ราคาประเมินค่าก่อสร้างในประเทศไทย (ภาพรวมปี 2563-2564)
มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้มีการดำเนินการจัดทำค่าอาคารมาอย่างต่อเนื่อง (ตามดำริของดร.โสภณ พรโชคชัย) และในปัจจุบันทางสมาคมฯ ได้กลับมาดำเนินการปรับปรุงราคาเป็นแบบรายปี หรือรายสะดวกโดยใช้วิธีต้นทุนต่อมูลค่าประมาณการปรับเงื่อนไขให้เหมาะกับแต่ละคุณสมบัติ สำหรับเป็นข้อมูลประเมินค่าทรัพย์สินเพื่อประชาชนและนักลงทุนทั่วไป
โดยค่าก่อสร้างจะคิดเป็นหน่วยบาท (THB) ต่อตรม. ซึ่งประกอบด้วย วัสดุโครงสร้างอาคาร ระบบโครงสร้าง อุปกรณ์ ระบบการทำงาน ค่าแรง ค่าดำเนินการ กำไรของผู้รับเหมา รวมถึงการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) และเบี้ยประกัน โดยไม่รวมถึงการขยายไปถึงความสนใจ ต้นทุนในการจัดการโครงการ การออกแบบ ต้นทุนการซื้อขาย และปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการการก่อสร้าง
โดยมีการศึกษารายละเอียดจากทางราชการและภาคสนามมาดำเนินการจัดการราคาค่าก่อสร้าง ดังตารางต่อไปนี้
ตาราง 1 รายงานการเปลี่ยนแปลงราคาค่าก่อสร้างล่าสุด (ธันวาคม 2564)
รายการ | ร้อยละ (% percentage) |
ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ | 6.74% |
ซิเมนต์ | 11.80% |
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต | 15.61% |
เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก | 25.04% |
กระเบื้อง | 6.52% |
วัสดุฉาบผิว | 3.32% |
สุขภัณฑ์ | 1.92% |
อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา | 12.15% |
วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ | 16.90% |
รวม | 100.00% |
พบว่า ราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์มีราคาค่าก่อสร้างเปลี่ยนแปลงสูงสุดร้อยละ 25.04% รองลงมา ได้แก่ วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ (16.90%) ผลิตภัณฑ์คอนกรีต (15.61%) และอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา (12.15%) และอื่น ๆ ตามลำดับ
ตาราง 2 การเปลี่ยนแปลงล่าสุดตั้งแต่เดือนกันยายน - ธันวาคม 2564 (ระหว่างไตรมาส 3 และ 4)
ดัชนีรวม | +1.41% |
ไม้ | 0.00% |
ซีเมนต์ | +2.80% |
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต | +1.50% |
เหล็ก | +0.90% |
กระเบื้อง | +1.40% |
วัสดุฉาบผิว | +0.10% |
สุขภัณฑ์ | 0.00% |
อุปกรณ์ไฟฟ้า | +0.10% |
วัสดุก่อสร้างอื่นๆ | +2.70% |
พบว่า ค่าวัสดุต่าง ๆ เฉลี่ยมีการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.37 โดยซีเมนต์มีราคาการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ร้อยละ (2.80%) รองลงมาได้แก่ วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ (2.70%) ผลิตภัณฑ์คอนกรีต (1.50%) กระเบื้อง (1.40%) และอื่น ๆ ตามลำดับ
ตาราง 3 แสดงราคาก่อสร้างในไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2564
1. ค่าวัสดุ | 60% | +1.37% | 60.82% |
2. ค่าแรง | 20% | 0.00% | 20.00% |
3. กำไรภาษีและค่าดำเนินการ | 20% | 0.00% | 20.00% |
100.00% | 100.82% | ||
สรุป | +0.82% |
พบว่า นอกจากค่าใช้จ่ายวัสดุที่เพิ่มขึ้น 1.37% ยังประกอบด้วยค่าแรง กำไร ภาษีและค่าดำเนินการซึ่งผลสรุปการปรับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของเดือนธันวาคม 2564 ดังนี้
- ใช้หลักการพิจารณาเทียบเคียงกับเดือนกันยายน - ธันวาคม 2564
- ผลจากการเทียบดัชนีเดือนกันยายน - ธันวาคม 2564 พบว่า มีการปรับเพิ่มราคาวัสดุเพิ่มขึ้น 1.37%
- กลุ่มวัสดุที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ซีเมนต์ วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต กระเบื้อง เหล็ก อุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ฉาบผิว
- กลุ่มวัสดุที่มีการปรับราคาลดลง - ไม่มี-
- กลุ่มวัสดุที่มีราคาคงที่ ได้แก่ ไม้และสุขภัณฑ์
- สำหรับค่าแรง ไม่มีการปรับเพิ่มยังคงอัตราค่าจ้างคงเดิม
- กำไรภาษีและค่าดำเนินการ ไม่มีการปรับเพิ่มยังคงอัตราค่าจ้างคงเดิม
- ผลการวิเคราะห์ ค่าวัสดุ ค่าแรง กำไรภาษีและค่าดำเนินการพบว่า ภาพรวมของราคาค่าก่อสร้างอาคารปรับเพิ่มขึ้น 0.82% ซึ่งเมื่อนำมาปรับราคาค่าก่อสร้างทำให้โดยรวมราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น ดังตาราง
แนวโน้มการประเมินค่าก่อสร้างในปี 2565
สำหรับการประเมินค่าก่อสร้างในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มอาคารประเภทอื่น ๆ เข้ากับมาตรฐานต้นทุนการก่อสร้าง นอกเหนือจากต้นทุนต่อตรม. ซึ่งแบ่งสรรปันส่วนค่าใช้จ่ายตามขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การตอกเสาเข็ม โครงสร้าง งานระบบและงานตกแต่งสถาปัตยกรรม รวมถึงภาพรวมของต้นทุนในแต่ละรายการทรัพย์สินที่พบว่า ต้นทุนในการก่อสร้างบ้านไม้จะเพิ่มขึ้น 6% ในเดือนธันวาคม 2565 ในส่วนการก่อสร้างคอนกรีตที่มีเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างต้นทุนมีแนวโน้มลดลงประมาณ 6-8 %
ในกรณีของสนามเทนนิส โรงจอดรถและโกดังเก็บของ ต้นทุนในการก่อสร้างอาคารพาณิชย์และที่จอดรถใต้ดินลดลงร้อยละ 4 ส่วนอาคารสูง (High-Rise) ราคามีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ธันวาคม 2565 โดยราคาวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่ยังคงเดิม ยกเว้นเหล็กที่ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น 8% ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคานี้ไม่ได้ส่งผลกระทบวงกว้างมากนัก
ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นจะส่วนช่วยสะท้อนภาพรวมในการประเมินค่าก่อสร้างในแต่ละส่วนเพื่อเป็นแนวทางให้ทั้งประชาชนและนักลงทุนทั่วไปที่มีความสนใจ
แหล่งที่มา www.thaiappraisal.org/ และ www.homenayoo.com