ไกด์แนะนำแหล่งอาศัย ไลฟ์สไตล์ย่านพญาไท

Author
by
At
July 20, 2022
ไกด์แนะนำแหล่งอาศัย ไลฟ์สไตล์ย่านพญาไท ไกด์แนะนำแหล่งอาศัย ไลฟ์สไตล์ย่านพญาไท

       “พญาไท” เมืองชั้นในของกรุงเทพมหานคร (Inner Urban Area) ที่มีดีไม่แพ้ย่าน CBD

ใจกลางเมืองแม้แต่น้อย หลายท่านคงทราบดีว่าย่านพญาไทเป็นย่านที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของระบบขนส่งมวลชน การเดินทาง การคมนาคมย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้

         แม้ว่าย่านพญาไทจะไม่ถูกจัดว่าเป็นพื้นที่ศูนย์กลางด้านธุรกิจ แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่รถไฟฟ้า BTS และ Airport Rail Link พาดผ่านพื้นที่ เราจะพบเห็นโครงการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทที่ถูกสร้างขึ้นมาภายในย่านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตึกสูง อาคารสำนักงานต่างๆ คอนโดมิเนียมหลากหลายระดับหลากหลายแบรนด์ ห้างสรรพสินค้า สถาบันกวดวิชาชื่อดัง ตลอดจนโครงการ Mixed-Use ที่เตรียมเปิดให้บริการในอนาคต

         ปัจจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนระบบสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันทำให้ย่านพญาไทเกิดความหลากหลายของผู้คน การอยู่อาศัย และไลฟ์สไตล์ภายในพื้นที่ และส่งเสริมให้ย่านเมืองชั้นในแห่งนี้คึกคัก มีชีวิตชีวา ไม่น้อยกว่าย่านอื่นๆ ของกรุงเทพมหานคร

โครงสร้างพื้นที่ 

         พญาไทเป็น 1 ใน 50 เขตของกรุงเทพมหานคร ถูกจัดอยู่ในผังเมืองสีน้ำตาล หรือเขตที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก บริเวณพญาไทมีอาณาเขตติดกับเขตบางซื่อ และเขตจตุจักรทางฝั่งทิศเหนือ, ฝั่งตะวันออกติดกับเขตดินแดง, ทิศใต้ติดกับเขตราชเทวี และทิศตะวันตกติดกับเขตดุสิต ซึ่งใช้เส้นทางรถไฟสายเหนือเป็นเส้นแบ่งเขต

         ภายในเขตพญาไทนั่นถูกแบ่งย่อยออกเป็น 2 แขวง ได้แก่ แขวงสามเสนใน และแขวง

พญาไท โดยการแบ่งแขวงที่ว่ามานั้นใช้ถนนพหลโยธินเป็นเส้นแบ่ง

         ข้อได้เปรียบด้านโครงสร้างของทำเลที่ตั้งของย่านพญาไท ส่งผลให้ย่านนี้เป็นหนึ่งในย่านที่เป็นศูนย์รวมคอนโดมิเนียมมากมายหลายตึก ตึกออฟฟิศ แหล่งงานสำหรับพนักงานราชการ โรงเรียนและสถาบันกวดวิชาของเหล่านักเรียน ตลอดจนศูนย์รวมแหล่งงานขนาดใหญ่สำหรับด่านหน้าอย่างบุคลากรทางการแพทย์ของไทย

ไลฟ์สไตล์

  • อาคารวรรณสรณ์

         ไลฟ์สไตล์แรกขอเริ่มที่ไลฟ์สไตล์ด้านการศึกษาที่เป็นศูนย์รวมเหล่านักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ไปจนถึงระดับม.ปลายที่ตั้งใจกวดวิชาให้ได้คณะตามที่หวังไว้ ศูนย์รวมสถาบันกวดวิชาที่เกริ่นมานี้มีชื่ออาคารว่า “วรรณสรณ์” ซึ่งมีสถาบันกวดวิชาภายในตึกมากกว่า 20 แห่ง

อาคารวรรณสรณ์
อาคารวรรณสรณ์ - ที่มา: เว็บไซต์วรรณสรณ์
  • King Power Complex

         นอกจากสถาบันกวดวิชาสำหรับเด็กนักเรียน และผู้ปกครองแล้ว ศูนย์การค้าภายในย่านเองก็โดดเด่น มีชื่อเสียงไม่แพ้วรรณสรณ์เช่นกัน ตัวอย่างศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงไปไกลถึงระดับโลก คือ คิง พาวเวอร์ คอมเพล็กซ์ (King Power Complex) หรือที่รู้จักกันในนาม “คิง พาวเวอร์ รางน้ำ” ซึ่งตัวอาคารตั้งอยู่ที่ถนนรางน้ำ ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ประกอบกับมีโซนให้ท่องเที่ยวมากมายตั้งแต่ดิวตี้ ฟรี มอลล์ สถานที่ช้อปอันเลื่องชื่อ, คราวน์ เอเทรียมและคาเฟ่ คราวน์

