ดินบ้านสร้างใหม่ ทำไมยังปลูกต้นไม้ไม่ได้? เรื่องเกี่ยวกับบ้านที่ควรรู้

Author
by
At
June 18, 2023
ดินบ้านสร้างใหม่ ทำไมยังปลูกต้นไม้ไม่ได้? เรื่องเกี่ยวกับบ้านที่ควรรู้ ดินบ้านสร้างใหม่ ทำไมยังปลูกต้นไม้ไม่ได้? เรื่องเกี่ยวกับบ้านที่ควรรู้
ดินบ้านสร้างใหม่ ทำไมยังปลูกต้นไม้ไม่ได้? เรื่องเกี่ยวกับบ้านที่ควรรู้
ดินบ้านสร้างใหม่ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้น เกิดจากอะไร?วิธีการปรับสภาพดินให้พร้อมปลูกสรุปส่งท้าย

สำหรับเจ้าของบ้านที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่ และย้ายเข้าอยู่ในบ้านเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ คงจะดีไม่น้อยหากมีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้และสวนสวย ๆ ซึ่งก็เชื่อว่าหลายคนคงมีความคิดอยากมีสวนเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านอาจพบปัญหาในการปลูกต้นไม้แล้วต้นไม้ไม่งอก บางครั้งอาจโตขึ้นมาได้ไม่นานก็เริ่มแสดงอาการเจ็บป่วย เกิดโรค หรือหยุดเจริญเติบโตและตายลงในที่สุด ในบทความนี้ PropertyScout ก็จะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยเรื่องของดินในบ้านสร้างใหม่ ว่าทำไมถึงปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น หรือในดินมีปัญหาอะไรบางอย่างอยู่หรือป่าว ไปดูกัน

ซื้อบ้านใหม่-ทำไมยังปลูกต้นไม้ไม่ได้-เรื่องเกี่ยวกับบ้านที่ควรรู้-2

ดินบ้านสร้างใหม่ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้น เกิดจากอะไร?

ดินบ้านสร้างใหม่-ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้น-เกิดจากอะไร
ดินบ้านสร้างใหม่ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้น เกิดจากอะไร?

ก่อนเริ่มก่อสร้างบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวที่ปลูกเองบนที่ดินที่ซื้อไว้ หรือบ้านที่อยู่ในโครงการจัดสรรก็ตาม มักจะมีการถมที่ดินเพื่อให้ดินเรียบเสมอกัน ซึ่งในขั้นตอนนี้หากมีการใช้ประเภทหรือชนิดของดินที่ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก ก็ทำให้ปลูกต้นไม้อะไรไม่ขึ้นนั่นเอง ซึ่งดินชนิดที่นิยมใช้ถมที่ก็จะมีดังนี้เรามาดูกันว่าดินที่ใช้ถมที่นั้นจะนิยมใช้ดินอะไรบ้าง

  • ดินดาน เป็นดินที่จับตัวแข็งเป็นชั้นอยู่ใต้ผิวดินส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวเนื้อละเอียดแน่นที่น้ำซึมผ่านยาก ไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก แต่นิยมใช้ถมที่เพราะบดอัดได้ดี
  • ดินทราย มีต้นทุนต่ำแต่เกิดปัญหาดินทรุดได้ง่ายและไม่อุ้มน้ำ
  • ดินลูกรัง เป็นดินที่ยิ่งแห้งยิ่งแข็ง พบได้ในชั้นลูกรัง ชั้นกรวด ชั้นเศษหิน หรือชั้นหินพื้นในระดับตื้นกว่า 50 เซนติเมตรจากผิวดิน เนื้อดินเป็นดินทรายปนดินร่วนถึง ดินร่วนปนทราย อาจพบกรวด หินมนเล็ก หรือเศษหินปะปน เป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ จึงทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของพืช ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก เพราะเนื้อดินแห้งเกินไป
  • ดินเหนียว เป็นดินเนื้อละเอียด ซึ่งมีคุณสมบัติ ทึบน้ำ อุ้มน้ำได้ดี มีเนื้อละเอียด หาง่ายและต้นทุนไม่สูง นิยมใช้ถมที่กันในกรุงเทพและปริมณฑล
  • ดินประเภทหน้าดิน เป็นดินชนิดที่อยู่บริเวณพื้นผิวดินด้านบน ระดับตั้งแต่ 0-0.5 เมตร หรืออาจลึกกว่านี้เล็กน้อย มีสีดำ เหมาะแก่การปลูกต้นไม้มากที่สุด เนื่องจากมีแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับพืชจำนวนมาก แต่ก็มีต้นทุนสูงดินประเภทอื่น

วิธีการปรับสภาพดินให้พร้อมปลูก

วิธีการ-ปรับสภาพดิน-พร้อมปลูก
วิธีการปรับสภาพดินให้พร้อมปลูก

โดยส่วนมากแล้ว การถมที่ดินเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยมักไม่ได้ใช้ดินประเภทหน้าดินที่มีราคาแพงมากนัก เป็นเหตุผลที่ทำให้เมื่อซื้อบ้านแล้วต้องการปลูกต้นไม้ จะต้องรอประมาณ 3-5 ปีให้ดินปรับสภาพจนเข้าที่ก่อน

โดยเฉพาะดินที่เป็นดินทราย หรือบางโครงการอาจใช้เศษปูนหรืออิฐที่เหลือจากการก่อสร้างมาถมที่ให้ ถ้าแบบนั้นอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าเดิม แล้วทีนี้หากเราต้องการรีบปลูกต้นไม้ในสนามบ้าน หรือปรับสภาพดินให้เร็วขึ้น สามารถทำอย่างไรได้บ้าง? หรือสำหรับเจ้าของบ้านที่ซื้อบ้านใหม่ไปแล้ว ลงต้นไม้ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปอยู่ดี ๆ ต้นไม้เกิดโตช้าลง จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร?


นำดินคุณภาพไม่ดีออกไป

นำดินคุณภาพไม่ดี-ออกไป
นำดินคุณภาพไม่ดีออกไป

วิธีปรับดินที่รวดเร็วที่สุดคือ เราต้องเปลี่ยนดินเก่า ไม่ว่าจะเป็นดินทราย เศษวัสดุก่อสร้าง หรือดินลูกรังที่ไม่เหมาะกับการเพาะปลูกเหล่านี้ออกไปให้หมด หลังจากนั้นให้นำดินใหม่ที่มีสารอาหารสำหรับพืชและเหมาะกับการเพาะปลูกใส่ลงมาแทน แนะนำว่าให้เปลี่ยนเฉพาะในจุดที่ต้องการปลูกต้นไม้เท่านั้นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งหมด เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น


ดินเปรี้ยว (ดินเป็นกรด)

ดินเปรี้ยว-ดินเป็นกรด
ดินเปรี้ยว (ดินเป็นกรด)

สำหรับกรณีที่ปลูกต้นไม้ไปแล้ว อยู่ดี ๆ มีการเติบโตช้าลง ให้ผลผลิตน้อยลง หรือต้นไม้ดูแห้งเหี่ยวราวกับว่ามีอาการขาดน้ำ แบบนี้สามารถสันนิษฐานได้ว่า เกิดดินเปรี้ยวหรือดินเป็นกรดเข้าแล้ว อย่างไรก็ตามไม่ต้องกังวลมากไป เพราะสภาวะดินเป็นกรดสามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ในบางครั้งอาจเกิดจากน้ำฝนที่ชะล้างเอาสารอาหารออกไป หรือในบางครั้งอาจเกิดจากตัวพืชเองที่ดูดธาตุอาหารที่เป็นด่างเข้าไปแล้วปล่อยกรดลงมาแทนก็ได้เช่นกัน

วิธีแก้ดินเป็นกรดคือ ให้ใช้ปูนขาวหรือปูนมาร์ลโรยใส่ดิน ได้ อัตราส่วนจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของดินกรดเอง แต่โดยส่วนมากจะใช้กันที่ประมาณ 100-300 กิโลกรัมต่อพื้นที่ดิน 1 ไร่ หรืออาจใช้วิธีใส่อินทรียวัตถุลงในดินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารในดิน หรืออาจใช้วัสดุคลุมดินเพื่อรักษาความชื้นและหน้าดินก็ได้เช่นกัน


เติมไส้เดือน เพิ่มความสมบูรณ์ของวงจรระบบนิเวศน์ในดิน

เติมไส้เดือน-เพิ่มความสมบูรณ์-ระบบนิเวศน์ในดิน
เติมไส้เดือน เพิ่มความสมบูรณ์ของวงจรระบบนิเวศน์ในดิน

หากดินเสื่อมสภาพลงอาจแปลได้ว่าวงจรระบบนิเวศน์ของดินไม่ครบสมบูรณ์ก็ได้เช่นกัน เพราะดินที่ใช้ถมที่ส่วนใหญ่จะไม่มีสารอาหารหรือสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในดินมากนัก เมื่อเราต้องการให้ดินกลับมามีสภาพที่เหมาะแก่การเพาะปลูกอย่างที่ควรจึงควรเพิ่มตัวช่วยอย่าง ไส้เดือน ซึ่งจะช่วยพรวนดินทำให้ระบายอากาศให้กับดินได้เติมน้ำและรับสารอาหารได้ง่ายมากขึ้น 


อินทรีวัตถุช่วยฟื้นฟูสภาพดิน

อินทรีวัตถุ-ช่วยฟื้นฟูสภาพดิน
อินทรีวัตถุช่วยฟื้นฟูสภาพดิน

เนื่องจากดินเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติ ดังนั้นหากใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติเข้าช่วยแก้ปัญหาได้ก็คงจะดีไม่น้อย หากดินขาดสารอาหารและไม่เหมาะสมสำหรับการปลูกพืช สามารถใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก , ปุ๋ยหมัก , หรือใช้เศษใบไม้ , แกลบ , หรือฟางมาช่วยปรับปรุงดิน โดยวัสดุเหล่านี้จะช่วยปรับสภาพดินให้เหมาะสม สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาหรือมีเวลาน้อย สามารถใช้วิธีนี้โดยการโรยวัสดุดังกล่าวลงบนดิน และพรวนดินอย่างพอดี หลังจากนั้นดินก็จะค่อย ๆ ปรับปรุงสภาพได้เอง


สรุปส่งท้าย

สำหรับดินบ้านสร้างใหม่อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูระยะหนึ่งจนกว่าจะสามารถปลูกต้นไม้ หรือทำสวนได้อย่างที่ต้องการ หากใช้วิธีที่ PropertyScout ได้แนะนำกันไป สามารถช่วยร่นระยะเวลาให้ดินฟื้นฟูสภาพได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพียงเท่านี้เจ้าของบ้านทุกคนก็จะสามารถปลูกต้นไม้ ออกแบบจัดสวน และพักผ่อนอย่างมีความสุขได้ในพื้นที่บริเวณบ้านของตัวเองได้เร็วขึ้น


PropertyScout แหล่งรวมอสังหา ฯ ที่ดีที่สุดในไทย

หาทรัพย์ที่ชอบ ในราคาที่ใช่ ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว