Penthouse คืออะไร? ทำไมถึงโดดเด่นกว่ายูนิตประเภทอื่น!?
Luxury Lifestyle หรูหรา มีความเป็นส่วนตัวสูง
เซย์ไฮกับผู้รักอสังหา ฯ หลาย ๆ ท่านค่ะ วันนี้ PropertyScout จะพาทุกคนมารู้จักกับอีกหนึ่งประเภทยูนิตสุดหรูที่หลาย ๆ คนต่างก็มองว่าราคาแรงเวอร์อย่าง Penthouse นั่นเองค่ะ! ซึ่งเราจะพาคุณมาเจาะลึกกับรายละเอียดของยูนิตประเภทนี้ค่ะ ว่าจะมีจุดเด่นอยู่ที่ไหนนอกจากเรื่องความหรูหรา นอกจากนี้ เราจะมาตอบคุณด้วยว่ายูนิตห้องแบบนี้ดีจริงไหม อย่ารอช้า ไปอ่านกันเลย!
ชวนรู้จัก เพนท์เฮ้าส์
คืออะไร?
เพนท์เฮ้าส์ (Penthouse) เป็นอีกหนึ่งยูนิตที่พักในคอนโดมิเนียมที่จะอยู่ที่ชั้นที่สูงที่สุดของอาคาร มีความเป็นส่วนตัว ส่วนใหญ่จะพบในคอนโดประเภท High-Rise มากกว่า Low-Rise ในระดับ Luxury ค่ะ ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะมองว่าห้องนี้จะมีแต่โครงการ High-Rise เท่านั้น ทว่าความจริงแล้ว โครงการ Low-Rise เองก็มีเหมือนกันค่ะ เพียงแค่อาจจะไม่ได้พบบ่อยนัก
ปกติแล้ว ห้องประเภทเพนท์เฮ้าส์นั้นจะกินพื้นที่ต่อชั้นของโครงการมากกว่า 50% ค่ะ แต่ส่วนใหญ่นั้นจะกินพื้นที่ทั้งชั้นเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวที่สูงที่สุดนั่นเอง ภายในนั้นจะมีขนาดที่กว้างขวางมากกว่ายูนิตอื่น ๆ (ส่วนใหญ่แล้วจะมีขนาดมากกว่า 200 ตร.ม.ค่ะ) ประกอบไปด้วยห้องต่าง ๆ ได้แก่ ห้องครัว ห้องแม่บ้าน ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องเสริม รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมอย่างสระว่ายน้ำ จากุซซี่ และสวนหย่อมเล็ก ๆ นั่นเอง
และด้วยการทำแบบนี้ จึงทำให้ เพนท์เฮ้าส์เป็นอีกหนึ่งยูนิตที่จะให้คุณรู้สึกโล่ง โปร่ง สบายเหมือนกับอยู่บ้านค่ะ แต่จะได้วิวสวย ๆ ที่บ้านไม่สามารถให้ได้ด้วยค่ะ
Fun Fact!
