่ละครั้งนั้น นอกจากจะต้องเตรียมแพลนเที่ยว เสื้อผ้า สิ่งของ และสภาพรถยนต์ให้พร้อมแล้ว เราก็มีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะเรื่องของการดูแลบ้านก่อนเดินทางนั่นเองค่ะ เนื่องจากบ้านหรือคอนโดของเรานั้นมีหลายอย่างที่อาจจะเป็นอันตรายอยู่ภายในนั้น โดยเฉพาะเรื่องของวัตถุไวไฟและอื่น ๆ อีกมากมาย การที่เราได้เช็กทุกอย่างก่อนออกจากบ้านนั้นจะช่วยให้ที่อยู่ของเราปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้นค่ะ
ถ้าใครมีหัวข้ออะไรอยากให้เราทำ หรืออยากเสนออะไร สามารถบอกเรามาได้เลยนะคะ เดี๋ยว PropertyScout จัดให้! เจอกันใหม่บล็อคหน้าค่า อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ
สนใจดูอสังหา ฯ สวย ตรงปก พร้อมอยู่
คลิกด้านล่างได้เลย