‘หาทุนรีโนเวทบ้าน’ เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่ ทำได้ง่ายกว่าที่คิด!

Author
by
At
เมษายน 28, 2023
'หาทุนรีโนเวทบ้าน' เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่ ทำได้ง่ายกว่าที่คิด! 'หาทุนรีโนเวทบ้าน' เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่ ทำได้ง่ายกว่าที่คิด!

ทิปส์ลับสำหรับคนอยากได้บ้านใหม่แต่ไม่อยากซื้อ

เซย์ไฮสวัสดีค่ะ เมื่อเราซื้อบ้านสักหลัง เราก็อยากอยู่ไปนาน ๆ กับบ้านที่เรารักหลังนี้ แต่ทว่าเมื่อถึงระยะเวลานึงแล้ว สภาพบ้านก็จะเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลาทั้งภายนอกและภายในบ้าน ทำให้เราต้องปรับปรุงรีโนเวทบ้านใหม่ ซึ่งปัญหาที่ตามมานั้นก็คงไม่พ้นเรื่องเงินแน่นอนค่ะ เพราะการรีโนเวทในแต่ละครั้งนั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก ทำให้หลาย ๆ คนไม่อยากจะรีโนเวทบ้านเท่าไหร่นัก

แต่รู้หรือไม่ว่า การหาทุนรีโนเวทบ้าน นั้นทำได้ไม่ยากเลยค่ะ เนื่องจากเราสามารถขอกู้เงินจากธนาคารได้ค่ะ แต่เวลาจะขอสินเชื่อนั้น การกะจำนวนเงินที่ต้องการก็เป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ หากขอกู้มาแล้วไม่พอ การขอกู้อีกรอบอาจจะเป็นเรื่องที่ยากต่างไปตามเงื่อนไขของธนาคาร ดังนั้น PropertyScout จะพาคุณมารู้จักสินเชื่อและการรีโนเวทบ้านค่ะ

'หาทุนรีโนเวทบ้าน' เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่ ทำได้ง่ายกว่าที่คิด!
'หาทุนรีโนเวทบ้าน' เปลี่ยนบ้านให้เหมือนใหม่ ทำได้ง่ายกว่าที่คิด!

ประเภทของการกู้สินเชื่อ

สินเชื่อบ้านแลกเงิน

สินเชื่อบ้านแลกเงิน
สินเชื่อบ้านแลกเงิน

สินเชื่อบ้านแลกเงิน หรือ Home for Cash จัดเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน (Secure Loans) ประเภทที่นำบ้านหรือที่อยู่อาศัยมาเป็นหลักค้ำประกันกับธนาคาร จะมีลักษณะคล้ายกับการกู้ซื้อบ้าน แต่จะกลับกัน แทนที่เราจะเอาเงินไปแลกบ้าน รอบนี้เราจะเอาบ้านไปแลกเงิน หรือเอาบ้านกลับไปเป็นของธนาคารอีกครั้งนั่นเองค่ะ

เมื่อผ่านขั้นตอนนี้ไปแล้ว เราก็จะทำการผ่อนบ้านกลับมาอีกรอบนึงค่ะ ซึ่งจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าการจ่ายสินเชื่อบ้าน นี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำไมสิ่งนี้ถึงถูกเรียกว่า สินเชื่อบ้านแลกเงิน

ส่วนใหญ่นั้นผู้กู้จะต้องนำที่อยู่อาศัยที่ปลอดภาระหนี้มาจำนองเป็นหลักประกัน ซึ่งที่อยู่อาศัยนั้นจะเป็นอะไรก็ได้ทั้ง บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม ห้องชุด คอนโด และอาคารพาณิชย์ บางธนาคารอาจจะนับรวมที่ดินเปล่าด้วยค่ะ

อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านแลกเงินส่วนใหญ่จะเป็นแบบลอยตัว (Floating Rate) และจะคิดเป็นแบบดอกเบี้ยลดต้นลดดอก มีระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดอยู่ที่ 30 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร หากผิดนัดชำระ บ้านจะถูกยึดและนำไปขายทอดตลาดแทนค่ะ