เอเทรียม, คิง เพาเวอร์ เลาจน์ และดิ แอทลาส คลับ, ศูนย์อาหารไทยเทสต์ฮับ ไปจนถึง โรงละครอักษรา และโรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติได้เป็นจำนวนมาก

King Power Complex
King Power Complex ที่มา: King Power
  • Park Origin Complex Phayathai

         เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วคุณจะรับรู้ได้ว่าในย่านพญาไทมีไลฟ์สไตล์ที่คึกคัก หลากหลาย และมีอาคาร ตึกสูงที่สวยงาม ต่อจากนี้จะกล่าวถึงโครงการขนาดใหญ่ขึ้นไปอีกที่จะส่งเสริมทำให้ย่านพญาไทน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

         เริ่มที่โครงการ Mixed-Use ขนาดใหญ่จากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน) ชื่อว่า “Park Origin Complex Phayathai” ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม  จุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง คือ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพญาไทเพียง 300 เมตรเท่านั้น ภายในโครงการประกอบด้วย คอนโดมิเนียม, ออฟฟิศให้เช่า, โรงแรม และคอมมูนิตี้มอล์ เพื่อรองรับการใช้งานในบริเวณนั้น

Park Origin Complex Phayathai
Park Origin Complex Phayathai ที่มา: Park Luxury
  • BTS Phayathai Complex

         โครงการ Mixed-Use ต่อมาชื่อว่า “BTS Phayathai Complex” นับเป็นโครงการใหญ่สุดอลังการ แค่โลเคชั่นก็กินขาดแล้ว เพราะที่ตั้งโครงการนั้นเรียกว่าติดกับ BTS สถานีพญาไทเลยทีเดียว สำหรับโครงการคอมเพล็กซ์นี้มีทั้งหมด 51 ชั้น ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมเช่นกัน, โรงแรมในแบรนด์ Eastin Grand และออฟฟิศให้เช่าพื้นที่ประมาณ 14,500 ตารางเมตร

BTS Phayathai Complex
BTS Phayathai Complex ที่มา - Terra Bangkok
  • The Unicorn Phayathai

         ตัวอย่างโครงการ Mixed-Use สุดท้ายมีชื่อเรียกว่า “โครงการเดอะยูนิคอร์น พญาไท (The Unicorn Phayathai)” ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่พัฒนาโดย บริษัท ยูซิตี้ จำกัด (มหาชน) มูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 9,500 ล้านบาท ภายในโครงการประกอบด้วยโรงแรม, ศูนย์การค้า, ออฟฟิศ เกรด A และ Premium Residence  ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2565

The Unicorn Phayathai
The Unicorn Phayathai - ที่มา The Unicorn Phayathai

ด้วยไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของย่านพญาไทที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้เราจะสังเกตเห็นกลุ่มคนมากหน้าหลายตา หลากหลายเชื้อชาติ หลากหลายอาชีพมาใช้ชีวิตในแต่ละวันไม่เว้นวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพนักงานออฟฟิศ, กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนกลุ่มผู้ปกครอง, กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์, กลุ่มนักธุรกิจและผู้ประกอบการ รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็เดินทางมาไม่น้อย

การคมนาคม

         ย่านพญาไทเป็นย่านที่เต็มไปด้วยถนนสายสำคัญหลากหลายสายตัดผ่านซึ่งกันและกัน ทำให้ผู้คนในพื้นที่เอง หรือคนที่ต้องการเดินทางเข้ามายังพญาไทนั้นสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก แล้วแต่จะเลือกว่าชื่นชอบถนนเส้นไหนเป็นพิเศษ โดยถนนหลักๆ ได้แก่ ถนนพญาไท ที่เชื่อมต่อไปยังย่านจตุจักรได้ นอกเหนือจากถนนพญาไทแล้ว ถนนพระราม 4 และถนนศรีอยุธยาเองก็สามารถพาคุณไปยังโซนอื่นๆ ของกรุงเทพฯ ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนศรีอยุธยา ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากบริเวณราชปรารภ เขตราชเทวี ตัดกับถนนพญาไท บริเวณสี่แยกพญาไท และทอดยาวไปสิ้นสุดในเขตพระนคร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหอสมุดแห่งชาติเลยทีเดียว