เพนท์เฮ้าส์ นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากเมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยแต่เดิมนั้นจะเป็นยูนิตห้องพักอาศัยที่อยู่ข้างบนสุดของตึก มีพื้นที่คลุมทั้งชั้น พร้อมกับมีการวางผังและตกแต่งที่มีความหรูหรา ในบางครั้งก็จะรวมเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดีเข้าไปด้วย ซึ่งจะมีเฉพาะโครงการระดับ High-End เท่านั้นและจะมีทำเลอยู่แค่ในใจกลางเมืองเป็นส่วนใหญ่ค่ะ
ลักษณะที่สังเกตได้
ห้องประเภทนี้หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าไม่ได้ต่างกับห้องแบบ 3 และ 4 ห้องนอนค่ะ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้ว ห้องเพนท์เฮ้าส์จะมีจุดสังเกตอยู่ค่ะ โดยที่จะมีดังนี้เลย
- เป็นยูนิตพิเศษในคอนโดมิเนียม
- อยู่ชั้นบนสุดของอาคาร (บางครั้งอาจจะอยู่ที่ชั้นรองบนสุดค่ะ)
- การดีไซน์และออกแบบนั้นถูกทำมาแบบพิเศษ
- วัสดุและเฟอร์นิเจอร์จะหรูหรากว่ายูนิตอื่น ๆ
- พื้นที่ในยูนิตจะมากกว่า 200 ตร.ม.ขึ้นไป
- มีจำนวนยูนิตน้อย
- กินพื้นที่ต่อชั้นมากกว่า 50-80%
- มีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนตัวเพิ่มเข้ามาในบางโครงการ
จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ทำให้ยูนิต Penthouse มีความพิเศษกว่ายูนิตอื่น ๆ ค่ะ และก็ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นเรื่อย ๆ จากที่มีเพียง 1-2 ยูนิต อาจจะกลายเป็น 1-4 ยูนิตต่อชั้นค่ะ และนอกจากนี้ห้องแบบนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนตัวภายในยูนิตด้วยค่ะ (แต่ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับว่ายูนิตนั้นมีการออกแบบอย่างไร สามารถเพิ่มเข้าไปได้ไหม)
ความพิเศษของ เพนท์เฮ้าส์ (Penthouse)
เมื่ออ่านมาสักพักแล้ว เราก็จะมีคำถามต่อว่า ห้อง เพนท์เฮ้าส์ มีจุดเด่น มีความพิเศษต่างจากยูนิตอื่นอย่างไร ทำไมหลาย ๆ คนจึงอยากได้ยูนิตนี้แทนบ้านโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง เราจะบอกเลยว่า
Penthouse มีความโดดเด่น เป็นยูนิตที่ห้องอื่น ๆ ของโครงการไม่สามารถให้ได้
อะไรบ้างที่ทำให้พิเศษ?
- ตำแหน่งที่ตั้ง
เรื่องแรกคือเรื่องของ ตำแหน่งที่ตั้ง ค่ะ เนื่องด้วยเป็นยูนิตที่หรูหราและมีความเป็นส่วนตัวมาก ตำแหน่งห้องจึงเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในโครงการ โดยจะตั้งอยู่ชั้นบนสูงสุดหรือชั้นรองลงมาเล็กน้อย ผลพวงของของการได้อยู่ตำแหน่งพิเศษนี้ ทำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของยูนิตนี้ได้รับ วิวพาโนรามา 360 องศา ที่สามารถดูได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังไม่มีตึกสูงมาบังนั่นเองค่ะ
- ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านเดี่ยว
ส่วนต่อมานั้นจะเป็นเรื่องของ ขนาดยูนิต ที่โดยปกติแล้วนั้น ห้องแบบนี้จะมีความกว้างเริ่มต้นที่ 200 ตร.ม.ค่ะ ซึ่งภายใน 200 ตร.ม. นี้ สามารถปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องแบบ Simplex, Duplex หรือ Loft ได้ตามใจชอบเลยค่ะ ทำให้มีขนาดที่กว้าง อีกทั้งยังโล่ง ให้ความรู้สึกเหมือนคุณซื้อบ้านเดี่ยวเลยค่ะ เพียงแค่ว่าบ้านของคุณหลังนี้จะตั้งอยู่บนอาคารสูงวิวดี
- มีความเป็นส่วนตัวสูง
มีความเป็นส่วนตัวสูง เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ยูนิตที่พักแบบนี้ให้คุณได้ค่ะ เนื่องจากห้องประเภทอื่น ๆ ภายในโครงการนั้นจะมีหลาย ๆ ยูนิตภายในหนึ่งชั้น อีกทั้งประตูห้องยังหันหน้าเข้าหากัน ทำให้ความเป็นส่วนตัวลดลง ต่างจากห้องแบบ Penthouse ที่มีเพียง 1-4 ห้องต่อชั้นเท่านั้น แถมประตูห้องยังไม่หันหน้าเข้าหากันอีก
นอกจากนี้แล้ว บางโครงการยังมีสิ่งที่เรียกว่า Private Lift ที่จะพาคุณตรงไปยังห้องของคุณเลย ทำให้คุณไม่ต้องใช้ลิฟต์ร่วมกับใครหรือเสียเวลารอลิฟต์แต่อย่างใดเลยค่ะ
- ความพิเศษที่ยูนิตอื่นไม่มี
ห้องประเภทนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เพิ่มเติมมาให้ และเป็นเพียงยูนิตประเภทเดียวที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นส่วนตัวที่สุดในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น Private Lift, ห้องอาบน้ำภายในห้องนอนทุกห้อง, ห้องครัวภายนอก, Pantry Area, ห้องคุณเมด, ห้องซักรีด, ที่จอดรถโควต้าส่วนตัว รวมไปถึงสระว่ายน้ำ และสวนหย่อมส่วนตัวอีกด้วย
- ไม่มีขายแบบ Pre-Sale
ห้องประเภทนี้จะเปิดขายเฉพาะตอนที่โครงการเสร็จเท่านั้น เนื่องจากยูนิตแบบนี้มีราคาที่แพงกว่าปกติมาก และยังเป็นห้องที่มีจำนวนจำกัดในโครงการ ทำให้ผู้ที่ซื้อห้องประเภทนี้นั้นจะต้องการดูห้องแบบสมบูรณ์ก่อนซื้อนั่นเองค่ะ และโดยส่วนมากนั้นจะซื้อเป็นเงินสดเท่านั้นค่ะ
เหมาะกับใคร
คำถามต่อมาก็คือ 'ห้องแบบนี้เหมาะกับใคร' เนื่องด้วยความพิเศษและราคาต่อยูนิตที่สูง ดังนั้น กลุ่มลูกค้าที่มักจะซื้อห้องแบบนี้บ่อย ๆ นั้นจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ นักลงทุน หรือผู้ที่สนใจในอสังหา ฯ แบบลักชัวรีอยู่แล้วนั่นเองค่ะ เนื่องด้วยห้องแบบนี้จะไม่ได้ถูกซื้อมาเพื่อลงทุนหรือเก็งกำไร แต่จะเป็นยูนิตที่ซื้อเพื่ออยู่หรือเพื่อสะสมโดยเฉพาะค่ะ
ยูนิตแบบนี้เหมาะกับ
- ผู้ที่ต้องการยูนิตที่มีพื้นที่กว้างในเมืองใหญ่
- ต้องการความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย
- ผู้ที่เล็งไว้เพื่อการอยู่อาศัยโดยเฉพาะ
เปรียบเทียบความต่าง
3 - 4 Bedrooms | Penthouse | บ้านเดี่ยว | |
ความเป็นส่วนตัว | ปานกลาง | มาก | มาก |
ขนาดของยูนิต | 60 ตร.ม.+ | 200 ตร.ม.+ | 120 ตร.ม.+ |
ราคาซื้อขาย | 3 ล้านบาท+ | 10 - 300 ล้านบาท | 3.5 ล้านบาท+ |
จำนวนยูนิตต่อโครงการ | 10 ยูนิต+ | 1-4 ยูนิต | แล้วแต่โครงการ |
*ข้อมูลทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไข, ทำเล และปัจจัยอื่น ๆ ของแต่ละโครงการค่ะ
โครงการ Penthouse ที่น่าสนใจ
28 Chidlom (28 ชิดลม)