อัตราของแต่ละธนาคาร

ธนาคารอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นระยะเวลา
ธนชาตทหารไทย5.73%3 ปีแรก
ไทยพาณิชย์6.870%นานสุด 30 ปี
กรุงไทย6.38%นานสุด 30 ปี
ออมสินเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนดนานสุด 30 ปี
กรุงศรี5.15%3 ปีแรก
กสิกรไทย8.85%3 ปีแรก
ทิสโก้3.75%ปีแรก
ยูโอบี5.89%3 ปีแรก

*รายละเอียดนี้เป็นเพียงรายละเอียดคร่าว ๆ หากสนใจเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ของธนาคารนั้นได้เลยค่ะ

สินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน

สินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน
สินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน

สินเชื่อเพื่อสร้างบ้าน อีกหนึ่งสินเชื่อที่ทำมาเพื่อคนอยากสร้างบ้านเองโดยเฉพาะค่ะ แต่ก็ใช้กับผู้ที่ต้องการรีโนเวทบ้านได้เช่นกัน การยื่นจะเป็นการยื่นเพื่อขอสินเชื่อบ้านเหมือนกัน จะต่างกันก็อยู่ที่หลักฐานในการยื่นค่ะ ส่วนเพิ่มเติมที่ต้องมีนั่นก็คือ แบบก่อสร้างที่ต้องได้รับการอนุญาต เสียก่อน ซึ่งแบบก่อสร้างนี้จะต้องผ่านการวางแผนหรือปรึกษากับผู้รับเหมาให้เรียบร้อยก่อนนะคะ และเมื่อทุกอย่างผ่าน ทางธนาคารจึงจะพิจารณาอนุมัติอีกครั้ง

ความต่างของสินเชื่อบ้านและสินเชื่อบ้านแลกเงิน

จริง ๆ แล้วสินเชื่อบ้าน และ สินเชื่อบ้านแลกเงิน นั้น มีความต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ เพราะว่าใช้กันคนละวัตถุประสงต์ เป็นสินเชื่อคนละประเภทค่ะ แต่ว่าสิ่งที่คล้ายคลึงกันจะเป็นเรื่องของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการกู้ ทำให้เกิดความสับสนได้ ดังนั้น เราจะมาแยกความต่างให้ดูกันค่ะ

สินเชื่อบ้านสินเชื่อบ้านแลกเงิน
วัตถุประสงค์ได้สิทธิในการอยู่อาศัยได้เงินสดมาหมุนเวียน
รูปแบบสัญญามีกำหนดระยะเวลา (Term Loan)มีกำหนดระยะเวลา (Term Loan)
กู้แบบหมุนเวียน (Revolving Loan)*
หลักประกัน- ที่อยู่อาศัยของผู้กู้
- สัญญาจำนอง
- ที่อยู่อาศัยของผู้กู้
- สัญญาจำนอง
พิจารณาวงเงิน- ราคาซื้อขายจริง
- วงเงินดาวน์
- ราคาประเมินทรัพย์ (หลักประกัน)
- รายได้
- ความสามารถในการชำระหนี้
- วงเงินนสูงสุดตามเงื่อนไขธนาคาร*
- จำนวนเงินกู้ที่ต้องการ
- ราคาประเมินทรัพย์ (หลักประกัน)
- รายได้
- ความสามารถในการชำระหนี้
- กำหนดวงเงิน 50,000 - 10 ลบ.*
ระยะเวลากู้20-50 ปีประมาณ 15-20 ปี
คิดดอกเบี้ย- ลดต้นลดดอก
- อัตราดอกเบี้ยถูกกว่า
- ลดต้นลดดอก
- อัตราดอกเบี้ยแพงกว่า
กรณีผิดชำระหนี้- ธนาคารอาจบอกเลิกสัญญา
- ถ้าไม่ทันอาจบังคับยึดทรัพย์
- นำมาจำนองและขายทอดตลาด
- ดำเนินการทางกฏหมาย
- ธนาคารอาจบอกเลิกสัญญา
- ถ้าไม่ทันอาจบังคับยึดทรัพย์
- นำมาจำนองและขายทอดตลาด
- ดำเนินการทางกฏหมาย

เงื่อนไขหลักของสินเชื่อ

ในการยื่นขอสินเชื่อนั้น แต่ละธนาคารจะมีเงื่อนไขต่างกันออกไปค่ะ แต่ว่าเงื่อนไขที่เรานำมาให้ดูนั้นจะเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่เราสามารถเตรียมตัวได้ก่อนนั่นเองค่ะ

เงื่อนไขหลักของสินเชื่อ
เงื่อนไขหลักของสินเชื่อ
  • เงื่อนไขบุคคล
    • มีสัญชาติไทย
    • อายุเกิน 20 ปีแต่ไม่เกิน 65-70 ปี
  • เงื่อนไขเรื่องบ้าน
    • บ้านหรือที่ดินต้องเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ยื่นขอสินเชื่อเท่านั้น
  • เงื่อนไขเรื่องเงิน
    • ไม่เคยเป็นลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันการเงิน
    • มีรายได้เกิน 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
  • เงื่อนไขอายุงาน
    • มีอายุการทำงานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน

หลักฐานที่ต้องเตรียม

มาต่อที่ส่วนของเอกสารกันเลยนะคะ จริง ๆ แล้วเอกสารนั้นก็จะเหมือนเงื่อนไขค่ะ จะมีต่างกันออกไปตามแต่ละธนาคาร แต่ว่าก็จะยังมีเอกสารบางอย่างที่ยังยืนพื้นอยู่นะคะ

หลักฐานที่ต้องเตรียม
หลักฐานที่ต้องเตรียม

สำเนาเอกสารกรรมสิทธิ์

อย่างแรกคือ สำเนาเอกสารกรรมสิทธิ์ ค่ะ จะเป็นเอกสารที่แสดงสิทธิควาเป็นเจ้าของที่ดิน หรือโฉนด เพื่อเป็นหลักฐานให้ธนาคารรับทราบว่า ผู้ที่ยื่นเอกสารนั้นจะเป็นผู้ที่จะขอสินเชื่อ อีกทั้งยังเป็นเอกสารที่แสดงความเป็นเจ้าของของอสังหา ฯ ที่ต้องการรีโนเวทตามกฏหมายค่ะ

ใบอนุญาตก่อสร้าง

อย่างต่อมาจะเป็น ใบอนุญาตก่อสร้าง เพื่อใช้ตรวจสอบเรื่องก่อสร้างค่ะ ซึ่งสิ่งที่ตรวจสอบนั้นจะมีตั้งแต่แบบที่ต้องการสร้าง มาตรฐานที่กำหนดมีครบไหม ไปจนถึงเรื่องของโครงสร้าง ความแข็งแรง ระยะร่น การเว้นระยะห่าง ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น อีกทั้งการมีใบอนุญาตก่อสร้างนั้นจะไม่ถูกระงับการก่อสร้างระหว่างทาง

แบบก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตและรายการวัสดุ

แบบก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตและรายการวัสดุ จะใช้เพื่อแจกแจงการก่อสร้างและใบเอกสารรายการวัสดุ อีกทั้งยังใช้ดูงบประมาณและวงเงินที่ต้องการ

สำเนาสัญญาว่าจ้าง

สำเนาสัญญาว่าจ้าง สิ่งนี้จะต้องใช้ยื่นเพราะว่าจะได้ดูว่างบประมาณที่กู้ไปนั้นพอต่อการว่าจ้างและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ไหม

สัญญาซื้อ-ขายที่ดิน(กรณีกู้ซื้อที่ดิน)

สำหรับคนกู้ซื้อที่มีที่ดินที่ต้องการต่อเติมและสิ่งปลูกสร้าง สัญญาซื้อ-ขายที่ดิน(กรณีกู้ซื้อที่ดิน) จะต้องนำสัญญาซื้อ-ขาย มาแสดงเพื่อยืนยันว่าผู้กู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน

ขั้นตอนในการขอสินเชื่อ

ขั้นตอนในการขอสินเชื่อ
ขั้นตอนในการขอสินเชื่อ

ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขการให้สินเชื่อ

หลักเกณฑ์และเงื่อนไขจะต่างกันออกไปตามแต่ละธนาคาร เช่น อาจจะมีที่ดินเป็นหลักประกัน มีกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำ-สูงสุดไว้ อีกทั้งยังควรจำกัดระยะเวลาเงินกู้สูงสุดไว้ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยหลายแบบค่ะ

สร้างประวัติทางการเงินที่ดี

ควรสร้างประวัติการเงินที่ดีให้ เพราะว่าจะทำให้ธนาคารสร้างความมั่นใจได้ว่า หากปล่อยให้กู้แล้วจะได้รับชำระหนี้คืน ส่วนใหญ่นั้นผู้ที่มีหลักเงินเดือนจะได้การรับรองมากกว่า แต่กับผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน ก็สามารถเปิดปัญชีและโชว์สลิปเงินเดือนเพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติได้ค่ะ

เตรียมเอกสารให้พร้อม

เอกสารเราก็ต้องเตรียมให้พร้อม สำหรับทั้งผู้กู้และผู้ที่กู้ร่วม กรณีที่ต้องการกู้ประเภทนี้ อีกทั้งยังมีเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมตามที่ธนาคารขอค่ะ

  • เอกสารส่วนตัว
    • ใบคำขอสินเชื่อ
    • สำเนาบัตรปชช
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • เอกสารทางการเงิน
    • หนังสือรับรองเงินเดือน
    • เอกสารการเดินบัญชี
  • เอกสารที่อยู่อาศัย
    • โฉนดที่ดิน
    • หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด

ยื่นเรื่องขอสินเชื่อและประเมินราคาหลักทรัพย์

เมื่อยื่นเอกสารหมดแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ประเมินราคาหลักทรัพย์ติดต่อเข้ามาเพื่อขอถ่ายรูปและสำรวจที่อยู่อาศัยของเรา ซึ่งเราจะต้องชำระเงินในส่วนของ ค่าธรรมเนียมการสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน ที่มีราคาขั้นต่ำ 3,000-4,000 บาท ซึ่งจะต่างกันไปตามข้อกำหนดของธนาคาร

รอผลการอนุมัติสินเชื่อ ทำสัญญาและจดจำนอง

หลักจากนั้น จะต้องรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมเพื่อแจ้งว่าสินเชื่อนั้นสามารถขอผ่านได้หรือไม่ และได้รับวงเงินเท่าไหร่ ขั้นตอนการพิจารณาจะใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน และเมื่อเราได้รับการอนุมัติ จะต้องไปเซ็นสัญญาเงินกู้ พร้อมทำเรื่องจดจำนอง ณ สำนักงานที่ดินซึ่งอยู่อาศัยค่ะ

ผ่อนชำระเงินกู้จนครบ

เมื่อผ่านทุกขั้นตอนแล้ว เราก็จะทำเรื่องผ่อนชำระเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย ส่งให้แก่ธนาคารตามสัญญา และเมื่อชำระหนี้หมดจนครบถ้วน จะต้องไปยังสำงานที่ดินอีกครั้วเพื่อจดทะเบียนไถ่ถอนที่อยู่อาศัย


สรุปส่งท้ายเรื่องหาทุนรีโนเวทบ้าน

เป็นอย่างไรบ้างคะ จะเห็นได้เลยว่าการหาทุนรีโนเวทบ้านนั้นทำได้ง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่ใช้สินเชื่อบ้านแลกเงินเท่านั้นค่ะ ปกตินั้นจะมีการใช้สินเชื่อเพื่อยื่นซื้อบ้าน แต่สินเชื่อบ้านแลกเงินนั้นจะเป็นสินเชื่อที่เอาบ้านไปหมุนเป็นเงิน จากนั้นก็เอาเงินไปเป็นทุนรีโนเวทบ้านค่ะ นอกจากนั้นยังต้องเตรียมเอกสารอื่น ๆ ทั้งเอกสารที่เกี่ยวกับตัวเอง การเงิน การก่อสร้า และอื่น ๆ อีกมากมายตามเงื่อนไขของธนาคารค่ะ

การยื่นขอสินเชื่อรีโนเวทนั้นสามารถขอวงเงินสูงสุดได้ถึง 100% โดยที่จำนวนเงินจะต่างกันออกไปตามเงื่อนไขของธนาคาร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราควรดูเรื่องงบประมาณให้ดี เพราะการรีโนเวทนั้นอาจจะทำให้งบประมาณบานปลาย อีกทั้งยังกินเวลาอีกด้วยค่ะ เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในอนาคต

จบไปแล้วกับเรื่องของการหาทุนรีโนเวทบ้าน ถ้าใครมีเรื่องอะไรน่าสนใจ สามารถพิมพ์มาบอกได้เลยนะคะ เดี๋ยวเราจะไปหาข้อมูลมาให้ค่า เจอกันกับ PropertyScout ใหม่บล็อคหน้านะคะ บะบายยย


สนใจดูอสังหาสวย ๆ แบบน่าอยู่
คลิกด้านล่างเลย!