         หากใครต้องการความสะดวกรวดเร็วก็สามารถเลือกใช้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวอ่อนได้เลย เดินทางสะดวกเพียง 2 สถานีจากสยามเท่านั้น นอกจากรถไฟฟ้า BTS การเดินทางมายังพญาไทด้วยทางลอยฟ้ายังมีอีกเส้นทางนึงที่สามารถเดินทางไปสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิได้อย่างสะดวก โดยการใช้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (Airport Rail Link) ที่สำคัญสถานีพญาไทเป็นสถานีต้นสาย โดยมีสถานีสนามบินสุวรรณภูมิเป็นสถานีสุดสาย ใช้ระยะเวลาการเดินทางเพียง 25 นาที ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ

         ทราบหรือไม่ว่านอกจากปัจจุบันจะสามารถเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้อย่างสะดวกแล้ว ในอนาคตหากต้องการเดินทางไปยังสนามบินดอนเมืองจากย่านพญาไท ก็สามารถเป็นไปได้เช่นกันผ่านการใช้รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-รังสิต) นั่นเอง

สิ่งอำนวยความสะดวก /ความต้องการรายวัน  

         ในตอนต้นได้กล่าวถึงสถาบันกวดวิชาชื่อดังอย่างตึกวรรณสรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ภายในย่านพญาไทยังมีสถานศึกษาอีกมากมายเพื่อรองรับการเรียนของบุตรหลาน ไล่ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับอุดมศึกษา อาทิ โรงเรียนอนุบาลสามเสน, โรงเรียนรัศมีนานาชาติ และวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น

         นอกจากสถานศึกษาแล้วที่ขาดไม่ได้เลย คือ สถานพยาบาล โดยพญาไทได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) เพราะเต็มไปด้วยสถานพยาบาล และโรงพยาบาลชื่อดังเป็นจำนวนมาก เช่น โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน, โรงพยาบาลพญาไท 2 และ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เป็นต้น นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะมาถึงภายในย่านพญาไทเตรียมพร้อมที่จะมีศูนย์กลางทางด้านการแพทย์มาตราฐานระดับสากล เพื่อความสบายใจ และความอุ่นใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยบริเวณนี้ โดยศูนย์กลางทางการแพทย์ที่ว่ามานั้น ได้แก่ โรงพยาบาล Rajavej International ตั้งอยู่ติดกับโครงการสุดหรูอย่าง Park Origin Phayathai เพื่อรองรับกลุ่มผู้อยู่อาศัยหลักกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มหมอซึ่งมีรายได้ค่อนข้างสูง

         สิ่งจำเป็นอีกอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ อาคารสำนักงาน หรือออฟฟิศคงเป็นคำที่คนนึกถึงเป็นลำดับต้นๆ โดยภายในย่านพญาไทมีออฟฟิศเกรดที่เพิ่งเปิดให้บริการหมาดๆ ได้แก่ อาคารสปริง ทาวเวอร์ (Spring Tower) อาคารสำนักงานให้เช่าจำนวนทั้งหมด 27 ชั้น พื้นที่ปล่อยเช่าโดยรวมเกือบๆ 3 หมื่นตารางเมตร สามารถจอดรถได้มากกว่า 300 คัน และที่สำคัญอาคารสปริง ทาวเวอร์ นี้ได้รับรางวัล  LEED Gold Certification หรือ การรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวของ LEED ที่ย่อมาจาก Leadership in Energy & Environmental Design (ความเป็นผู้นำด้านการออกแบบที่อนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม) นั่นเอง

Spring Tower
Spring Tower

สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาย่านพญาไท

       เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วจะเห็นได้ว่าย่านพญาไทมีลักษณะ และจุดขายที่โดดเด่นไม่แพ้ย่านไหนๆ ในกรุงเทพมหานครเลย โดยจะขอสรุป 5 จุดขายที่พญาไทเหนือกว่าย่านอื่นๆ

1.      เมืองชั้นในของกรุงเทพฯ ที่เป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคม และการเดินทางที่สะดวกสบาย ห่างจากแหล่งช้อปปิ้งที่สยามเพียง 2 สถานีรถไฟฟ้า อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง

2.      ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้งด้านการเรียนกวดวิชา ไปจนถึงโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนหลายพันล้านบาท

3.      ศูนย์กลางด้านการแพทย์ (Medical Hub) ที่รวบรวมโรงพยาบาลชั้นนำมาตรฐานระดับนานาชาติ

4.      แหล่งรวมอาคารสำนักงานเกรด A

5.      ความหลากหลายของสังคม วัฒนธรรม และอาชีพของผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในย่าน ส่งผลให้เกิดความคึกคัก และมีสิถีชีวิตที่สนุกสนาน ไม่ซ้ำย่านอื่นๆ