แนะนำ

ในปัจจุบันคอนโดมิเนียมมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งคอนโดติดริมน้ำ หรือติดแม่น้ำอย่างแม่น้ำเจ้าพระยาก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยม ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือเรื่องทัศนียภาพของวิวแม่น้ำที่สวยงาม แต่การจะเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้านเดี่ยว หรือทาวน์เฮ้าส์ก็ตาม ทุกคนพิจารณาว่าเหมาะกับตัวเองจริง ๆ หรือไม่ รวมถึงข้อดี-ข้อเสีย ต่าง ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณา ทำให้สามารถเลือกคอนโดติดริมน้ำได้ตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุด ไปดูพร้อมกันกับ PropertyScout ได้ในบทความนี้ คอนโดติดริมน้ำ ต้องอยู่ติดแม่น้ำเสมอไปหรือไม่? ‘คอนโดติดริมน้ำ’ สำหรับในกรุงเทพนั้นก็จะหมายถึงคอนโดที่อยู่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งในกรุงเทพและปริมณฑลจะมีแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านเพียง 1 สายเท่านั้น สำหรับโซนที่เป็นที่นิยมก็คือ เจริญกรุง พระราม 3 และโซนจังหวัดนนทบุรี ดังนั้นที่ดินติดริมน้ำก็จะมีน้อย ทำให้ราคาของคอนโดริมน้ำก็จะสูงตามไปด้วย เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว จึงทำให้มีคอนโดหลายโครงการไม่ได้สร้างอยู่ติดริมน้ำจริง ๆ แต่ด้วยมุม และองศาของตำแหน่งที่ตั้งทำให้เห็นวิวแม่น้ำชัดเจน มีความสวยงามไม่แพ้กัน และใช้ชื่อว่าคอนโดริมน้ำแบบเดียวกัน ดังนั้นผู้ซื้อทุกคนก็จะต้องไปชมสถานที่ให้มั่นใจก่อนว่าห้องที่เราอยากได้นั้น อยู่ติดริมน้ำ หรืออยู่ฝั่งที่เห็นวิวแม่น้ำจริงหรือไม่ เพราะบางโครงการอยู่ริมน้ำจริง แต่ห้องส่วนมากภายในอาคารอยู่คนละฝั่งกับน้ำก็มี และด้วยความที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ หลาย…

หลายคนคงทราบดันดีว่า การซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยการขอสินเชื่อจากธนาคาร เราซึ่งเป็นผู้ขอสินเชื่อจำเป็นต้องชำระค่าจอง ค่าการทำสัญญา และค่าดาวน์กับทางโครงการหรือผู้ขายก่อน ถึงจะสามารถยื่นเอกสารเพื่อขอสินเชื่อกู้บ้านกับธนาคารได้ แต่หากผลออกมาคือกู้ไม่ผ่าน ก็จะสูญเสียค่าจองและค่าทำสัญญาจะซื้อจะขายเป็นอย่างน้อย ๆ หลายหมื่นบาทที่ได้จ่ายไป แต่เหตุการณ์นี้สามารถป้องกันได้ โดยก่อนที่จะตัดสินใจจองและเซ็นสัญญานั้น เราสามารถใช้บริการ Pre-Approve เพื่อช่วยตรวจสอบในเบื้องต้นได้ว่า จะกู้สินเชื่อผ่านหรือไม่ ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับบริการดังกล่าวว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง และต้องเตรียมการอย่างไรบ้างได้ในบทความนี้เลย Pre-Approve คืออะไร? ‘Pre-Approve สินเชื่อบ้าน’ หรือ ‘การยื่นประเมินสินเชื่อบ้านในเบื้องต้น’ เป็นการขอตรวจสอบสถานภาพทางการเงินและความสามารถในการชำระหนี้ โดยธนาคารพิจารณาจากราคาซื้อขายบ้านหรือคอนโดที่ผู้ขอสินเชื่อแจ้ง ประกอบกับ รายได้ รายจ่าย และเครดิตหรือความน่าเชื่อถือของผู้ขอสินเชื่อด้วย อย่างเช่น ติดเครดิตบูโร หรือไม่ ชำระค่าบัตรเครดิตครบถ้วนตรงเวลาหรือไม่ ซึ่งการทำ Pre-Approve นั้น จะต้องทำในขั้นตอนก่อนการจองบ้านหรือคอนโด