ทิปส์จัดห้องคอนโด สร้างมุมสุดเพอร์เฟคให้ ‘น้องหมา’ พร้อมด้วยหลักการเลือกของใช้ให้เหมาะสม

สวัสดีครับ ช่วงระยะหลังมานี้เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ก็กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และสำหรับการอยู่คอนโดที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด การเตรียมมุมให้กับเพื่อนขนฟูก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นอยู่ร่วมกับเราได้อย่างมีความสุข PropertyScout จึงได้มีทิปส์ดี ๆ ในจัดห้องคอนโดเพื่อสร้างมุมสุดเพอร์เฟคให้กับน้องหมามาฝากทุกคนกันครับ เดี๋ยวไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง

หลักการเลือกของใช้สำหรับน้องหมา

ก่อนจะไปดูทิปส์สร้างมุมให้น้องหมา อยากจะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าหลักการที่ถูกต้องสำหรับการเลือกใช้ของน้องหมานั้น ควรจะพิจารณาเลือกจากปัจจัยอะไรบ้าง

มีขนาดเหมาะสมกับน้องหมา

อย่างแรกเลยก็คือการซื้อของที่มีขนาดเหมาะสมกับน้องหมาของเรา เพราะว่าแต่ละสายพันธุ์ก็มีขนาดแตกต่างกันออกไป หากว่าเราเลือกใช้ของที่มีขนาดเล็กหรือใหญ่เกินไปก็จะทำให้สุนัขใช้งานได้ไม่สะดวก โดยเฉพาะของเล่น หากมีขนาดเล็กเกินไปอาจจะทำให้สุนัขกลืนเข้าไปแล้วเกิดอันตรายได้ครับ

ดังนั้นเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยของน้องหมา เจ้าของควรพิจารณาเลือกซื้อของใช้ที่มีขนาดพอดีกับน้องหมาตังเองนะครับ

แข็งแรงทนทาน

'ความแข็งแรง ทนทาน' คือสิ่งต่อไปที่ต้องคำนึงถึงก่อนซื้อของใช้เพื่อเตรียมตัวจัดห้องคอนโดสำหรับน้องหมา เนื่องจากว่าสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่แรงเยอะ ชอบเล่นปลดปล่อยพลัง ดังนั้นของใช้ที่เลือกควรจะผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง มีความคงทน และสามารถใช้งานได้ยาวนานครับ เป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นก่อนเวลาอันควรซึ่งทำให้เราสิ้นเปลืองมากขึ้นนั่นเอง

สามารถทำความสะอาดได้

ความสะอาดถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาดครับ เพราะการที่เราเลือกของใช้ที่สามารถล้างทำความสะอาดได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นชามใส่อาหาร ใส่น้ำ หรือของเล่นต่าง ๆ ก็จะเป็นการช่วยป้องกันเชื้อโรคสะสม ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้น้องหมามีสุขภาพดี โอกาสเจ็บป่วยน้อยลงครับ

รู้หลักการเลือกของใช้น้องหมาให้เหมาะสมกันแล้ว เดี๋ยวเราไปดูกันต่ดีกว่าว่า ต่อมามาดูกันว่าการเลี้ยงหมาต้องเตรียมอะไรบ้าง โดยเฉพาะผู้ที่เลี้ยงหมาในบ้านซึ่งมีปัจจัยหลายด้านที่ต้องให้ความสำคัญ จะมีอะไรบ้างนั้นตาม ไปดูกันเลย!

ทิปส์ในการจัดมุมสุดเพอร์เฟคให้น้องหมา

แบ่งพื้นที่

การเลี้ยงน้องหมาในห้องคอนโดนั้นก็จะต้องเริ่มต้นด้วยการแบ่งพื้นให้เป็นสัดส่วนก่อน เพื่อที่น้อง ๆ จะได้มีมุมส่วนตัวเป็นของตัวเอง เปรียบเสมือนเป็นห้องนอนครับ สำหรับคนที่อยู่อาศัยในยูนิตแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปก็สามารถใช้ห้องนึงเป็นห้องสำหรับน้องหมาเลยก็ได้ แต่สำหรับคนที่อยู่ในยูนิตแบบ 1 ห้องนอน หรือ สตูดิโอ อาจจะแบ่งพื้นที่สักมุม จะเป็นมุมฝั่งที่ติดกับห้องน้ำ หรือว่าฝั่งริมหน้าต่างก็ได้ครับ ซึ่งในบริเวณที่เราจัดไว้ให้น้องหมานี้ เราก็จะมีทั้งที่นอน และอาจจะวางกล่องใส่ของเล่นไว้ให้น้อง ๆ นอนเล่นได้ด้วย

สำหรับใครที่ต้องการซื้อคอกกั้นให้น้องหมาได้มีมุมที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็ควรวัดขนาดร่างกายของน้อง ๆ ก่อนเลือกซื้อด้วยครับ โดยคอกกั้นที่เหมาะสมจะต้องมีพื้นที่กว้างมากพอสำหรับอิริยาบทที่หลากหลาย เช่น เดินเล่นไปมาได้บ้าง และน้องหมาจะต้องสามารถนั่งและนอนได้ในท่าท่าสะดวกสบายครับ ส่วนความสูงของคอกก็สูงกว่าตัวสุนัขประมาณ 2-4 นิ้ว (เมื่อนั่งหลังตรง) แล้วก็อย่าลืมเปิดประตูคอกไว้เพื่อให้น้องหมาได้ออกมาเดินเล่นสำรวจสิ่งต่าง ๆ ภายในห้องเพื่อป้องกันความเครียดด้วยนะครับ

วัสดุปูพื้น

เมื่อแบ่งพื้นที่สำหรับเป็นมุมส่วนตัวของน้อง ๆ แล้ว ก็มาต่อกันด้วยการเลือกวัสดุปูพื้นที่เหมาะสมสำหรับ การเลี้ยงน้องหมาครับ ซึ่งวัสดุปูพื้นนั้นควรจะมีความเรียบเสมอกัน แต่มีพื้นผิวที่หยาบนิด ๆ และไม่ลื่น นอกจากนั้นควรทนรอยขีดข่วนและทำความสะอาดง่าย อย่างเช่นพื้นกระเบื้องยางลายไม้ ซึ่งน้องหมาก็จะสามารถวิ่งเล่นไปมาได้สะดวก ส่วนใครที่ไม่ชอบลายไม้จะลองดูเป็นลายอื่น ๆ ก็ได้ตามชอบเลยครับ

ที่สำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงวัสดุพื้นที่มีความเรียบลื่น หรือมีผิวมันวาว เช่น หินอ่อนหรือกระเบื้องที่มีความลื่น เพราะมีผลต่อสะโพกและข้อเข่าของสุนัขครับ ยิ่งในน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกสะโพกเสื่อมได้มากกว่า หากเดินหรือวิ่งเล่นบนพื้นลื่น ๆ เป็นประจำ

ที่นอน

สำหรับที่นอนควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดตัวของน้องหมา โดยจะต้องไม่พอดีตัวเกินไป หรือเล็กจนเกินไป เพราะจะทำให้น้อง ๆ นอนด้วยความอึดอัดและไม่เป็นผลดีกับสุขภาพครับ ควรเลือกให้มีขนาดใหญ่กว่าขนาดตัว เพราะว่าจะทำให้นอนได้สบายและเผื่อน้อง ๆ โตได้ด้วย ซึ่งสุนัขแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีอัตราการเจริญเติบโตไม่เท่ากัน ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลของสายพันธุ์น้องให้ดีด้วยนะครับ

นอกจากนั้นที่นอนควรมีวัสดุนุ่มสบายตัว เนื้อผ้าไม่หยาบเกินไป และเป็นแบบที่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย จะได้ไม่เกิดการสะสมของเชื้อโรคที่เป็นเหตุให้น้องหมาป่วยง่ายครับ และหากเราเลือกที่นอนน้องหมาที่มีคุณภาพดี มีความทนทาน ก็จะคุ้มค่ากับกับเงินที่ต้องเสียไปเพราะใช้งานได้ยาวนานขึ้นครับ

มุมกินอาหารน้องหมา

สำหรับมุมกินอาหารน้องหมา อาจจะจัดไว้ตรงระเบียงคอนโด หรือถ้าต้องการให้อยู่ในห้อง ก็สามารถไว้ตรงข้าง ๆ เคาน์เตอร์ครัวได้เลย เพราะเวลาที่น้องหมากินอาหารเสร็จแล้วเราก็จะความสะอาดได้สะดวก แล้วก็อย่าลืมหาแผ่นกันเปื้อนหรือแผ่นซีลิโคนมาปูรองชามอาหารน้อง ๆ ด้วยครับ

ในส่วนของชามข้าวควรใช้ชามวัสดุสแตนเลสเพราะว่ามีความแข็งแรงทนทาน และทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ควรเลือกชามที่มีความลึกและลักษณะความโค้งมนที่เข้ากับใบหน้าของน้องหมาพันธุ์ที่เลี้ยงอยู่ และควรมีฐานรองชามแบบปรับระดับความสูงได้ เพื่อให้น้องกินอาหารได้สะดวกนะครับ

ส่วนใครที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือยุ่ง ๆ อาจจะหาซื้อชามอาหารแบบที่เป็นเครื่องให้อาหารอัตโนมัติตั้งเวลาได้ ก็จะสะดวกสบายยิ่งขึ้นครับ

มุมสำหรับขับถ่าย

เป็นสิ่งสุดท้ายแต่มีความสำคัญมาก เพราะส่งผลทั้งด้านสุขอนามัยในห้องคอนโดของเรา และสุขภาพของน้องหมาเรา ด้วยการที่ห้องคอนโดมีพื้นที่ค่อนข้างเล็ก หากเราไม่จัดพื้นที่ขับถ่ายที่เหมาะสมไว้ให้น้องหมา อาจจะทำให้กลิ่นเหม็นกระจายไปทั่วทั้งห้องก็ได้ครับ ดังนั้นเราควรเลือกพื้นที่ที่ระบายอากาศได้ดี อย่างระเบียงคอนโด รวมไปถึงการฝึกน้องหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นที่ แล้วก็อย่าลืมเปลี่ยนแผ่นรองซับฉี่น้องหมาเป็นประจำ เพื่อป้องกันกลิ่นเหม็นและเชื้อโรคสะสมครับ

สรุปส่งท้าย

สำหรับใครที่อยากเลี้ยงสุนัขภายในห้องคอนโดก็อย่าลืมนำคำแนะนำต่าง ๆ ในบทความนี้ไปปรับใช้กันนะครับ ตั้งแต่การเลือกใช้ของด้วยหลักการที่ถูกต้อง จนไปถึงการจัดมุมต่าง ๆ สำหรับน้อง ถึงแม้ว่าการอยู่คอนโดนั้นมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่ถ้าเราจัดเตรียมพื้นที่ไว้อย่างดีก็จะทำให้อยู่ร่วมกันกับน้องหมาสุดเลิฟได้อย่างมีความสุขแน่นอนครับ!

มองหาคอนโด Pet-Friendly คลิก

สนใจอ่านบทความ Pet-Friendly Guide ในแต่ละทำเล

คลิกเลย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง