รีวิว Elio Sathorn-Wutthakat (เอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ) – โครงการส่วนกลางจัดเต็ม หนึ่งเดียวในวุฒากาศ
ทำเลที่ตั้ง
Elio Sathorn-Wutthakat โครงการคอนโดมิเนียมพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก 4.5 ไร่ ปังที่สุดในย่านวุฒากาศ ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 400 ม. เท่านั้น จะเดินก็ได้ จะนั่งรถ Shuttle Bus ของโครงการมาก็ดีค่ะ อีกทั้งโครงการนี้ยังตั้งอยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์เส้นเข้าสู่ตัวเมืองค่ะ ทำให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางทำเลฮอตนั้นไม่ยากอย่างที่คิด หรือถ้าอยากจะออกเส้นทางอื่น ๆ ก็ไปได้เช่นกันค่ะ
นอกจากนี้ยังมีทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กับสถานที่ต่าง ๆ มากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ศาสนสถาน และโรงเรียน แต่ก็ยังได้ความเงียบสงบในการอยู่อาศัยเพราะเป็นทำเลที่ไม่มีการรบกวนจากการสัญจรและความเอิกเริกเหมือนในเมืองเลย
การเดินทางมายังโครงการ
รถยนต์: การเดินทางมายัง Elio Sathorn-Wutthakat ทำได้โดยรถยนต์นั้นสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ เนื่องจากตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ติดกับถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักในการสัญจร เพราะเป็นถนนใหญ่เส้นเดียวในย่านนี้นั่นเอง เท่านี้ไม่พอ ยังมีเส้นทางออกสู่ถนนกัลปพฤกษ์ด้วยนะ
รถสาธารณะ:
- รถไฟฟ้า (BTS): ห่างกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีวุฒากาศ ราว ๆ 400 ม.ค่ะ
- แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ : ในส่วนของรถสาธารณะประเภทนี้ เรียกได้ว่ามีผ่านตลอด และสามารถเรียกรถผ่านแอปได้เช่นกันค่ะ
แหล่งอำนวยความสะดวกรอบ ๆ
ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ : ตลาดพลู
ร้านอาหาร, คาเฟ่ : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเรียมวัดนางชี, ร้านกาแฟต้นไม้น้ำ, SALAD FACTORY - PTT.Sathorn Ratchapruek, Jim’s Burger Chomthong, 12:30 Cafe, Seasoned Purple Sweet Potato Koroke, RYN Coffee Bangkok, ผัดไทยป้าติ๋ม, ราดหน้าเคี้ยงเอ็มไพร์ & ข้าวมันไก่, วิเวียน โภชนา, Home, ตาเมือง บะหมี่เกี๊ยว, ลาบเมืองยศ, สุกี้ร้านฮ้อ, ร้าน เล็กบะหมี่บิน UFO, นิวเหลียงสุน ซาลาเปาแต้จิ๋ว, กะหรี่ฝั่งธน, อีเจ้ยแจ่วฮ้อน ซอยวุฒากาศ42, อึ้งเลียงเส็ง 黃兩盛, เอี้ยวฮินโภชนา อาหารจีนแคะ
บาร์: สหายบาร์ ตลาดพลู Sahay Bar, Nutty bar
ศาสนสถาน : วัดใหม่ยายนุ้ย, วัดนางชีโชติการาม, วัดนาคปรก, วัดวรามาตยภัณฑสาราราม (วัดขุนจันทร์), วัดหนังราชวรวิหาร
สถานศึกษา : โรงเรียนวัดใหม่ยายนุ้ย, โรงเรียนอำนวยศิษย์ศึกษา, โรงเรียนวัดนาคปรก, โรงเรียนสถาพรศึกษา, โรงเรียนวัดขุนจันทร์, โรงเรียนแม่พระประจักษ์ กรุงเทพฯ, โรงเรียนวัดศาลาครืน, โครงการเคมบริดจ์โรงเรียนจินดามณี
สถานที่ท่องเที่ยว: พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา วัดหนังราชวรวิหาร
รายละเอียดโครงการ
Elio Sathorn-Wutthakat หนึ่งในโครงการคอนโดมิเนียมที่ขึ้นชื่อเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนในเมืองจาก Ananda Development อย่างโครงการเครือ Elio (โครงการนี้มี 5 โครงการค่ะ ได้แก่ Elio Sathorn-Wuttakat, Elio Del Moss, Elio Del Nest, Elio Del Ray และ Elio Sukhumvit 64) ซึ่งคอนเซปต์หลักของทุกโครงการ Elio นั้นจะเน้นความเป็นธรรมชาติ มีพื้นที่กว้าง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
ไอเดียและแรงบันดาลใจในคอนเซปต์ของ Elio Sathorn-Wutthakat จะมาจากการใช้ชีวิตอย่าง 'Twist to Nature - ทวิสต์ชีวิตสู่ธรรมชาติ' ให้เป็นที่พักพร้อมจุดเด่นอย่าง สิ่งอำนวยความสะดวกสไตล์รีสอร์ทกว้างกว่า 4.5 ไร่ที่เดียวบนย่านวุฒากาศ เน้นการอยู่อาศัยที่สามารถเอนกายพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในทุก ๆ วัน เท่านี้ไม่พอ โครงการนี้ยังมี Co-Living Space ถึง 4 จุดด้วยกัน เหมาะกับการมาหาที่นั่งทำงานสุด ๆ
มาต่อกันที่ตัวโปรเจคเลยนะคะ ตัวอาคารนั้นจะเป็นอาคาร High-Rise จำนวน 2 อาคาร (อาคาร A: สูง 41 ชั้น, อาคาร B: สูง 34 ชั้น) บนที่ดินกว่า 5-1-32 ไร่ จำนวนรวมทั้งหมด 1,164 ยูนิต แบ่งเป็น อาคารที่พักอาศัยทั้งหมด 1,161 ยูนิต และยูนิตร้านค้าอีก 3 ยูนิต โดยที่โครงการนี้จะมียูนิตที่พักอาศัยทั้งหมด 5 แบบค่ะ ได้แก่
- Studio
- 24.5 ตร.ม. ถึง 28 ตร.ม.
- 1 Bedroom
- 30.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus
- 34.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus
- 38.50 ตร.ม.
- 2 Bedroom
- 56.5 ตร.ม. ถึง 60.5 ตร.ม.
- 2 Bedroom Twist
- 38.00 ตร.ม. ถึง 69.5 ตร.ม.
ยูนิตของโครงการนี้จะมีขาย 2 แบบด้วยกัน แบบแรกคือแบบ Fully Furnished ซึ่งจะมีเฉพาะห้องสตูดิโอ และห้อง 1 ห้องนอนเท่านั้นค่ะ ส่วนห้องแบบที่เหลือจะขายแบบ Fully Fitted เท่านั้นค่ะ
Facilities
- Tree House
Tree House อีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะกับการมานั่งทำงานนี้ตั้งอยู่หน้าล็อบบี้ของอาคาร A ตรงข้ามกับ The Pavilion ภายในนั้นเน้นการตกแต่งให้มีความธรรมชาติ ทั้งต้นไม้สีเขียว และวัสดุในการก่อสร้างอย่างไม้สีอ่อนจากธรรมชาติ นอกจากนี้ เขายังมีมุมให้เราได้นั่งทำงานด้วยนะ
- Home Theater
ในส่วนของชั้น B นั้นจะมีอีกหนึ่งในไฮท์ไลท์ของโครงการนี้อยู่ค่ะ อย่างแรกคือ Home Theater หรือโรงหนังนั่นเองค่ะ นั่งดูได้แบบชิล ๆ มีหนังให้ดูเพียบ แถมเก้าอี้และเบาะยังนุ่มสบายมากอีกด้วย เหมาะกับการชวนเพื่อนมาจองดูมากเวอร์
- Karaoke Studio
Karaoke Studio ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นเหมือนกันค่ะ โดยจะตั้งอยู่ข้างกันกับห้องดูหนังเลยค่ะ ภายในก็ไม่ได้มาเล่น ๆ นะคะ เขาจัดเต็มทั้งเครื่องเสียง ไมค์ อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงตัวห้องยังเป็นตัวห้องเก็บเสียงอีกด้วย ถูกใจสายร้องเพลงมากเวอร์ค่ะ
- 3 Layer Swimming Pool
สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นไฮท์ไลท์สำคัญเลยล่ะค่ะ แถมยังมีขนาดที่กว้างและมีถึงสามส่วนให้ได้เลือกใช้งานกันค่ะ โดยเราจะแบ่งให้ดูดังนี้นะคะ
- Jacuzzi
Jacuzzi จะเป็นส่วนแรกที่ตั้งอยู่ค่ะ โดยจะอยู่ด้านบนของสระว่ายน้ำใหญ่นะคะ สามารถเดินขึ้นมาได้ผ่านบันไดวนด้านข้างเลยค่ะ ตัวสระนั้นจะให้ความส่วนตัวมาก ๆ เพราะไม่ได้ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับสระว่ายน้ำ แต่ก็อยู่ใกล้กับยูนิตพิเศษ ดังนั้นอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ไม่อยากเจอใครค่ะ
- Lap Pool
ส่วนที่สองนั้นจะเป็นสระว่ายน้ำตรงกลางค่ะ ตัวสระนั้นจะเป็นสระที่ยาวมาก ๆ เลยค่ะ เพราะตัวสระนี้ทอดยาวคู่ไปกับอาคาร A ดังนั้นเราจึงได้พื้นที่ออกกำลังกายที่มากพอสมควร ต่างจากที่อื่นเลยค่ะ ข้าง ๆ กันนนั้นจะมีพื้นที่ให่ได้พักผ่อนหย่อนใจ ทั้งเก้าอี้อาบแดด และซุ้มที่นั่งนะคะ
- Cave Pool
แต่ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัว เราขอแนะนำบริเวณ Cave Pool เลยค่ะ ตรงนี้นอกจากจะเป็นบ่อเล่นส่วนตัวแล้ว ด้านในยังสามารถเปิดไฟแล้วเข้าไปนั่งได้ด้วยนะคะ หากใครไม่อยากนั่งแช่ตัวบริเวณจากุชชี่เพราะว่ามีใกล้กับยูนิตที่พัก เราขอแนะนำตรงนี้เลย
- Co-Living Valley
Co-Living Valley จะตั้งอยู่มากถึงสี่จุดในบริเวณชั้น 5 ค่ะ โดยจะแบ่งเป็นส่วนใต้อาคาร A 1 จุด และส่วนอาคาร B ถึง 4 จุด มีห้องแบบโซฟา ห้องแบบเคาน์เตอร์ ห้องแบบทำงานส่วนตัว และอื่น ๆ อีกมากมาย นับได้ว่าเป็นโครงการที่จัดพื้นที่ในการทำงานมาให้แบบจุใจเลยค่ะ
- Multi-Function Fitness
ในบริเวณชั้นที่ 5 นั้นจะมีส่วนของ Multi-Function Fitness ตั้งอยู่ด้วยค่ะ ภายในนั้นนอกจากจะมีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ครบครันแล้ว ยังมีห้องเล่นโยคะและส่วนของที่ออกกำลังกายด้านล่างให้ด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเหมือนเป็นห้องออกกำลังกายแบบสองชั้นเลยทีเดียว
- Libratorium
Libratorium หรือห้องสมุดของโครงการนี้จะตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสระว่ายน้ำ ภายในนั้นจะเป็นห้องกระจกโปร่ง สามารถให้แสงสว่างจากธรรมชาติได้ เหมาะกับการอ่านหนังสือมากที่สุดเลยค่ะ อีกทั้งด้านในยังจัดสรรพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยม เพราะมีทั้งโต๊ะสำหรับนั่งอ่านเป็นกลุ่ม ห้องประชุม และเคาน์เตอร์สำหรับทำงานคนเดียวด้วยค่ะ
- Starry Lounge
Starry Lounge จะตั้งอยู่บนชั้นที่ 34 ของอาคาร B ค่ะ ภายในนั้นจะมีทั้งส่วนที่เป็นเคาน์เตอร์บาร์ และที่นั่งที่จะหันหน้าออกไปยังวิวด้านวุฒากาศได้ด้วยนะคะ ตัวหน้าต่างก็ทำมาดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะเป็นหน้าต่างแบบ Floor to Ceiling สามารถเห็นได้แบบเต็มตาเลยล่ะ
นอกจากนี้ โครงการนี้ยังมี
- The Pavillion
- Hybrid Social Club
จำนวนที่จอดรถ
สำหรับโครงการ Elio Sathorn-Wutthakat นั้นจะมีที่จอดรถเป็นที่จอดรถอยู่รอบ ๆ โครงการเท่านั้น โดยจะจอดได้จำนวน 498 คันหรือประมาณ 42% นะคะ
*ไม่ระบุนะคะว่าจอดแบบซ้อนคันได้ไหม
จุดเด่น
- ขายหลายแบบ โครงการ Elio Sathorn-Wutthakat จะมีการขายโครงการสองแบบด้วยกันค่ะ แบบแรกคือแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบพร้อมอยู่ จ่ายที่เดียวจบสำหรับห้องแบบ Studio และ 1 Bedroom แบบที่สองคือ Fully Fitted ที่จะขายเฉพาะห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัสและ 2 ห้องนอนเท่านั้น
- สิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็ม มากถึง 4.5 ไร่ พร้อมให้คุณได้ใช้งานอย่างเต็มที่ แถมโครงการนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นกับทั้งผู้ใหญ่ เด็ก หรือวัยรุ่นก็ตามที
ผังชั้น
- Master Plan
Master Plan จะเป็นแปลนที่ทำให้เราได้เห็นผังของอาคารทั้งหมดค่ะ เมื่อเข้าโครงการมา เราจะเจอกับส่วนหน้าอาคารก่อนเลยค่ะ ซึ่งสองยูนิตแรกทางขวาจะเป็นยูนิตร้านค้าค่ะ ตรงไปด้านในจะเป็นส่วนของอาคาร A ที่จะมีล็อบบี้และห้องทำงานภายนอกอาคารค่ะ ส่วนอาคาร B จะมีทั้งล็อบบี้ ห้องคาราโอเกะ และห้องดูหนังค่ะ
รอบ ๆ อาคารนั้นจะเป็นสวนหย่อมขนาดย่อม แถมทั้งยังมีในส่วนของที่จอดรถรอบ ๆ อาคารและด้านหลังของอาคาร A และ B ด้วยค่ะ ส่วนของอาคารจอดรถนั้นจะมีตั้งแต่ชั้นที่ 1 ไปจนถึงชั้นที่ 4 นะคะ
- 5th Floor
ส่วนของชั้นที่ 5 จะเป็นชั้นผสมสิ่งอำนวยความสะดวกและอาคารที่พักออกจากกันค่ะ โดยที่ตรงอาคาร A จะเป็น Facilities ทั้งหมด และอาคาร B นั้นจะมีห้อง Co-Working Space ตั้งอยู่ผสมกับส่วนของยูนิตที่พักอาศัยทั้งหมด 14 ยูนิตค่ะ
- 6th Floor