โครงการ 28 Chidlom เป็นโครงการคอนโดสุดลักชัวรี ของ SC Asset โดยเป็น 1 ใน 3 โครงการหรูจากคอลเลคชั่น Limited Luxury Condominium Collection (อีก 2 โครงการที่เหลือได้แก่ ศาลาแดง วัน และ บีทนิค สุขุมวิท 32) ดังนั้น การออกแบบนั้นก็ต้องเป็นสไตล์โมเดิร์น ดูแพงแต่ไม่ดูโลว์นั่นเอง เท่านี้ยังไม่พอ คอนโดนี้ยังตั้งอยู่ในย่านที่มีที่ดินราคาต่อตารางวาแพงที่สุดในประเทศอีกด้วย
ตัวโครงการนั้นเเป็นโครงการ 2 อาคาร โดยแบ่งเป็นความสูงดังนี้ อาคาร The Villa สูง 20 ชั้น และอาคาร The Tower สูง 47 ชั้น ทำให้เมื่อรวมกันแล้ว 28 Chidlom นั้นจะมียูนิตรวมอยู่ที่ 425 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3-0-24 ไร่ สร้างเสร็จในปี 2562
ตัวโครงการนั้นถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Urban Oasis หรือโอเอซิสใจกลางเมือง และตัวอาคารออกแบบมาในคอนเซปต์ Jewel-box หรือกล่องอัญมณี ตัวโครงการนั้นมีห้องให้เลือกถึง 6 แบบด้วยกัน ได้แก่ Studio , 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, 3 ห้องนอน, ห้อง Duplex และ Penthouse ซึ่งแต่ละแบบนั้นจะแบ่งไปตามอาคารดังนี้
ห้องแบบเพนท์เฮ้าส์จะตั้งอยู่ที่อาคาร The Tower โดยจะแบ่งเป็น Symplex มีขนาดอยู่ที่ 100 ตร.ม. ส่วนของ Duplex จะมีขนาดอยู่ที่ 190 ตร.ม.นั่นเองค่ะ
สนใจซื้อหรือดูห้อง Penthouse ใน 28 Chidlom คลิกเลย!
Saladaeng One (ศาลาแดง วัน)
อีกหนึ่งโครงการ 1 ใน 3 คอนโดจากคอลเลคชั่น Limited Luxury Condominium Collection อย่าง Saladaeng One นั้นจะเน้นความหรูหราและความสงบในการอยู่อาศัยค่ะ ทำให้โครงการเป็นสไตล์โมเดิร์น ตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในย่านเศรษฐกิจสำคัญ และองค์กรชั้นนำของกรุงเทพฯ อีกทั้งยังใกล้สถานทูตต่าง ๆ
แถมมีจุดเด่นเฉพาะตัวด้วยการที่วิวห้องนั้นสามารถมองออกมาเห็นสวนเขียวขจีสุดกว้างและยิ่งใหญ่ตระการตาของสวนลุมพินี สวนสาธารณะที่เป็นเอกลักษณ์ของย่านและคู่กับเมืองหลวงย่านแห่งนี้มาอย่างยาวนาน
โครงการนี้ใช้เวลาก่อสร้างถึง 3 ปีเลยค่ะ โดยที่ตัวโครงการนั้นจะใช้วัสดุที่หรูหราอย่างหินอ่อนแท้นำมาตกแต่งตั้งแต่ภายในไปจนถึงภายนอกอาคาร ส่วนตัวยูนิตที่พักนั้นจะมีการนำกระจกแผ่นใหญ่มาใส่ให้เป็นหน้าต่างแบบ Floor-to-Ceiling เพื่อให้เสพวิวได้เต็มที่ ตั้งแต่สวนลุมพินี และวิวเมือง City View ทางฝั่งตึกมหานครด้วยนะคะ
ตัวอาคารนั้นจะเป็นอาคาร High-Rise สูงทั้งหมด 33 ชั้น บนที่ดินกว่า 1-3-95.5 ไร่ โดยที่ภายในนั้นจะมียูนิตทั้งหมด 187 ยูนิตค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมี Pool Villa อีกหนึ่งจุดด้วยนะคะ ไฮท์ไลท์คือโครงการนี้ตัวยูนิตจะไม่หันหน้าเข้าหากันนะคะ แต่จะอยู่รายล้อมระเบียงรูปตัว U รอบ ๆ แทน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมาก ๆ เลยค่ะ
ห้องแบบเพนท์เฮ้าส์ของโครงการนี้จะมี 4 ห้องนอน โดยจะมีขนาดอยู่ที่ 420 ตร.ม.เท่านั้นค่ะ
สนใจซื้อหรือดูห้อง Penthouse ใน Saladaeng One คลิกเลย!
The Ritz-Carlton Residences at King Power Mahanakorn (เดอะ ริทซ์ คลาลตัน เรสซิเดนซ์ แอท คิง พาวเวอร์ มหานคร)
โครงการ The Ritz-Carlton Residences at King Power Mahanakorn นั้นเป็นโครงการคอนโดสุดหรูและ Luxury บนอาคาร Mixed-Use อย่าง อาคารมหานคร อาคารที่มีการดีไซน์สุดล้ำทั้งภายนอกและภายใจ โดดเด่นที่สุดบนทำเลช่องนนทรี ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ด้านหน้า BTS ช่องนนทรีเลย! ในส่วนของการออกแบบภายในนั้นก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าด้านนอกเลย เพราะภายในนั้นเน้นที่การตกแต่งในดีไซน์สุดหรูจากมัณฑนากรชื่อดังก้องโลกอย่าง David Collins
ตัวโครงการนั้นเป็นคอนโด High Rise ตั้งอยู่บนอาคารมหานครพื้นที่กว่า 9-1-49.67 ไร่ โดยโครงการนี้จะตั้งอยู่ตั้งแต่ชั้นที่ 23 – 73 ซึ่งก็จะมีการแบ่งเป็นอีก 2 โซน ได้แก่ โซนเรสซิเดนซ์ ตั้งแต่ชั้น 23 – 53 และโซนสกายเรสซิเดนซ์ ตั้งแต่ชั้น 57 – 73
ยูนิตที่พักอาศัยนั้นจะมีความเป็นส่วนตัวมาก ๆ เพราะมียูนิตที่พักอาศัยเพียง 209 ยูนิตเท่านั้น ภายในมีขายห้องแบบ 2 ห้องนอนไปจนถึง 5 ห้องนอน โดยแบ่งเป็นแบบ Duplex และ Symplex
ห้องแบบเพนท์เฮ้าส์ของโครงการนี้จะมี 4-5 ห้องนอน โดยจะมีขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 260 ตร.ม.เท่านั้นค่ะ
สนใจซื้อหรือดูห้อง Penthouse ใน The Ritz-Carlton Residences at King Power Mahanakorn
คลิกเลย!
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรบ้างคะกับข้อมูลเกี่ยวกับ Penthouse ที่เราได้นำมาฝากให้ทุกคนได้อ่านกัน จะเห็นได้เลยว่าห้องประเภทนี้มีความแตกต่างและความโดดเด่นจากยูนิตอื่น ๆ ในโครงการนั่นเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความกว้าง จำนวนยูนิต ความเป็นส่วนตัว และสิทธิพิเศษอื่น ๆ หรือหากจะเปรียบเทียบง่าย ๆ ยูนิตแบบนี้ก็เหมือนอยู่บ้านเดี่ยวแต่จะเป็นบ้านเดี่ยวลอยฟ้านั่นเองค่ะ
แม้ว่าห้องประเภทนี้จะมีราคาที่แพงมากก็ตาม แต่ก็แลกมากับความพิเศษภายในยูนิตที่คุ้มค่าและเหมาะกับผู้ที่อยากได้พื้นที่กว้าง ๆ ในเมือง ดังนั้น เราเชื่อว่าข้อมูลส่วนนี้จะมีประโยชน์กับหลาย ๆ ท่านแน่นอนค่ะ หวังว่าจะชอบบทความนี้กันนะคะ
หากว่ามีข้อเสนอแนะเรื่อง บ้าน คอนโด ที่อยากรู้หรืออยากให้เราเขียน สามารถคอมเมนต์กันมาได้ตรงด้านล่างเลยค่ะ หรือถ้าสนใจอสังหา ฯ ดี ๆ ราคาเป็นมิตรแถมยังตรงปก สามารถติดต่อ PropertyScout ได้ที่ปุ่มด้านล่างเลยค่า เจอกันใหม่นะคะ บ๊ายบายยยย
สนใจหา Penthouse สวย ๆ เพิ่มเติม
คลิกตามด้านล่างนี้ได้เลย
สนใจหาอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ กับ PropertyScout
คลิกตามด้านล่างนี้ได้เลย