ชวนอัปเดท ‘ดอกเบี้ยบ้าน’ กู้ซื้อบ้านยังไงให้เหมาะกับราคา!
อัปเดตดอกเบี้ยประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566
สวัสดีค่า ไม่ได้เจอกันนานเลย ช่วงนี้อากาศเป็นยังไง ดูแลตัวเองกันบ้างไหมคะ? วันนี้เรามีอะไรดี ๆ มาเสนอค่า ใครที่อยากจะซื้ออสังหา ฯ หรือเล็ง ๆ ไว้อยู่ ก็ต้องเจอกับปัญหากวนใจหลายอย่างที่ทำให้เราไม่ได้ซื้อสักที ตั้งแต่งบประมาณ ทำเล ชนิดของอสังหา ฯ วัตถุประสงค์ รวมไปถึงเรื่องของดอกเบี้ยที่พักอาศัยด้วย
ดังนั้น PropertyScout จะพาทุกคนมารู้จักกับดอกเบี้ยบ้านกันนะคะ ว่าสำคัญอย่างไร จำเป็นไหม จะกลายเป็นภาระให้รึเปล่า เพราะฉะนั้น จะเป็นยังไง อย่ารอช้า มาอ่านกันเลย!
ดอกเบี้ยบ้าน คืออะไร?
ดอกเบี้ยบ้าน หรือ Home Loan คือ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับที่อยู่อาศัย สำหรับการซื้อเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโดมิเนียมก็ตาม ซึ่งการที่เราจะคิดคำนวณดอกเบี้ยบ้านที่เราต้องชำระหลังจากที่ทำธุรกรรมการซื้อขายนั้น เราจะต้องใช้วิธีคำนวณอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating Rate) ที่มักอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำที่ธนาคารคิดจากลูกค้าค่ะ
ซึ่งการคิดดอกเบี้ยแบบลอยตัวนั้นจะอิงจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำทั้ง 3 ชนิด ได้แก่
- Minimum Loan Rate (MLR) : อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบกำหนดระยะเวลา
- Minimum Overdraft Rate (MOR) : อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี
- Minimum Retail Rate (MRR) : อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหมายของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แต่ละปีตรงนี้เลยค่ะ!
ยกตัวอย่างเช่น
ธนาคาร ABC ให้ผู้กู้นั้นกู้เงินซื้อบ้านในวงเงิน 5,000,000 บาท ด้วยอัตราดอกเบี้ย MLR – 1% ในช่วงแรกและ MLR + 1% ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป แสดงว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราดอกเบี้ย MLR ที่ธนาคารกำหนดในแต่ละปี ถ้าปีแรก MLR = 6.25% ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 5.25% (MLR – 1%) ถ้าปีที่สาม MLR = 7.5% ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 8.5% (MLR + 1%) เป็นต้น
โดยทั่วไป อัตราดอกเบี้ย MRR จะสูงกว่า MOR และ อัตราดอกเบี้ย MOR จะสูงกว่า MLR ซึ่งส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย MRR และ MLR เป็นตัวสะท้อนระดับความเสี่ยงที่ต่างกันระหว่างลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย ซึ่งสามารถศึกษาอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง MRR, MOR, และ MRR ได้จากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย
*ขอบคุณตัวอย่างจาก: หนังสือ 365+1 คำศัพท์การเงินและการลงทุน
ธนาคารที่สามารถกู้ได้
อย่างที่เรารู้กันว่าในประเทศไทยนั้นมีธนาคารที่มากมายและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นธนาคารในไทยหรือธนาคารต่างชาติที่เข้ามาตั้งก็ตาม ทำให้ในประเทศไทยนั้นจึงได้มีการแข่งขันกันเรื่องอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงเรื่องของการโปรโมทธนาคารต่าง ๆ มากมายเลยค่ะ แต่ว่า ไม่ใช่ทุกธนาคารที่จะสามารถทำธุรกรรมเรื่องการกู้บ้านได้นะคะ และถึงทำได้ ในแต่ละธนาคารก็จะมีเวลาในการกู้ไม่เท่ากัน
เพื่อไม่ให้เป็นการสับสน เราได้ลิสต์ธนาคารทั้งหมดและทำเป็นตารางมาให้แล้วค่ะ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย!
รายชื่อธนาคาร | กู้ได้หรือไม่ |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) | ✅ |
ธนาคารออมสิน (GSB) | ✅ |
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) (SCBT) | ✅ |
ธนาคารกรุงเทพ (BBL) | ✅ |
ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) | ✅ |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) | ✅ |
ธนาคารทิสโก้ | ✅ |
ธนาคารกรุงไทย (KTB) | ✅ |
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) | ✅ |
ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) | ✅ |
ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ | ✅ |
ธนาคารยูโอบี (UOB) | ✅ |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB) | ✅ |
ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) | ✅ |
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) | ✅ |
ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย (TCRB) | ✅ |
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) | ✅ |
จะเห็นได้เลยว่าธนาคารในไทยส่วนใหญ่นั้นสามารถทำเรื่องขอธุรกรรมการกู้บ้านได้ทั้งหมดเลยค่ะ แต่ต้องเป็นธนาคารที่มีสาขาหรือเป็นของไทยเท่านั้นนะคะ ซึ่งตรงนี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่เราจะสามารถเช็กได้ว่าธนาคารที่เรามีอยู่นั้นสามารถทำเรื่องกู้บ้านได้หรือไม่ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการเรื่องภาระค่าใช้จ่ายรวมไปถึงดอกเบี้ยในอนาคตด้วย
อัตราดอกเบี้ยแต่ละธนาคาร
มาถึงในส่วนสำคัญอย่าง ดอกเบี้ยบ้าน หรืออัปเดตตารางดอกเบี้ยนั่นเองค่ะ โดยที่เราจะสามารถดูได้ว่าธนาคารไหนให้สินเชื่อบ้านพร้อมอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่ แต่ละธนาคารมีเงื่อนไขอะไรบ้าง เพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้ออสังหา ฯ ในปัจจุบันนั้นสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายและวางแผนการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
ตารางอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ
รายชื่อธนาคาร | MOR | MRR | MLR |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (GHB) | 6.900 | 6.500 | 6.650 |
ธนาคารออมสิน (GSB) | 6.900 | 6.745 | 6.995 |
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) (SCBT) | 8.0000 | 7.5300 | - |
ธนาคารกรุงเทพ (BBL) | 7.5500 | 7.1000 | 7.3000 |
ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) | 7.8500 | 7.7250 | 7.8300 |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) | 7.5750 | 7.2800 | 7.4000 |
ธนาคารทิสโก้ | 8.1000 | 8.1000 | 8.1500 |
ธนาคารกรุงไทย (KTB) | 7.5200 | 7.0500 | 7.5700 |
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) | 7.5750 | 7.0500 | 7.3000 |
ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) | 7.5900 | 7.2700 | 7.3000 |
ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ | 7.0000 | 6.5000 | 6.7500 |
ธนาคารยูโอบี (UOB) | 8.3500 | 8.2500 | 8.8000 |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB) | 8.7500 | 8.3500 | 9.2500 |
ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) | 7.6000 | 6.8000 | - |
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) | 8.1750 | 8.1750 | 8.2000 |
ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย (TCRB) | 9.0800 | 9.5000 | 10.1500 |
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) | 8.4500 | 8.0750 | 8.8000 |
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
*นับเป็นหน่วยร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดนะคะ
การที่เราจะคำนวณได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี ถูกหรือแพงนั้น โดยปกติแล้วจะเน้นดูที่ตัว MLR และเงื่อนไขระยะเวลาค่ะ แต่เอาจริง ๆ แล้ว ไม่เพียงแค่ดู 3 ตัวนี้เท่านั้น แต่ต้องดูเงื่อนไขของธนาคารแต่ละธนาคารด้วยว่าเขาให้เงื่อนไขในการกู้แบบ MLR-1 กี่ปี (โดยปกตินั้นจะอยู่ที่ราว ๆ 3 ปี) ยกเว้นทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่จะมีเรทดอกเบี้ยคงที่อยู่ถึง 5 ปีด้วยกันค่ะ
ตารางดอกเบี้ยกรณีสูงสุดที่มีได้
รายชื่อธนาคาร | สูงสุด* |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) | *Refer to contract |
ธนาคารออมสิน (GSB) | *Refer to contract |
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) (SCBT) | 15.0000 |
ธนาคารกรุงเทพ (BBL) | 18.0000 |
ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) | 25.0000 |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) | 25.0000 |
ธนาคารทิสโก้ | 28.0000 |
ธนาคารกรุงไทย (KTB) | 17.5700 |
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) | 28.0000 |
ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) | 20.9700 |
ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ | 12.0000 |
ธนาคารยูโอบี (UOB) | 15.1000 |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB) | 18.6000 |
ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) | 15.0000 |
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) | 28.0000 |
ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย (TCRB) | 35.0000 |
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) | 16.4500 |
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
*นับเป็นหน่วยร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดนะคะ
อัตราดอกเบี้ยในหน้านี้จะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่คิดเป็นเรทสูงที่สุดของแต่ละธนาคารเมื่อเกิดเหตุการณ์การเบี้ยวนัด ชำระเงินไม่ตรงนัด หรือเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาค่ะ ซึ่งการผิดชำระนัดกับทางธนาคารนั้น แต่ละธนาคารจะมีการเตือนและการขึ้นเปอร์เซ็นต์ดอกเบี้ยนั้นจะอยู่ในเงื่อนไขนั่นเองค่ะ
ตารางดอกเบี้ยกรณีผิดนัดชำระ
รายชื่อธนาคาร | ผิดนัด* |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) | บวกเพิ่ม 3% ต่อปี |
ธนาคารออมสิน (GSB) | * |
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) (SCBT) | 15.0000 |
ธนาคารกรุงเทพ (BBL) | 22.3000 |
ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) | 25.0000 |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) | 25.0000 |
ธนาคารทิสโก้ | 28.0000 |
ธนาคารกรุงไทย (KTB) | 28.0000 |
ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) | 30.9300 |
ธนาคารกสิกรไทย (Kbank) | 23.9700 |
ธนาคารเมกะ สากลพาณิชย์ | 15.0000 |
ธนาคารยูโอบี (UOB) | 18.1000 |
ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMB) | 23.0000 |
ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ (ไทย) | 15.0000 |
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) | 28.0000 |
ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย (TCRB) | 35.0000 |
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) | 19.4500 |
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
*นับเป็นหน่วยร้อยละหรือเปอร์เซ็นต์ทั้งหมดนะคะ
ในส่วนของหน้านี้จะเป็นส่วนดอกเบี้ยที่เกิดจากการผิดชำระนัดโดยเฉพาะค่ะ ซึ่งหลาย ๆ โครงการนั้นก็จะมีการปรับราคาให้เท่ากับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ต้องเสียตามตารางที่สองด้านบนค่ะ แต่จุดแตกต่างบางส่วนก็คือ ส่วนผิดชำระในหน้านี้จะไม่ได้แปลว่าจะต้องเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงสุดที่ต้องชำระค่ะ เพราะจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารที่เราทำการกู้นั่นเองค่ะ
ข้อมูลตามตารางด้านบนนี้อ้างอิงมาจากเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 ส.ค. พ.ศ.2566 เวลา 17.11 น. ค่ะ หากต้องการดูเพิ่มเติม สามารถคลิกเว็บไซต์นี้ได้เลยค่ะ
เมื่อคลิกเข้าไปจะเจอกับหน้าเว็บไซต์แบบนี้ สามารถคลิกไปที่ปุ่ม อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ จากนั้นใส่วันที่ต้องการแล้วกด Go ได้เลยค่ะ (โดยปกติแล้ว ในเว็บไซต์จะใส่วันที่แบบอัปเดทให้อยู่แล้วค่ะ ยกเว้นวันหยุด)
เว็บไซต์นี้จะอัปเดทข้อมูลเป็นรายวันค่ะ โดยจะมีการอัปทุก ๆ เวลา 12.00 น. หรือเวลาเที่ยงวันของทุกวันที่ทำงาน ยกเว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์นะคะ
ตัวอย่างการคำนวณ
การที่เรายังได้แนบตัวอย่างการคำนวณเล็ก ๆ มาให้ด้วยนะคะว่าเราจะสามารถคำนวณอัตราดอกเบี้ยได้อย่างไรบ้าง แม้จะเป็นวิธีที่ดูจะต้องใช้เครื่องคิดเลข แต่เชื่อเถอะค่ะ เมื่อคิดออกมาแล้ว มันก็ทำให้สามารถคาดเดาราคาที่ต้องจ่ายตลอดระยะเวลาที่กู้ได้แน่นอนค่ะ
โจทย์
ธนาคาร PS ปล่อยกู้ให้กับผู้กู้เป็นวงเงินราว ๆ 5,000,000 บาท โดยจะมีระยะเวลาให้ราว ๆ 20 ปีตามสัญญาและเงื่อนไข ด้วยอัตราดอกเบี้ย MLR –1% ในช่วงปีแรก และ MLR +1% ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป ซึ่งเรท MRR จะกำหนดไว้ที่ร้อยละ 6.5000 ซึ่งจะกำหนดไว้ดังนี้
แสดงว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายจะเปลี่ยนแปลงไปตามอัตราดอกเบี้ย MLR ที่ธนาคารกำหนดในแต่ละปี
- ถ้าช่วงปีแรก MLR = 6.50% ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 5.50% (MLR – 1%)
- ถ้าปีที่สามเป็นต้นไป MLR = 6.50% ก็ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% (MLR + 1%)
MRR (1st year-3rd year) | MRR (After 3 years) | MRR/MLR** |
5.5000 | 7.5000 | 6.5000 |
*ซึ่งการคำนวณตรงนี้ ก็จะนำไปบวกลบและคำนวณกับวงเงินกู้และระยะปีด้วยนะคะ
ซึ่งเรทดอกเบี้ยนั้น ก็สามารถนำมาคำนวณต่อเป็นตัวเลขดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้นเป็นจำนวนเงินได้ค่ะ โดยจะใช้สูตรดังนี้
(เงินต้นคงเหลือ*อัตรดอกเบี้ยต่อปี*จำนวนวันในงวด)/จำนวนวันใน 1 ปี = ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น |
- คำนวณดอกเบี้ยช่วง 1-3 ปีแรก
- วิธีทำ
- (5,000,000*5.5%*30)/365 = 22,602.74 บ.
*ดอกเบี้ยต่อปีจะอยู่ที่ 22,602.74 บ.
- (5,000,000*5.5%*30)/365 = 22,602.74 บ.
- วิธีทำ
- คำนวณดอกเบี้ยช่วง 3 ปีหลัง
- วิธีทำ
- (5,000,000*7.5%*30)/365 = 30,821.92 บ.
*ดอกเบี้ยต่อปีจะอยู่ที่ 30,821.92 บ.
- (5,000,000*7.5%*30)/365 = 30,821.92 บ.
- วิธีทำ
*นี่ยังไม่นับหากมีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นมากรณีที่จ่ายช้าหรือมีปัญหาเพิ่มเติมด้วยนะคะ
สรุปส่งท้าย
จากข้อมูลด้านบนจะเห็นได้เลยว่า การที่เราสามารถคำนวณและรู้อัตราต่าง ๆ ในการซื้อบ้านนั้น จะทำให้การทำธุรกรรมซื้อขายอสังหา ฯ นั้นง่ายขึ้นมากเลย โดยเฉพาะเรื่องของดอกเบี้ยบ้าน เนื่องจากจะทำให้เราสามารถกะเกณฑ์ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องชำระหนี้ในแต่ละเดือนแต่ละปีได้นั่นเองค่ะ นอกจากนี้ในการคิดอัตราดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้านจะมีราคาและเงื่อนไขต่างกันออกไปตามแต่ละธนาคาร โดยที่ธนาคารกลางหรือธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้อัปเดทและกำหนดกลไกราคาแต่ละไตรมาสนะคะ
*แต่ทั้งนี้ เราควรดูด้วยว่างบประมาณที่เรามีนั้น พอกับการซื้อโครงการนั้น ๆ ไหม รวมถึงต้องคำนวณด้วยว่า เมื่อเราซื้อแล้ว เราจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกไหม ทั้งเรื่องค่าน้ำค่าไฟ ค่าอุปโภค ไปจนถึงค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ หรือว่าง่าย ๆ ก็คือ หากซื้อแล้วจะไม่เป็นภาระหรือหนี้สินในชีวิตหรือไม่
เป็นอย่างไรบ้างคะกับบล็อกนี้ เราหวังว่าบล็อกนี้จะสร้างประโยชน์ให้ไม่มากก็น้อยนะ ถ้ามีอะไรอยากรู้ อยากให้เราเขียน หรืออยากเพิ่มเติมอะไร สามารถคอมเมนต์มาได้เลยค่ะ เจอกันใหม่บล็อกหน้านะคะ สวัสดีค่า 👋
ถ้าใครที่ยังลังเล ไม่รู้จะหาคอนโดแบบไหน ทำเลอะไร และราคาเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม สามารถทักมาปรึกษา PropertyScout ได้เลยนะคะ เรามีผู้เชี่ยวชาญมากความสามารถที่จะช่วยให้เราหาที่พักที่ถูกใจได้นั่นเอง
หากท่านสนใจอสังหาริมทรัพย์ ราคาไม่แพง หรือต้องการคำปรึกษา
สามารถติดต่อ PropertyScout ได้เลย