การทำสัญญาจะซื้อจะขาย และการชำระค่าดาวน์ แต่การขอสินเชื่อนั้นเป็นขั้นตอนที่ต้องทำหลังจากดำเนินการสิ่งเหล่านี้แล้ว ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า เกิดผลดีกับผู้ขอสินเชื่ออย่างแน่นอน เพราะว่า การเซ็นสัญญา ชำระค่าจอง จ่ายค่าดาวน์กับทางโครงการไปแล้ว หากยื่นกู้จริงผลออกมาคือกู้ไม่ผ่าน ก็จะสูญเสียค่าจองและค่าทำสัญญาจะซื้อจะขายเป็นหลักหลายหมื่นบาทกันเลยทีเดียว ทีนี้หาก Pre-Approve ผ่าน ก็จะหมายความว่า…

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ‘ซื้อคอนโดหลุดดาวน์’ หรือ ‘ห้องหลุดดาวน์’ อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็มักจะมาพร้อมกับโปรโมชั่นล่อตาล่อใจอยู่เสมอ ทำให้คอนโดหลุดดาวน์เป็นที่ต้องการสำหรับคนจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังมีคำถามคาใจว่า ราคาดีแบบนี้แต่ห้องมันจะดีจริงไหม? บทความนี้ PropertyScout ก็จะมาอธิบายเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับคอนโดหลุดดาวน์ หรือการซื้อห้องหลุดดาวน์ สำหรับคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อคอนโดกัน บอกก่อนว่าคนที่สนใจก็อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจซื้อ ส่วนคนที่ยังไม่มั่นใจ หรือยังมีข้อสงสัยก็อย่าเพิ่งหันหน้าหนีกันไป เพราะคุณอาจจะได้ของดีราคาไม่แพงก็ได้ คอนโดหลุดดาวน์ คืออะไร? ‘เงินดาวน์’ นั้นมาจากคำว่า ‘Down payment’ คือเงินมัดจำก้อนแรกที่ต้องจ่ายตามระยะเวลาที่โครงการกำหนดหลังจากที่ทำการจองและทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว โดยจะจ่ายเป็นก้อนเดียว หรือแบ่งจ่าย ๆ เป็นงวด และงวดสุดท้ายจ่ายแบบบอลลูน (งวดที่ต้องจ่ายเป็นก้อน) สินทรัพย์ที่มักมีการหลุดดาวน์ส่วนมากคือ ‘คอนโด’ เนื่องจากคอนโดต้องใช้ระยะเวลาในการผ่อนดาวน์ค่อนข้างนาน ประมาณ 1-2 ปี แม้ว่าในช่วงต้นที่ซื้อคอนโดจะไม่มีปัญหาในการ Pre-Approve แต่ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานอาจเกิดปัญหาสภาพคล่องทางด้านการเงิน หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ จึงทำให้ผู้ซื้อต้องทิ้งดาวน์ไปในท้ายที่สุด นอกจากนั้นอาจเป็นเพราะระหว่างที่ผ่อนดาวน์มีเหตุทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือทางธนาคารปฏิเสธการให้สินเชื่อระหว่างการผ่อนดาวน์ ทำให้ห้องกลับไปอยู่ในมือของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หรือเจ้าของโครงการ ก่อนที่จะนำมาขายใหม่อีกครั้ง และในบางกรณีห้องหลุดดาวน์อาจจะมาจากนักลงทุนบางคนที่ซื้อไว้เพื่อขายใบจอง แต่ไม่สามารถขายได้ตามที่วางแผนไว้เลยต้องทิ้งดาวน์บ้างก็มี ดังนั้นการซื้อ ‘คอนโดหลุดดาวน์’ หมายถึงห้องที่หลุดจากการจอง จากการที่ผู้ซื้อเดิมผ่อนดาวน์ไม่สำเร็จนั่นเอง อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก คอนโดหลุดดาวน์ มีความน่าสนใจอย่างไร? หลายครั้งห้องหลุดดาวน์ก็เป็นตำแหน่งห้องที่ดี ทำเลที่สวย…