ส่วนที่ชั้น 6 นั้นจะเป็นที่พักอาศัยทั้งหมดแล้วค่ะ โดยที่อาคาร A จะมีอยู่ที่ 12 ยูนิต โดยจะเป็นห้องแบบ Studio ทั้งหมด 6 ห้อง, 1 ห้องนอน 1 ห้อง, 1 ห้องนอนพลัส 4 ยูนิต และ 2 ห้องนอน 1 ยูนิตค่ะ ส่วนที่อาคาร B จะมีทั้งหมด 14 ยูนิต ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ
- 7th Floor
ส่วนชั้น 7 ผังจะไม่ต่างอะไรมาก ยกเว้นส่วนปลายอาคารจะมียูนิตที่พักเพิ่มขึ้นมาทั้ง 2 อาคารเลยค่ะ อย่างแรกคือ อาคาร A จะเพิ่มที่พักมาอีก 5 ยูนิต ทำให้มีที่พักทั้งหมด 17 ยูนิต และอาคาร B จะอยู่ที่ 20 ยูนิตนะคะ
- 8th Floor
ชั้นที่ 8 ผังจะเหมือนกับชั้นที่ 7 เลยค่ะ
- 9th Floor
และที่ชั้น 9 เองก็มีลักษณะและจำนวนที่เหมือนกับชั้นที่ผ่านมานะคะ
- 10th Floor
ขยับมาที่ชั้น 10 และผังก็มีความคล้ายกันอีกเช่นกันนะคะ
- 11th - 24th Floor
ส่วนที่ชั้น 11 ไปจนถึงชั้นที่ 24 จะมีการลดจำนวนห้องที่ปลายอาคารลง ทำให้ภายในจะมีผัง จำนวน และประเภทห้องที่เหมือนกันเลยค่า
- 25th Floor
ชั้นที่ 25 นั้นอาคาร A จะมีผังที่เหมือนเดิม ต่างกับอาคาร B ที่จะมีสวนหย่อมอยู่ด้วยค่ะ
- 26th - 28th Floor
ชั้นที่ 26 ไปจนถึงชั้นที่ 28 อาคาร A จะมีห้องเท่าเดิม และอาคาร B จะลดห้องนอนฝั่งริมลงมา 2 ยูนิค่ะ
- 29th Floor
ชั้นที่ 29 ผังฝั่ง A จะเท่าเดิม และทางฝั่งอาคาร B ส่วนนั้นจะเป็นสวนหย่อมเล็ก ๆ นั่นเองค่ะ
- 30th - 33rd Floor
ชั้นที่ 30 ไปจนถึงชั้นที่ 33 นั้น อาคาร B จะมีการลดยูนิตลงมาให้เหลือเพียงแค่ 16 ยูนิตเท่านั้นค่ะ และส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน
- 34th Floor
ที่ชั้น 34 ฝั่งอาคาร B จะมีการเปลี่ยนห้องมุมซ้ายให้การเป็น Starry Lounge ค่ะ และยูนิตจะเหลือเพียง 14 ยูนิตเท่านั้น
- 35th - 40th Floor
ส่วนชั้นที่ 35 ไปจนถึงชั้น 40 นั้นจะมีแค่ที่อาคาร A เท่านั้นค่ะ
- 41st Floor
ส่วนชั้นที่สูงที่สุดนั้นจะตั้งอยู่ที่ชั้น 41 และเช่นเดิมที่ว่าผังจะไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่นะคะ
แบบห้องพักของโครงการ
Studio
แปลนห้อง
Type A1: 24.50 ตร.ม.
ห้องแบบแรกนั้นจะเป็นห้องแบบ Studio ค่ะ ซึ่งห้องนี้โดยปกติแล้วจะมีขนาดอยู่ที่ราว ๆ 24.5 ตร.ม. ถึง 28 ตร.ม. แต่ในห้องตัวอย่างนี้ ตัวห้องจะมีขนาดอยู่ที่ 24.50 ตร.ม.นะคะ
เมื่อเข้ามาในห้องเราจะเจอกับส่วนของ Living Area ที่มีทั้งโซฟา โต๊ะเล็ก และที่วางทีวี และส่วนของห้องนอนไม่ได้มีที่กั้นมา ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นค่ะ ส่วนด้านตรงข้ามกันนั้นจะเป็นส่วนของห้องครัวแบบเปิดพร้อมกับเคาน์เตอร์และระเบียงนะคะ และจะมีห้องน้ำที่มีที่กั้นโซนเปียกและแห้งให้ด้วยนะคะ
ภาพอื่น ๆ ภายในห้อง
แบบแปลนห้อง Studio แบบอื่น ๆ
1 Bedroom
แปลนห้อง
Type B1: 30.50 ตร.ม.
แบบต่อมาจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนที่จะมีเพียงขนาดเดียวเท่านั้น โดยจะอยู่ที่ 30.50 ตร.ม.นะคะ
เมื่อเข้ามาในห้อง เราจะเจอกับ Living Area กว้างก่อนค่ะ ภายในจะมีทั้งโซฟาและที่วางทีวีให้ ถัดไปด้านข้างกันนั้นจะเป็นห้องครัวที่มีประตูบานเลื่อนกั้นไว้ ทำให้สามารถป้องกันกลิ่นในห้องครัวเข้ามาในส่วนที่พักอาศัยได้ด้วยนะคะ ภายในนั้นจะมีทั้งเคาน์เตอร์ครัวและโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่งค่ะ
ด้านหลังที่วางที่วีนั้นจะเป็นที่ตั้งของห้องน้ำค่ะ ซึ่งจะไม่ได้ห่างกันตัวห้องนอนเท่าไหร่เลย ภายในนั้นจะเป็นห้องที่มีเตียงขนาดคิงไซซ์วางอยู่คู่กับตู้เสื้อผ้าด้วยนะคะ
ภาพอื่น ๆ ภายในห้อง
1 Bedroom Plus
แปลนห้อง
Type C1: 34.50 ตร.ม.
ห้องแบบต่อมาจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัสที่จะมีขนาดอยู่ที่ 34.50 ตร.ม. และเป็นเพียงขนาดเดียวด้วยค่ะ
ห้องนี้เอาเข้าจริงผังจะไม่ได้ต่างจากห้อง 1 ห้องนอนเท่าไหร่นัก เพียงแต่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนบางส่วนเล็กน้อย เช่นที่ที่เคยเป็นห้องครัวนั้นจะถูกทำเป็นห้องเสริมขึ้นมา และพื้นที่ข้างห้องน้ำจะถูกเปลี่ยนเป็นห้องครัวแบบเปิดพร้อมเคาน์เตอร์รูปตัว L นั่นเองค่ะ
ภาพอื่น ๆ ภายในห้อง
แบบแปลนห้อง 1 Bedroom Plus แบบอื่น ๆ
2 Bedrooms
แปลนห้อง
Type D1: 56.50 ตร.ม.
แบบที่สามนั้นจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งจะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 56.5 ตร.ม. ถึง 60.5 ตร.ม.นะคะ ส่วนห้องตัวอย่างของเรานั้นจะเป็นห้อง Type D1 ที่มีขนาด 56.50 ตร.ม.ค่ะ
ห้องนี้จะมีส่วนกลางหรือ Living Area ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนทั้งสองค่ะ ทำให้เมื่อเราเข้ามา เราจะเจอกับส่วนของห้องครัวพร้อมประตูบานเลื่อนกั้นทางด้านซ้าย ภายในนั้นจะมีเคาน์เตอร์รูปตัว L วางไว้ให้อยู่ ส่วนตรงกลางห้องนั้นจะมีโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งวางอยู่ สุดปลายทางนั้นจะเป็นส่วนของห้องรับแขกติดระเบียงนะคะ
ส่วนของห้องนอน เราจะเริ่มกันที่ห้องเล็กก่อนเลยนะคะ แม้จะเป็นห้องนอนเล็กแต่ก็มีเตียงขนาดคิงไซซ์ ตู้เสื้อผ้า นอกจากนั้นแล้ว ภายในยังมีห้องน้ำแบบ 2 Access ด้วยนะคะ สะดวกสบายประมาณนึงเลย และตอนนี้ เราก็มาถึงห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom กันเลยนะคะ ภายในนั้นจะมีเตียงคิงไซซ์และพื้นที่ไว้แต่งตัวหน้าห้องน้ำค่ะ จุดเด่นอีกจุดก็คือตรงริมหน้าต่างจะมีที่นั่งสไตล์ยุโรปมาให้เลย สวยมาก ๆ เลยค่ะ
ภาพอื่น ๆ ภายในห้อง
แบบแปลนห้อง 2 Bedroom แบบอื่น ๆ
1 Bedroom Twist
แปลนห้อง
Type E1: 38.50 ตร.ม.
