ออกแบบ ‘Walk-in Closet’ อย่างไรให้ดูสวย น่าใช้งาน

ในปัจจุบันคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตู้เสื้อผ้าแบบ 'Walk-In Closet' ได้กลายเป็นเทรนด์การออกแบบมุมแต่งตัวในห้องนอนที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะว่าเป็นตู้เสื้อผ้าที่สามารถใช้เป็นห้องแต่งตัว และนอกจากจะใช้จัดเก็บเสื้อผ้าแล้ว ยังสามารถใช้จัดเก็บกระเป๋า หมวก รองเท้า นาฬิกาข้อมือ ตลอดจน Accessories อื่น ๆ แทบทุกอย่าง เรียกได้ว่า Walk-In Closet นั้นช่วยให้เจ้าของห้องได้ใช้สอยพื้นที่ในห้องได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย ในบทความนี้ PropertyScout จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับตู้เสื้อผ้ารูปแบบดังกล่าว มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง ตลอดไอเดียในการออกแบบตกแต่ง Walk-In Closet ให้ดูสวย น่าใช้งาน

ตัวเสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet คืออะไร

Walk-In Closet คือตู้เสื้อผ้าที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องสามารถเดินเข้าไปได้ โดยจะมาในรูปแบบของพื้นที่ หรือ ห้องแต่งตัวห้องนึงที่มีทั้งตู้และช่องสำหรับเก็บของต่าง ๆ มีการแยกฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างเป็นสัดส่วน ต่างจากตู้เสื้อผ้าทั่วไปที่เป็นแบบปกติ

เรียกได้ว่าเป็นฟังชั่นที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะคนที่รักการแต่งตัว เพราะสามารถเก็บของได้เป็นจำนวนมาก ช่วยให้จัดเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ ถือว่าเป็นรูปแบบของตู้เสื้อผ้าที่สะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีมาก

ตัวเสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet มีแบบไหนบ้าง

ตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet โดยส่วนมากจะแบ่งออกเป็น 2 แบบซึ่งก็คือ แบบมีบานประตูสำหรับเปิด-ปิด และ แบบไม่มีบานประตู

แบบมีบานประตู

ข้อดี

ใน Walk-In Closet แบบมีบานประตู เราสามารถจัดเสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ ดูไม่เป็นระเบียบก็ไม่เป็นไร เพราะมีบานประตูด้านหน้าช่วยบังเอาไว้

ข้อเสีย

มองไม่เห็นภาพรวมของสิ่งของต่าง ๆ ที่เก็บไว้ในตู้ ทำให้เสียเวลาเพิ่มในการเปิดดู และดูไม่สวยงามเหมือนกับแบบไม่มีบานประตู

แบบไม่มีบานประตู

ข้อดี

ข้อดีของ Walk-In Closet แบบมีไม่บานประตูคือ ทำให้เรามองเห็นเสื้อผ้าและสิ่งของต่าง ๆ ที่เก็บไว้ในตู้ ด้วยการกวาดสายตามองเข้าไปครั้งเดียว ไม่ต้องมาไล่เปิดดูทีละบาน ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์ของตู้เสื้อผ้ารูปแบบนี้เลย

ข้อเสีย

หากไม่มีการจัดระเบียบเสื้อผ้าและสิ่งของต่าง ๆ ให้ดูดี ก็จะทำให้ดูรกหูรกตา ดังนั้นการจัดเสื้อผ้าต่าง ๆ ให้ดูดีเป็นระเบียบ ก็จะทำให้ Walk-In Closet แบบไม่มีบานประตูดูสวยงามน่ามองเอามาก ๆ

รวมไอเดียออกแบบตกแต่ง Walk-in Closet

กำหนดความลึก และ ระยะการใช้งานต่าง ๆ ให้เหมาะสม

Walk-In Closet ถือเป็นพื้นที่ที่ต้องใช้งานเป็นประจำ ที่เปรียบเสมือนเป็นห้องแต่งตัวที่มีตู้เสื้อผ้ารอบด้านดังนั้นการกำหนดความลึก และระยะการใช้งานให้เหมาะสมก็จะช่วยให้เราใช้งานได้สะดวกสบาย โดยสามารถกำหนดระยะการใช้งานได้ตามนี้

พื้นที่ว่างบริเวณตรงกลาง

• ควรเว้นที่ว่างสำหรับสำหรับทางเดินประมาณ 60-100 เซนติเมตรเป็นอย่างน้อย และในกรณีที่มีฝาตู้แบบบานสวิง ก็ควรเผื่อระยะให้มากขึ้น ส่วนใครที่มีพื้นที่มากพอ อาจจะออกแบบพื้นที่ Walk-In Closet ให้มีเคาน์เตอร์แบบ Island ตรงกลางได้อีกด้วย

ความลึกของตู้

• ควรจะอยู่ที่ประมาณ 60 เซนติเมตรขึ้นไป

ความสูงของราวแขวน

• ความสูงของราวแขวนควรอยู่ที่ประมาณ 150-160 เซนติเมตร หรือระยะที่ยังสะดวกต่อการเอื้อมแขน

ความสูงของชั้นวางของด้านบน

• ความสูงของชั้นวางของด้านบน ไม่ควรเกิน 180 เซนติเมตร

ความสูงของชั้นวางของด้านล่าง

• ชั้นเก็บของด้านล่างควรมีความสูงประมาณ 35-40 เซนติเมตร

แบ่งพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าให้เป็นสัดส่วน

สำหรับการมีห้องแต่งตัวแบบ Walk-In Closet หาก แบ่งพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าให้เป็นสัดส่วน ก็จะทำให้หยิบเสื้อผ้าออกมาใช้ได้สะดวก อย่างเช่น

แบ่งตามประเภทการใช้งานของเสื้อผ้า

• ชุดนอน ชุดใส่อยู่บ้าน ชุดไปรเวท ชุดใส่ทำงาน

แบ่งตามความบ่อยของการใช้งาน

• อย่างเช่น จัดให้ชุดทำงานอยู่ในตู้ฝั่งใกล้ห้องน้ำ หรือฝั่งที่ตนเองสะดวก เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการหยิบมาใช้ หรือใครที่ทำงานอยู่กับบ้านเป็นหลัก อาจจะจัดตู้ฝั่งนั้นให้มีแต่ชุดอยู่บ้าน หรือ ชุดไปรเวทก็ได้

แบ่งตามลักษณะของเสื้อผ้า

• แบ่งโวนระหว่างเสื้อผ้าแบบพับ กับแบบแขวน
• สำหรับคนที่ชอบใส่ชุดเดรส หรือชุดที่มีความยาว ควรเลือกใช้ตู้แบบมีราวแขวนชั้นเดียว ส่วนคนที่เน้นใส่เสื้อกับกางเกงขาสั้น หรือ ชุดเดรสแบบสั้น ก็ควรเลือกใช้ตู้ที่มีราวแขวนแบบ 2 ชั้น

ออกแบบ Walk-In Closet ให้แสงธรรมชาติส่องเข้าถึง

การมีแสงธรรมชาติส่องเข้าถึง ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบห้องแต่งตัวแบบ Walk-In Closet เพราะนอกจากจะช่วยลดความอับชื้นภายในห้องแล้ว ยังช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูสวยงาม น่าใช้งาน ข้าวของที่วางไว้ รวมไปถึงเสื้อผ้าที่แขวนไว้ก็จะมีสีที่ชัดเจนตรงกับสีจริง ส่วนคุณผู้หญิงที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำ เมื่อมีแสงธรรมชาติส่องเข้าถึงในห้อง Walk-In Closet ก็มีส่วนช่วยให้แต่งหน้าออกมาดูดีเช่นกัน

เน้นการออกแบบและจัดวางที่โปร่งโล่ง ป้องกันความชื้น

โดยปกติแล้วตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-In Closet มักจะมีการออกแบบให้อยู่ติดกับห้องน้ำ ทำให้ความชื้นจากห้องน้ำสามารถเข้ามาสู่บริเวณตู้เสื้อผ้าได้ ดังนั้นควรออกแบบพื้นที่ Walk-In Closet ให้มีระยะห่างจากพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งของห้องน้ำไม่น้อยกว่า 120 เซนติเมตร

และหากเป็นไปได้ควรจัดวางสิ่งของต่าง ๆ ให้โปร่งโล่ง ก็จะสามารถระบายความอับชื้น ช่วยป้องกันไม้ให้เกิดกลิ่นอับในเสื้อผ้า รวมไปถึงเชื้อราและแบคทีเรีย

เพิ่มพื้นที่จัดเก็บของในบริเวณมุม Walk-In Closet

อีกสิ่งที่ไม่ควรลืม เมื่อคิดจะออกแบบห้องแต่งตัว Walk-In Closet นั่นก็คือการมี พื้นที่จัดเก็บของในบริเวณมุมห้อง’ โดยเฉพาะคนที่อยู่คอนโดที่มีพื้นที่จำกัด การมีมุมสำหรับจัดเก็บของก็จะช่วยให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า และยังช่วยทำให้เรามีพื้นที่ในการจัดเก็บของเล็กของน้อยอย่างเครื่องประดับ หรือรองเท้าคู่โปรดอีกด้วย

สำหรับการออกแบบพื้นที่มุมห้อง Walk-In Closet ขอแนะนำให้ใช้ตู้เข้ามุมที่มีราวแขวนชั้นเดียว เพราะจะทำให้เราสามารถแขวนเก็บเสื้อผ้าที่ไม่ค่อยได้ใช้ อย่างเช่น เสื้อโค้ทตัวหนา ๆ และยังมีพื้นที่เหลือสำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ด้านล่าง อีกด้วย ใครที่มีเครื่องประดับกระจุกกระจิกเยอะ จะวางตู้มีลิ้นชักไว้สักตัวก็ได้

บทสรุปส่งท้าย

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน สำหรับ Walk-In Closet ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนเล็ก ๆ ในห้องนอน หรือห้องคอนโด แต่ตู้เสื้อผ้ารูปแบบนี้ก็สามารถทำให้ทุกคนมีมุมแต่งตัวฟังก์ชั่นไม่ธรรมดา ทำให้ห้องดูสวยงาม และมีเป็นการใช้สอยพื้นที่ที่จำกัดอย่างคุ้มค่าอีกด้วย ซึ่งในบทความนี้ก็ได้ให้ข้อมูลทั้ง ข้อดี ข้อเสียของตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-In Closet ทั้งแบบมีฝาเปิด-ปิด และแบบไม่มีฝา ตลอดจนไอเดียการออกแบบตกแต่งให้ดูสวยงามและใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น

มองหาคอนโดคุณภาพ มาพร้อม Walk-In Closet คลิกเลย

 PropertyScout มีอสังหา ฯ คุณภาพให้เลือกกว่า 250,000 ที่ทั่วไทย สนใจ เช่า ซื้อ ขาย สอบถามข้อมูล คลิกตามด้านล่างได้เลย