สำหรับใครที่ตัดสินใจซื้อบ้านไปแล้ว แต่กลับเปลี่ยนใจไม่อยากได้บ้านหลังนี้แล้ว โดยไม่ว่าจะมาจากเหตุผลเรื่อง ได้ดีลราคาโครงการอื่นที่ดีกว่า เจอทำเลอื่นที่ดีกว่า หรือได้งานใหม่ที่อื่น ทำให้การเดินทางไม่สะดวก แล้วทำให้ตัดสินใจซื้อเร็วไป เมื่อเป็นแบบนี้แล้วสามารถทำการยกเลิกได้หรือไม่ ? PropertyScout จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน เซ็นสัญญาซื้อบ้านไปแล้วยกเลิกสัญญาได้หรือไม่? คำตอบก็คือ ‘ทั้งได้’ และ ‘ไม่ได้’ ขึ้นอยู่กับว่าสถานะการซื้อบ้านของเรากำลังอยู่ในขั้นตอนไหน สัญญาที่เซ็นไปนั้นคือสัญญาฉบับไหน หากเพิ่งจองบ้านไปก็สามารถยกเลิกสัญญาได้ แต่อาจจะต้องถูกยึดเงินจอง แต่หากโอนบ้านแล้ว บ้านหลังนั้นจะกลายเป็นสิทธิของเราโดยชอบธรรม ดังนั้น ไม่สามารถทำการยกเลิกได้ และถึงแม้ว่าเราจะไม่ตรวจไม่เซ็นรับบ้านกับโครงการ ทางกฎหมายก็ไม่รับรู้ไม่สนอะไรแล้ว เพราะถือว่าเราโอนมาแล้ว ไม่มีโอกาสแก้ตัว และยิ่งในกรณีที่โอนบ้านก่อนตรวจบ้านด้วยแล้วนั้นบอกเลยว่าจะยิ่งลำบากมาก ดังนั้นสำหรับคนที่กำลังจะ ซื้อบ้าน หรือคิดจะซื้อบ้าน PropertyScout ขอแนะนำให้ลองเดินทางไป-กลับที่ทำงานจริง ๆ จากตัวบ้านที่เราจะซื้อ เพื่อดูว่าใช้เวลาเดินทางไปทำงานนานเท่าไหร่ เดินทางลำบากหรือเปล่า แล้วอย่าลืมนึกในกรณีที่ได้งานใหม่หลังจากซื้อบ้านเผื่อไว้ด้วย ว่าจะทำอย่างไร อธิบายให่เข้าใจโดยง่ายคือ ยิ่งถ้าเรารู้ว่ามีแผนที่จะเปลี่ยนงานก็ยังไม่ควรรีบซื้อบ้าน ควรจะตรวจดูความต้องการของตนเองและปัจจัยด้านต่าง ๆ ของชีวิตตนก่อนที่จะซื้อบ้าน ยิ่งถ้าเราไม่มีรถส่วนตัวด้วยแล้วนั้นบ้านที่อยู่ในทำเลเดินทางโดยขนส่งสาธารณะไม่สะดวก หรือทำเลอยู่ในซอยลึกมาก ๆ ก็ไม่ควรจะซื้อ…

ทำเลที่ตั้ง Nirvana BEYOND Rama9 Krungthep Kreetha โครงการบ้านเดี่ยวสุดหรูบนทำเลกรุงเทพกรีฑา ตั้งอยู่ในซอยถนนศรีนครินทร์ร่มเกล้า ซึ่งโครงการนี้จะให้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมาก ๆ เพราะว่าตั้งอยู่ในซอยที่มีป้อมยามอยู่ ทำให้การรักษาความปลอดภัยนั้นชัดเจนมากขึ้นค่ะ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นจะต้องออกมายังถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้าก่อนค่ะถึงจะเจอร้านค้ามากมายเลยค่ะ โดยเฉพาะร้านอาหาร ตลาดคนเดิน โรงเรียน และศาสนสถาน อีกทั้งตรงบริเวณนี้ยังใกล้กับทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เดินทางได้ง่ายและสะดวกมากมายเลยค่ะ การเดินทางมายังโครงการ รถยนต์: การเดินทางมายัง Nirvana BEYOND Rama9 Krungthep Kreetha โดยรถยนต์นั้นสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ เพราะสามารถมาจากถนนได้หลายเส้น ทั้งถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ที่จะพาคุณไปยังถนนเจ้าคุณทหาร ออกไปทางลาดกระบังได้ด้วยค่ะ รถสาธารณะ:  แหล่งอำนวยความสะดวกโดยรอบ ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ : ตลาดเดินเล่น กรุงเทพกรีฑา ร้านอาหาร, คาเฟ่ : ปลาหมึกย่างเยาวราช, Mikka Cafe & Bakery Nirvana Define, Burger I…

สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่หลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจ หรือทำสตาร์ทอัพ โดยเริ่มธุรกิจแบบตัวคนเดียวยังไม่มีทีมงาน อาจจะมีคำถามว่า หากเราต้องการจดทะเบียนบริษัทจะสามารถใช้ที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดมิเนียมมาทำเป็นออฟฟิศได้ไหม และจะสามารถจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือจดทะเบียนพาณิชย์ได้หรือไม่ เพราะบางคนอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่จัดตั้งบริษัท ในบทความนี้ PropertyScout จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน ส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการมือใหม่ใช้สถานที่แบบไหนจดทะเบียนบริษัทกัน? สำหรับการทำการค้า แน่นอนว่าจะต้องมีการจดทะเบียนพาณิชย์ หรือจดทะเบียนบริษัท และจำเป็นต้องมีที่ตั้งสำนักงานหรือที่อยู่บริษัทนั่นเอง โดยเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจมือใหม่หรือสตาร์ทอัพ มักจะใช้ที่พักอาศัยเป็นสถานที่ประกอบการในการจดทะเบียน แต่หากเป็นบ้านเดี่ยวตั้งอยู่โดด ๆ ไม่ได้ขึ้นตรงกับหมู่บ้านหรือโครงการใด ๆ จะต้องเสียภาษีป้าย ภาษีโรงเรือนเพิ่มเติม และสามารถขอจดทะเบียนได้ ในกรณีที่พักอาศัยเป็นอาคารชุดหรือห้องชุด สามารถจดทะเบียนพาณิชย์คอนโดหรือใช้คอนโดทำออฟฟิศได้ไหม? แล้วหากว่าผู้ประกอบการอย่างเรา ๆ อยู่อาศัยในอพาร์ตเม้นต์หรือคอนโด จะสามารถจดทะเบียนบริษัทได้ไหม? อันนี้เราลองมาหาคำตอบกัน ในทางกฎหมายว่าอย่างไรบ้าง? อ้างอิงจาก กระทรวงพาณิชย์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการการจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คอนโดเป็นสถานที่ตั้งไว้ว่า นอกจากนั้น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการถือกรรมสิทธิ์ห้องชุด ได้บอกไว้ว่า เพราะฉะนั้น ผู้ประกอบการจะต้องกลับไปดูว่าในสัญญามีข้อห้ามหรือข้อบังคับการใช้ห้องชุดเป็นที่ตั้งของสำนักงานของ หจก. หรือบริษัทได้หรือไม่ ต่อมาเรามาอ้างอิงตาม พ.ร.บ. อาคารชุด 2551 (ฉบับใหม่) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อ 4…

การขายอสังหาริมทรัพย์นั้นไม่ใช่งานที่สามารถใช้เพียงทักษะตามทฤษฎี หรือประสบการณ์ที่ผ่านมา แล้วจะประสบความสำเร็จได้ง่าย ๆ เพราะยังมีอีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้าง่ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อนั่นก็คือ ‘หลักจิตวิทยา’ ในวันนี้ PropertyScout มี 4 หลักง่าย ๆ มาฝากเจ้าของทรัพย์ทุกคน รับรองว่าหากลองนำไปปรับใช้ จะช่วยให้ขายได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน! Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย) Loss Aversion หรือกลัวความกลัวการสูญเสีย หลักจิตวิทยาแรกที่อยากแนะนำกัน เพราะคนส่วนใหญ่มักกลัวว่าหากไม่รีบซื้อตอนนี้จะพลาดโอกาสในการได้รับราคาที่ดีที่สุด และถึงแม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ต่อไปอาจเจอราคาหรือทรัพย์ที่ดีกว่า หากผู้ขายมีทรัพย์และดีลราคาที่ดีอยู่ในมือ ควรใช้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกกลัวว่าจะสูญเสียมันไป อย่างเช่น ‘ดีลดี ๆ ไม่ได้มีบ่อย’ มุกแนวนี้คุณมักจะเจอบ่อยในเว็บจองที่พัก เป็นการแจ้งเตือนว่า ‘เหลืออีก 1 ห้อง’ หรืออาจจะเป็น ‘มี 3 คนกำลังสนใจห้องนี้’ เป็นต้น มุกเหล่านี้มักจะเจอบ่อยในเว็บจองที่พัก แต่กับการขายอสังหาริมทรัพย์ก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน หรืออีกวิธีหนึ่งที่นายหน้ามืออาชีพมักใช้กันคือการ ‘First Come First Serve’ หากทรัพย์นี้มีคนสนใจมากกว่า 1…