ห้องแบบที่สี่จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Twist ที่จะมีขนาดอยู่ที่ 38.50 ตร.ม.ค่ะ
ตัวห้องจะไม่ได้ต่างกับแบบ 1 ห้องนอนพลัสเลยค่ะ แค่พื้นที่ในการใช้สอยจะเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีส่วนที่ยื่นออกไปให้เห็นสระว่ายน้ำด้านนอกด้วยนะคะ
2 Bedrooms Twist
แปลนห้อง
Type E2: 42.50 ตร.ม.
ห้องแบบสุดท้ายนั้นจะเป็นห้องแบบ 2 Bedrooms Twist ค่ะ จุดเด่นคือห้องนี้จะมีระเบียงที่ยื่นออกไปกว้างกว่าปกติ และส่วนห้องนอนเล็กที่มีพื้นที่ด้วยนั่นเอง
แบบแปลนห้อง 2 Bedroom Twist แบบอื่น ๆ
ราคาของโครงการ
โครงการ Elio Sathorn-Wutthakat ราคา ณ มกราคม 2566
ราคาขาย
- ราคาเฉลี่ย 83,000 บาท/ตร.ม.*
- ราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท*
ราคาค่าส่วนกลางคอนโด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
สรุปส่งท้าย
Elio Sathorn-Wutthakat คอนโดมิเนียมสิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็มกว่า 4.5 ไร่หนึ่งเดียวในย่านวุฒากาศที่คุณไม่ควรพลาด แถมยังมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.09 ล้านบ้าน ซึ่งเป็นราคาที่สามารถจับต้องได้สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหาคอนโดที่น่าอยู่และราคาไม่แพงค่ะ นอกจากนี้ ตัวโครงการยังตั้งอยู่ห่างจาก BTS วุฒากาศเพียงแค่ 400 ม.เท่านั้น จะเดินมาหรือจะอาศัย Shuttle Bus ก็ไม่เลวเลยค่ะ
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นของ Elio Sathorn-Wutthakat ก็จัดเต็มไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะว่ามีตั้งแต่ชั้นที่ 1 ไปจนถึงชั้นที่ 34 เลยค่ะ เหมาะกับวัยรุ่นและคนเจนใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่ชอบอยู่นิ่งค่ะ อีกทั้งตัวโครงการนั้นยังถูกตกแต่งและประดับไปด้วยสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติสีเขียว สมกับชื่อคอนเซปต์จริง ๆ เลยค่ะ
ส่วนแบบห้องนั้นจะมีห้องให้เลือกมากถึง 6 แบบ จะอยู่คนเดียว แฟนหรืออยู่กับครอบครัวก็ดีมาก ๆ เลยค่ะ เพราะโครงการนี้ทำแบบห้องมาให้ตอบรับความต้องการในการอยู่อาศัยและมอบการพักผ่อนให้คุณได้อย่างดีเยี่ยมที่สุดค่ะ
สนใจเช่า ซื้อ คอนโดสิ่งอำนวยความสะดวกจัดเต็ม อลังการอย่าง Elio Sathorn-Wutthakat
คลิกด้านล่างได้เลย
หากท่านสนใจอสังหาริมทรัพย์ บนทำเลใกล้ BTS วุฒากาศ สามารถติดต่อ PropertyScout ได้เลย