เทคนิคการเลือกม่านให้เหมาะกับบ้านและคอนโด มีทั้งหมดกี่ประเภท?

Author
by
At
June 18, 2023
เทคนิคการเลือกม่านให้เหมาะกับบ้านและคอนโด มีทั้งหมดกี่ประเภท? เทคนิคการเลือกม่านให้เหมาะกับบ้านและคอนโด มีทั้งหมดกี่ประเภท?

สำหรับการตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่าน นอกจากการเลือกเนื้อผ้า เลือกสี และลวดลายของม่านแล้ว ยังต้องพิจารณาเลือกรูปแบบของม่านอีกด้วย เพื่อให้ม่านที่เลือกเหมาะสมกับการใช้งานและสอดคล้องกับทุกพื้นที่แต่ละจุดภายในบ้าน ในคราวนี้ PropertyScout อยากเชิญชวนทุกคนทำความรู้จักม่านแต่ละรูปแบบก่อนที่จะตัดสินใจเลือกม่านมาติดตั้งในบ้านและคอนโด

เทคนิคการเลือกม่านให้เหมาะกับบ้านและคอนโด-มีทั้งหมดกี่ประเภท

ม่านประเภทต่าง ๆ

ม่านจีบ

ม่านจีบเป็นรูปแบบม่านมาตรฐานที่ได้รับความนิยมในบ้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากม่านจีบสามารถเข้ากันได้กับห้องทุกสไตล์เกือบทุกแบบ ม่านจีบมีลักษณะที่จับจีบผ้าม่านด้านบนโดยใช้จีบ 3 จุด ทำให้ผ้าม่านมีลอนสวยงามและสามารถติดผ้าม่านได้ 2 ชั้น คือม่านโปร่งและม่านทึบ หากว่าห้องมีบานหน้าต่างหรือประตูที่ใหญ่และสูง การติดม่านจีบจะทำให้ห้องดูสวยงามและมีความอลังการมากขึ้น หรือหากต้องการให้ห้องมีบรรยากาศร่วมสมัยและดูเรียบหรูเรียบร้อยก็สามารถติดรางม่านที่ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานได้


ม่านตาไก่

ม่านตาไก่
ม่านตาไก่

สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับความทันสมัย ทำให้บ้านดูโมเดิร์นแบบไม่ตกเทรนด์ ขอแนะนำให้เลือกติดม่านตาไก่เพราะม่านรูปแบบนี้จะโชว์รางม่านให้เห็นแบบชัดเจน และสามารถเลือกแบบรางม่านและหัวรางที่เข้ากับสไตล์ของห้องได้ตามต้องการ ซึ่งม่านแบบนี้จะมีลอนที่ดูพริ้วไหวและสวยงาม เพิ่มมิติให้ห้องดูมีเสน่ห์มากขึ้นอีกด้วย


ม่านหูกระเช้า

ม่านหูกระเช้า
ม่านหูกระเช้า

ดีไซน์ของม่านหูกระเช้าจะช่วยสร้างความรู้สึกเก๋ สนุกสนาน และเป็นกันเอง ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน แต่ไม่เหมาะสำหรับใช้ในห้องหรือจุดที่ต้องการให้ดูมีความทางการ

สำหรับคุณสมบัติที่โดดเด่นของม่านหูกระเช้าคือ หูแขวนรางม่านที่ดูน่ารักและเก๋ นอกจากนั้นยังเป็นรูปแบบเดียวที่ใช้ผ้าคล้องรางแทนห่วงม่าน ดังนั้นการรูดเปิด-ปิดม่านอาจจะไม่ค่อยราบรื่นเหมือนรางม่านแบบธรรมดา เนื่องจากเนื้อผ้านั้นเป็นหูแขวนที่สัมผัสรางม่านโดยตรง ทำให้มีความฝืด แต่ก็มีข้อดีคือสามารถถอดออกมาซักทำความสะอาดได้ง่าย


ม่านลอน

ม่านลอน
ม่านลอน

ลักษณะของม่านลอนคือการผสมผสานระหว่างม่านตาไก่และม่านจีบเข้าด้วยกัน โดยมีลักษณะของผ้าที่เป็นลอนและพับไปมา คล้ายกับม่านตาไก่ แต่ไม่มีการเจาะห่วงที่ด้านบนของผ้าม่าน ทำให้ม่านมีลักษณะเป็นลอนคล้ายม่านจีบแทน ม่านรูปแบบนี้เหมาะสำหรับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอล ที่มีการจัดบ้านแบบเรียบง่ายและสบาย ๆ อย่างไรก็ตามยังคงมีความเรียบหรูและดูดี ทำให้ไม่เบื่อง่าย

และเนื่องจากบริเวณหัวผ้าม่านไม่มีการจับจีบ และปล่อยให้หัวผ้าม่านเป็นลอนโค้งไปจนสุดปลายผ้า ทำให้ม่านดูเป็นระเบียบเรียบร้อย สบายตา รู้สึกผ่อนคลาย


ม่านม้วน

ม่านม้วน
ม่านม้วน

เนื่องจากม่านม้วนมีรูปแบบที่ดูทันสมัยและมีลักษณะพิเศษคือ เป็นผ้าผืนใหญ่ที่สามารถม้วนเก็บได้อย่างมิดชิดและเรียบร้อย ทำให้ประหยัดพื้นที่และไม่เก็บฝุ่น และง่ายต่อการทำความสะอาด แนะนำให้คนที่ตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์น หรือสำนักงานออฟฟิต หรือร้านค้าที่ต้องการความทันสมัยใหม่เลือกใช้ม่านชนิดนี้ในการติดตั้ง

นอกจากนี้ ม่านม้วนยังมีรูปแบบให้เลือกอีก 3 แบบคือ

  • แบบทึบแสง (Blackout) ซึ่งสามารถกันแสงได้ถึง 90-100% เพื่อช่วยสร้างความเป็นส่วนตัว
  • แบบกรองแสง (Sunscreen) ที่สามารถให้แสงส่องผ่านบางส่วนและช่วยให้คนภายในเห็นวิวภายนอกในช่วงกลางวัน แต่ไม่สามารถมองเห็นจากภายนอก ส่วนในเวลากลางคืนจะเป็นทางกลับกัน
  • แบบโปร่งแสง (Dimout) ซึ่งให้แสงผ่านได้บ้าง แต่ทั้งภายในและภายนอกจะไม่สามารถมองเห็นกันได้

ม่านพับ

ม่านพับ
ม่านพับ

ม่านพับเหมาะสำหรับหน้าต่างบานแคบหรือหน้าต่างบานเล็กที่ติดกันหลายบานเนื่องจากสามารถเลือกเปิดม่านบานได้แยกตามต้องการโดยไม่ต้องเปิดทั้งหมด ม่านพับมีลักษณะคล้ายกับม่านม้วนโดยเมื่อต้องการปิดม่านก็สามารถดึงรอก ม่านม้วนก็จะม้วนขึ้นไปด้านบน ซึ่งในม่านพับก็จะมีลักษณะคล้ายกันเพียงแต่ว่าจะแตกต่างกันตรงที่จะมีลักษณะการเก็บผ้าม่านโดยพับขึ้นเป็นชั้น ๆ และเรียงซ้อนกันขึ้นไป

นอกจากนั้นม่านม้วนและม่านพับจะแตกต่างกันที่อารมณ์ฟิลลิ่ง โดยม่านม้วนจะมีสไตล์โมเดิร์นแบบเรียบง่ายในขณะที่ม่านพับจะมีสไตล์โมเดิร์นแบบเรียบหรู


มูลี่

มูลี่
มูลี่

สำหรับมู่ลี่นั้นก็จะมีทั้งแบบไม้และอลูมิเนียม โดยสามารถเลือกได้ตามความต้องการได้อีกด้วย แบบไม้ก็จะให้ความรู้สึกอบอุ่นในขณะที่แบบอลูมิเนียมมีความรู้สึกโมเดิร์นกว่า และด้วยคุณสมบัติที่สามารถปรับองศาบานเพื่อให้ได้ทิศทางหรือขนาดช่องแสงตามต้องการทำให้สามารถปรับปริมาณแสงที่ผ่านเข้ามาภายในห้องได้ ทำให้มู่ลี่ได้รับความนิยมติดตั้งกันในบริเวณที่ไม่สามารถใช้ผ้าม่าน อย่างเช่น ในห้องครัวที่มีคราบน้ำมัน หรือโซนเปียกในห้องน้ำ เนื่องจากมู่ลี่ทำความสะอาดได้ง่ายและไม่ต้องกังวลเรื่องความเปียกชื้น หรือหากต้องการใช้มู่ลี่ในการตกแต่งห้องอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยมู่ลี่จะให้กลิ่นอายความเป็นเอเชียและความโมเดิร์นผสมผสานกันอย่างลงตัว นั่นหมายถึงบ้านและคอนโดของเราจะดูสวยงามและมีสไตล์ขึ้นอย่างแน่นอน


ใช้รางม่านแบบไหนดี?

ใช้รางม่านแบบไหนดี?
ใช้รางม่านแบบไหนดี?

สำหรับรางม่านนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของการติดตั้งผ้าม่าน ที่นอกจากจะต้องเลือกให้ใช้งานได้ดีแล้ว ยังต้องเลือกให้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้าน เพื่อเสริมความสวยงามให้กับบ้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะมีให้เลือกหลายประเภททั้งแบบล้อเลื่อน แบบโชว์ราง แบบโค้งดัดมือ และแบบพับ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบ้าน


รางแบบระบบลูกล้อ

ระบบลูกล้อรางม่านเป็นระบบติดตั้งผ้าม่านที่มีลักษณะเป็นรางซึ่งมีลูกล้ออยู่ภายใน โดยการเปิด-ปิดม่านจะใช้ด้ามเพื่อจูงผ้าม่าน ทำให้มีมีความสะดวกในการใช้งาน แม้จะต้องเปิดปิดบ่อย ๆ ก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด และหลังจากลากม่านปิดแล้วจะไม่มองเห็นตัวรางอีกด้วย รางแบบนี้จะได้รับความนิยมในการใช้กับม่านจีบหรือม่านลอน และสามารถติดตั้งได้ทั้งที่ประตูและหน้าต่าง ระบบรางม่านระบบลูกล้อยังสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

รางตัวซี

  • เป็นรางม่านที่ใช้กับม่านจีบเพียงอย่างเดียว เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด เพราะตัวรางมีราคาถูก แต่วัสดุค่อนข้างบาง อาจเปิด-ปิดได้ไม่สะดวกมากนัก

รางตัวยูหรือรางไมโคร

  • เหมาะสำหรับติดตั้งม่านโดยไม่ต้องโชว์ตัวราง นิยมใช้คู่กับกล่องม่านเพื่อบังตัวรางเอาไว้ มักเป็นขาจับอลูมิเนียม คู่กับห่วงแบบพลาสติกมีลูกล้อ มีให้เลือกหลายเกรดตามงบประมาณที่ต้องการ

รางโค้งดัดมือ

รางม่านโค้งดัดมือเป็นรางที่ใช้ในการติดตั้งผ้าม่านแบบจีบ รูปร่างของรางคล้ายกับรางตัวยู แต่มีความบางเบากว่า โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตรางมักเป็นอลูมิเนียม ส่วนลูกล้อก็ทำจากพลาสติก เวลาติตั้งสามารถดัดโค้งได้ด้วยมือให้เป็นรูปร่างที่พอดีกับมุมตามความต้องการ มักจะติดตั้งบริเวณที่เป็นมุมหรือหน้าต่างแบบโค้ง


รางแบบรางโชว์

รางม่านแบบรางโชว์ เป็นรางผ้าม่านที่เมื่อติดตั้งออกมาแล้วจะได้ออกมาตามชื่อ โดยจะโชว์ตัวรางอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดผ้าม่าน ก็ยังคงเห็นรางม่านชัดเจนสวยงาม สามารถเลือกวัสดุให้เข้ากับการตกแต่งได้หลากหลายแบบ มีทั้ง


เลือกความทึบของม่านแบบไหนดี?

เลือกความทึบของม่าน-แบบไหน
เลือกความทึบของม่านแบบไหนดี?

สำหรับห้องหันหน้าไปทางทิศใต้จะโดนแดดค่อนข้างแรง หรือ กรณีผู้อยู่อาศัยต้องการนอนตื่นสาย การใช้ผ้าม่านทึบแสงเลยก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็ไม่เหมาะนักสำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างจากภายนอกเนื่องจากผ้าทีึบแสงเวลาปิดใช้งานแล้วแสงจะผ่านเข้ามาภายในห้องได้น้อยมาก

สำหรับห้องที่หันหน้าไปทางทิศใต้และมีแดดเข้ามาอย่างแรง หรือในกรณีที่ผู้อยู่อาศัยต้องการการตื่นสาย หากใช้ผ้าม่านที่มีความทึบแสงก็เป็นทางเลือกที่เหมาะ อย่างไรก็ตามห้องที่ต้องการแสงสว่างจากภายนอกอาจไม่เหมาะกับผ้าม่านแบบนี้ เนื่องจากเมื่อปิดใช้งานแล้วแสงที่เข้ามาภายในห้องจะมีปริมาณน้อยเอามาก ๆ


ควรติดผ้าม่านโปร่งแสงอีกชั้นด้วยไหม?

ติดผ้าม่านโปร่งแสง
ติดผ้าม่านโปร่งแสงดีไหม?

การติดผ้าโปร่งเพิ่มเข้าไป ที่ได้แน่ ๆ คือเรื่องความสวยงามและช่วยให้ความเป็นส่วนตัวในขณะที่แสงยังส่อง เข้ามาในห้องได้ แต่ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมา เพราะเป็นการการติดม่าน 2 ชุดซ้อนกัน รวมถึงต้องเหนื่อยในการซักทำความสะอาดเป็นอีกเท่านึงด้วย

อาจมีบางคนเข้าใจผิดว่าหากติดผ้าโปร่งเสริมไว้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าทึบแสงเพิ่มเติม แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะผ้าม่านโปร่งแสงไม่ได้มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงอย่างเท่าไหร่ แต่จะเน้นไปที่ความสวยงามและการเพิ่มบรรยากาศภายในห้องมากกว่า หากต้องการห้องที่มืด แนะนำให้ใช้ผ้าม่านทึบแสงอีกชั้น (Blackout)


สรุปส่งท้าย

สุดท้ายแล้ว เราควรเลือกม่านและรางม่านที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งของบ้านและคอนโด โดยเฉพาะรางม่านแบบโชว์นั้นยิ่งควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับภาพรวมการตกแต่ง เพราะหากเลือกได้ไม่เข้ากัน แทนที่การติดตั้งผ้าม่านม่านจะช่วยตกแต่งบ้านให้สวยงามตามแบบที่ต้องการชอบ อาจกลายเป็นการทำให้บ้านดูขัดหูขัดตาซะงั้น


มองหาอสังหา ฯ คุณภาพดี ครบจบได้ที่ PropertyScout!

คลิกตามด้านล่าง