‘โจรปล้นบ้าน’ เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นโจรงัดเข้าไปปล้นบ้านหรือคอนโดก็ตาม ยิ่งคนที่อยู่คอนโดคงไม่คิดว่าจะโดนงัดห้องได้ เพราะมีระบบการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างแน่นหนา แต่เมื่อมีการโดนงัดห้องเกิดขึ้นนั้นหมายถึงความไม่ปลอดภัยต่อทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ดังนั้นบทความนี้ PropertyScout จะมาอธิบายเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการที่โจรขึ้นบ้านและคอนโด สาเหตุของการถูกงัด และเมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องทำอย่างไร? มีกฎหมายข้อใดกันบ้างที่สามารถนำมาใช้เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น? ทุกปัญหามีทางออกเสมอ อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้โจรขึ้นบ้านและคอนโด? การที่บ้านและคอนโดของเราโดนงัดอาจจะมาจากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ความหละหลวมของนิติบุคคล , การรักษาความปลอดภัยไม่มากพอ , หรือไม่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ , หรือถ้าแย่กว่านั้นก็คือ เพื่อนบ้านภายในโครงการกลายเป็นโจรซะเอง สำหรับหมู่บ้านจัดสรรค์ เหตุการณ์โจรปล้นบ้านบ้านมักเกิดขึ้นบ่อยในหมู่บ้านที่มีทำเลชานเมือง หรือทำเลใกล้กับสลัม ส่วนกรณีการงัดคอนโดถึงแม้ว่าจะมีสถิติการเกิดไม่บ่อยมากนัก แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นเลย ดังนั้นเราจะไปดูกันต่อว่าการปฏิบัติตัวหลังจากทราบว่าบ้านหรือห้องคอนโดถูกงัดและเกิดความเสียหายขึ้น จะต้องทำอย่างไร โจรขึ้นบ้าน/คอนโดแล้วต้องทำอย่างไร? กฎหมายว่าด้วยเรื่องการป้องกันตัวเอง สามารถทำอย่างไรได้บ้าง? เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้วเชื่อว่า เจ้าของบ้านและคอนโดทุกคนล้วนต้องป้องกันตัวไว้ก่อน ซึ่ง PropertyScout ก็จะมาแนะนำกันต่อว่าการป้องกันตัวแบบไหนกันถึงจะไม่เกินกว่าเหตุ และต้องเป็นไปในระดับใด เราที่เป็นผู้เดือดร้อนถึงไม่ตกเป็นผู้ต้องหาตามไปด้วย โดยอ้างอิงตามกฎหมาย กองปราบปรามได้มีการระบุการบังคับใช้กฎหมายมาตรา 68 ไว้ดังนี้ ‘การป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 68 แห่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา…

เมื่อซื้อบ้านซื้อคอนโดใหม่หรือปลูกบ้านเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เจ้าของบ้านทุกคนต้องทำการตรวจรับบ้านอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุมก่อนรับมอบบ้าน อย่างไรก็ตามยังมีอยู่จุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่มักจะถูกละเลยอยู่บ่อย ๆ นั่นก็คือ ‘งานระบบท่อประปา’ นั่นเอง ในบทความนี้ PropertyScout จะพาทุกคนไปดูวิธีตรวจงานระบบท่อประปากัน ทำความรู้จัก ‘ท่อประปาแต่ละชนิด’ อยากแรกก่อนจะเข้าเรื่องการตรวจงานท่อประปา ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าท่อประปามีกี่ชนิด และมีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ‘ท่อประปาแบบพีวีซี (PVC)’ คือ ท่อชนิดหนึ่งที่ผลิตจากวัสดุที่เรียกว่าโพลิไวนิลคลอไรด์ (Polyvinylchloride) ที่มีความทนทานและราคาไม่แพง โดยจะมีหลายสีให้เลือก โดยแต่ละสีก็มีคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้ ท่อพีวีซีสีเหลือง เป็นท่อที่เหมาะกับระบบสายไฟในอาคาร เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันไฟฟ้า ทนความร้อน และติดไฟยาก แต่ท่อชนิดนี้จะมีขนาดให้เลือกไม่มากนัก เพราะเน้นทำท่อเพื่อร้อยสายไฟเท่านั้น ท่อพีวีซีสีขาว เป็นท่อที่เหมาะกับระบบสายไฟนอกอาคาร มีคุณสมบัติต่าง ๆ เหมือนท่อพีวีซีสีเหลือง แต่ทนทานต่อรังสียูวี (UV) ได้ดีกว่า และมีความยืดหยุ่นสูงจนสามารถดัดงอได้โดยไม่ต้องใช้ข้อต่อ ท่อพีวีซีสีฟ้า เป็นท่อที่เหมาะกับระบบส่งน้ำประปาและน้ำดื่ม ซึ่งท่อชนิดนี้มีขนาดที่หลากหลาย และมีความหนาเพียงพอต่อการรองรับแรงดันน้ำ หากจะเดินท่อประปา PVC ในบ้าน ก็ควรเลือกใช้ท่อพีวีซีสีฟ้าเท่านั้น ท่อสีเขียว (PP-R) เป็นท่อพลาสติกประเภทโพลีโพรไพลีน…

ระบบไฟฟ้าถือเป็นระบบพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการอยู่อาศัย แต่ในหลาย ๆ ครั้งกลับถูกมองข้าม โดยเฉพาะตอนตรวจรับบ้านหรือคอนโดก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ทำให้เจ้าของบ้านต้องมาเสียเวลานั่งซ่อม มาแก้ไขปัญหาทีหลัง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเจ้าของบ้านเจ้าของคอนโดทุกคนสามารถตรวจเช็คระบบไฟฟ้าเบื้องต้นด้วยตนเองได้ง่าย ๆ ว่าแต่ทำอย่างไรบ้าง? ไปศึกษาพร้อม ๆ กันกับ PropertyScout ได้ในบทความนี้ วิธีตรวจระบบไฟฟ้าด้วยตนเอง ฉบับทำตามได้ง่าย ๆ การตรวจเช็คระบบไฟฟ้านั้นไม่ได้มีเพียงแค่การทดสอบหลอดไฟภายในบ้านเท่านั้น แต่ยังต้องเช็คในเรื่องของระบบสายไฟ เรื่องความปลอดภัย และอื่นๆ อีกด้วย สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้ ตรวจระบบไฟฟ้าขั้นเบื้องต้น การตรวจระบบไฟฟ้าในบ้านขั้นแรกเลยก็คือ เปิด-ปิด ไฟทุกดวงทั้งในและนอกบ้าน ตรวจเช็คว่ามีแสงสว่างครบทุกจุดหรือไม่ หรือมีการชำรุดหรือใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพในจุดไหนบ้าง หากมีสวิตช์ 2 ทาง ควรตรวจเช็คเปิด-ปิดสวิตช์ทุกจุดที่มีการติดตั้ง ตรวจเต้ารับว่ามีไฟรั่วหรือไม่ เต้ารับเป็นบริเวณที่อาจเกิดไฟรั่วได้ หากติดตั้งมาไม่ถูกวิธี หรือมีข้อผิดพลาดระหว่างการติดตั้ง ดังนั้นเราต้องทำการตรวจระบบไฟฟ้าว่ามีไฟรั่วและรองรับเต้าเสียบได้ดีเป็นปกติหรือไม่ โดยสามารถใช้ไขควงเช็คกระแสไฟรั่วได้ แนะนำว่าควรเช็คทุกเต้ารับที่มีในบ้านหากตำแหน่งใดที่ไม่มีไฟเข้าจะได้การซ่อมแซมอย่างทันที ตรวจระบบไฟฟ้าในการเดินสายไฟ อีกหนึ่งในความปลอดภัยที่ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรได้คือ ‘การตรวจการเดินสายไฟ’ โดยให้เปิดช่องเซอร์วิสขึ้นไปดูที่ใต้หลังคาหรือใต้ฝ้า โดยดูว่ามีการทำท่อร้อยสายไฟหรือไม่ เพราะท่อร้อยสายไฟที่ใช้หุ้มสายไฟฟ้าจะต้องร้อยสายไฟให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และสายไฟดูแล้วต้องมีสภาพสมบูรณ์ เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ตรวจการทำงานของมิเตอร์ไฟฟ้า มิเตอร์ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้วัดหน่วยการใช้ไฟฟ้าในบ้าน…