ราคาประเมินค่าก่อสร้างในประเทศไทย (ภาพรวมปี 2563-2564)

Author
by
At
February 22, 2022
ราคาประเมินค่าก่อสร้างในประเทศไทย (ภาพรวมปี 2563-2564) ราคาประเมินค่าก่อสร้างในประเทศไทย (ภาพรวมปี 2563-2564)

มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ได้มีการดำเนินการจัดทำค่าอาคารมาอย่างต่อเนื่อง (ตามดำริของดร.โสภณ พรโชคชัย) และในปัจจุบันทางสมาคมฯ ได้กลับมาดำเนินการปรับปรุงราคาเป็นแบบรายปี หรือรายสะดวกโดยใช้วิธีต้นทุนต่อมูลค่าประมาณการปรับเงื่อนไขให้เหมาะกับแต่ละคุณสมบัติ สำหรับเป็นข้อมูลประเมินค่าทรัพย์สินเพื่อประชาชนและนักลงทุนทั่วไป

โดยค่าก่อสร้างจะคิดเป็นหน่วยบาท (THB) ต่อตรม. ซึ่งประกอบด้วย วัสดุโครงสร้างอาคาร ระบบโครงสร้าง อุปกรณ์ ระบบการทำงาน ค่าแรง ค่าดำเนินการ กำไรของผู้รับเหมา รวมถึงการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%) และเบี้ยประกัน โดยไม่รวมถึงการขยายไปถึงความสนใจ ต้นทุนในการจัดการโครงการ การออกแบบ ต้นทุนการซื้อขาย และปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการการก่อสร้าง 

โดยมีการศึกษารายละเอียดจากทางราชการและภาคสนามมาดำเนินการจัดการราคาค่าก่อสร้าง ดังตารางต่อไปนี้   

ตาราง 1  รายงานการเปลี่ยนแปลงราคาค่าก่อสร้างล่าสุด (ธันวาคม 2564)

รายการ ร้อยละ (% percentage)
ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้6.74%
ซิเมนต์11.80%
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต15.61%
เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก25.04% 
กระเบื้อง6.52%
วัสดุฉาบผิว3.32%
สุขภัณฑ์1.92%
อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา12.15%
วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ16.90%
รวม100.00%

พบว่า ราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์มีราคาค่าก่อสร้างเปลี่ยนแปลงสูงสุดร้อยละ 25.04% รองลงมา ได้แก่ วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ (16.90%) ผลิตภัณฑ์คอนกรีต (15.61%) และอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา (12.15%) และอื่น ๆ ตามลำดับ 

ตาราง 2 การเปลี่ยนแปลงล่าสุดตั้งแต่เดือนกันยายน - ธันวาคม 2564 (ระหว่างไตรมาส 3 และ 4) 

ดัชนีรวม+1.41%
ไม้0.00%
ซีเมนต์+2.80%
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต+1.50%
เหล็ก+0.90%
กระเบื้อง+1.40%
วัสดุฉาบผิว+0.10%
สุขภัณฑ์0.00%
อุปกรณ์ไฟฟ้า+0.10%
วัสดุก่อสร้างอื่นๆ+2.70%

พบว่า ค่าวัสดุต่าง ๆ เฉลี่ยมีการเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.37  โดยซีเมนต์มีราคาการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ร้อยละ (2.80%) รองลงมาได้แก่ วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ (2.70%) ผลิตภัณฑ์คอนกรีต (1.50%) กระเบื้อง (1.40%) และอื่น ๆ ตามลำดับ 

ตาราง 3 แสดงราคาก่อสร้างในไตรมาสที่ 4 ปี พ.ศ. 2564 

1. ค่าวัสดุ60%+1.37%60.82%
2. ค่าแรง20%0.00%20.00%
3. กำไรภาษีและค่าดำเนินการ20%0.00%20.00%
100.00%100.82%
สรุป+0.82%

พบว่า นอกจากค่าใช้จ่ายวัสดุที่เพิ่มขึ้น 1.37% ยังประกอบด้วยค่าแรง กำไร ภาษีและค่าดำเนินการซึ่งผลสรุปการปรับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของเดือนธันวาคม 2564  ดังนี้ 

  1. ใช้หลักการพิจารณาเทียบเคียงกับเดือนกันยายน - ธันวาคม 2564
  2. ผลจากการเทียบดัชนีเดือนกันยายน - ธันวาคม 2564 พบว่า มีการปรับเพิ่มราคาวัสดุเพิ่มขึ้น 1.37% 
  • กลุ่มวัสดุที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ซีเมนต์ วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต กระเบื้อง เหล็ก อุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ฉาบผิว 
  • กลุ่มวัสดุที่มีการปรับราคาลดลง - ไม่มี- 
  • กลุ่มวัสดุที่มีราคาคงที่ ได้แก่ ไม้และสุขภัณฑ์
  1. สำหรับค่าแรง ไม่มีการปรับเพิ่มยังคงอัตราค่าจ้างคงเดิม 
  2. กำไรภาษีและค่าดำเนินการ ไม่มีการปรับเพิ่มยังคงอัตราค่าจ้างคงเดิม 
  3. ผลการวิเคราะห์ ค่าวัสดุ ค่าแรง กำไรภาษีและค่าดำเนินการพบว่า ภาพรวมของราคาค่าก่อสร้างอาคารปรับเพิ่มขึ้น 0.82% ซึ่งเมื่อนำมาปรับราคาค่าก่อสร้างทำให้โดยรวมราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น ดังตาราง 

แนวโน้มการประเมินค่าก่อสร้างในปี 2565

สำหรับการประเมินค่าก่อสร้างในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มอาคารประเภทอื่น ๆ เข้ากับมาตรฐานต้นทุนการก่อสร้าง นอกเหนือจากต้นทุนต่อตรม. ซึ่งแบ่งสรรปันส่วนค่าใช้จ่ายตามขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การตอกเสาเข็ม โครงสร้าง งานระบบและงานตกแต่งสถาปัตยกรรม รวมถึงภาพรวมของต้นทุนในแต่ละรายการทรัพย์สินที่พบว่า ต้นทุนในการก่อสร้างบ้านไม้จะเพิ่มขึ้น 6% ในเดือนธันวาคม 2565 ในส่วนการก่อสร้างคอนกรีตที่มีเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างต้นทุนมีแนวโน้มลดลงประมาณ 6-8 %  

ในกรณีของสนามเทนนิส โรงจอดรถและโกดังเก็บของ ต้นทุนในการก่อสร้างอาคารพาณิชย์และที่จอดรถใต้ดินลดลงร้อยละ 4  ส่วนอาคารสูง (High-Rise) ราคามีการปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ธันวาคม 2565 โดยราคาวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่ยังคงเดิม ยกเว้นเหล็กที่ปรับราคาเพิ่มสูงขึ้น 8% ซึ่งการเปลี่ยนแปลงราคานี้ไม่ได้ส่งผลกระทบวงกว้างมากนัก

ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวข้างต้นจะส่วนช่วยสะท้อนภาพรวมในการประเมินค่าก่อสร้างในแต่ละส่วนเพื่อเป็นแนวทางให้ทั้งประชาชนและนักลงทุนทั่วไปที่มีความสนใจ  

แหล่งที่มา www.thaiappraisal.org/ และ www.homenayoo.com