แชร์ 10 ทิปส์ ‘คลายความร้อน’ ภายในบ้านและคอนโด

ความร้อนภายในบ้านและคอนโด หนึ่งในปัญหาชวนปวดหัวของใครหลายคน นอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวแล้วก็ยังส่งผลทำให้ค่าไฟขึ้นสูงอีกด้วย จากการที่ต้องเปิดแอร์ช่วยลดวามร้อน หากต้องการประหยัดค่าไฟลงอีก PropertyScout คิดว่าคงจะดีหากนำวิธีลดอุณหภูมิ คลายความร้อนภายในบ้านเหล่านี้ไปลองปรับใช้กันดูดีกว่าครับ บอกได้เลยว่าทำแล้วได้ผลดีจนต้องบอกต่อกันเลยทีเดียว

เลือกใช้โทนสีอ่อน หรือโทนสีสว่างภายในห้อง

อย่างแรกเลยก็คือเรื่องของสีที่ใช้ภายในบ้านหรือห้องคอนโดก็ตาม หากเลือกใช้โทนสีอ่อน สีที่ดูสว่าง หรือว่าโทนสีพาสเทลต่าง ๆ ก็จะไม่เก็บกักความร้อนเท่ากับสีเข้ม นอกจากนั้นโทนสีอ่อนยังมีผลต่อบรรยากาศในการพักอาศัย และอารมณ์ของเรา เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตา

ฟิล์มกรองแสงกระจกหน้าต่าง

การติดฟิล์มกรองแสงบนกระจกหน้าต่างอีกหนึ่งวิธียอดนิยม สามารถช่วยลดทั้งความร้อนภายบ้านและค่าไฟ เมื่อลงทุนติดฟิล์มไปแล้วก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน กว่าเนื้อฟิล์มจะหมดอายุก็นานหลายปีกันเลยทีเดียว แถมังเป็นการตกแต่งบรรยากาศของบ้านไปในตัวอีกด้วยครับ

สำหรับฟิล์มกรองแสงที่นิยมใช้ติดกระจกหน้าต่างในบ้าน ในคอนโด ก็จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้

• ฟิล์มกรองแสงแบบย้อมสี - มีคุณสมบัติลดแสงที่ผ่านเข้ามาในกระจก แต่ไม่ได้ลดความร้อนครับ เมื่อใช้งานไปสักระยะ ฟิล์มอาจจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงอาจทำให้กระจกดูไม่สวยได้

• ฟิล์มกรองแสงลดความร้อน - เป็นฟิล์มติดกระจกที่เคลือบด้วยเซรามิคหรือเคลือบโลหะ สำหรับลดความร้อนโดยเฉพาะ โดยอาศัยโลหะที่เคลือบบนฟิล์มในการกรองหรือสะท้อนความร้อน มีคุณภาพดีกว่าชนิดแรก แต่มีราคาที่สูงกว่า

ผ้าม่านกันแสง

ผ้าม่านแบบที่มีคุณสมบัติกันแสงได้เป็นอย่างดีจะเป็นผ้าม่านที่ทอด้วยสีดำตรงกลางด้านใน หรือบางรุ่นก็จะเคลือบโฟมไว้ด้านหลัง (ด้านที่ติดอยู่กับกระจกหน้าต่าง) ทำให้มีประสิทธิภาพในการดูดความร้อน แสงแดดผ่านเข้ามาได้น้อยมาก ๆ โดยสามารถลดแสงแดดที่เข้ามาสู่ตัวบ้านหรือห้องคอนโดของเราได้เกือบ 100% และช่วยลดอุณหภูมิลงไปได้ 3-4 องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว นอกจากนั้นยังป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังได้ด้วยครับ

เปลี่ยนพรมในห้อง

ควรหลีกเลี่ยงการใช้พรมขนสัตว์แล้วเปลี่ยนไปใช้พรมแบบเสนใยธรรมชาติแทน สำหรับบ้านในเมืองหนาวที่นิยมใช้พรมปูพื้นหรือแขวนผนังห้องที่ทำจากขนสัตว์ปูพื้น ก็เนื่องจากพรมชนิดนี้สามารถกักเก็บความร้อนได้ดี ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับตัวบ้านและผู้ใช้งานครับ ซึ่งสำหรับเมืองร้อนอย่างประเทศไทยก็จะไม่เหมาะนั่นเอง ดังนั้น หากต้องการวางพรมตกแต่งบรรยากาศในห้องควรเลือกชนิดที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติแทนครับ อย่างเช่น เส้นใยฝ้าย (Cotton) เพราะว่ามีคุณสมบัติเก็บกักความชื้นในอากาศ ทำให้ห้องไม่ร้อนขึ้น เป็นการตกแต่งห้องให้สวยขึ้นแถมยังช่วยลดความร้อนได้อีกทาง

เปลี่ยนหลอดไฟเป็นแบบ LED

ด้วยเหตุที่ว่าหลอดไฟชนิด LED เป็นหลอดไฟที่ปล่อยความร้อนออกมาน้อย ใช้งานได้นานกว่า แถมยังใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดแบบธรรมดา โดยใช้พลังงานน้อยกว่าถึง 90% และไม่ทำให้รู้สึกร้อนเหมือนกับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่มีจุดกำเนิดแสงมาจากการทำความร้อน แถมยังลดการใช้ไฟฟ้าได้เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว ซึงในปัจจุบันนี้ก็มีให้เลือกมากมายตามการใช้งาน สว่างมาก สว่างน้อย มีทั้งสีขาว ขาวนวล ขาวอมเหลือง และสีอื่น ๆ ครับ

สนใจอ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก

จัดวางของภายในห้องให้อากาศไหลเวียนได้ดี

อย่างเช่น การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้ขวางทางลมธรรมชาติ หรือเปิดหน้าต่างเพื่อรับอากาศในช่วงหัวค่ำ เพราะปกติกลางวันอากาศจะร้อนมาก แต่อุณหภูมิจะเริ่มเย็นลงในช่วงค่ำ อีกทั้งยังเริ่มมีลมเย็น ๆ ดังนั้น จึงควรเปิดหน้าต่าง ให้ลมพัดเข้ามาในห้องเพื่อเป็นการถ่ายเทความร้อนที่สะสมมาตลอดทั้งวัน ความร้อนภายในห้องก็จะลดลงจนอยู่ได้สบาย แต่ก่อนจะเปิดหน้าต่างรับลมก็อย่าลืมตรวจเช็คค่าฝุ่น PM 2.5 ก่อนนะครับ

สนใจอ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก

ติดพัดลมเพดาน

สามารถติดพัดลมเพดานไว้ในทุกห้องหรือเลือกเฉพาะห้องที่ใช้งานบ่อย ๆ ก็ได้ แต่มีจุดสำคัญอยู่ที่การเลือกขนาดพัดลมและการหมุนของใบพัด โดยขนาดของพัดลมเพดานที่เลือกมาใช้ควรมีความสมดุลกับพื้นที่ภายในห้องครับ ซึ่งพัดลมเพดานแต่ละรุ่นก็จะระบุข้อมูลมาอยู่แล้วว่าใช้ได้กับพื้นที่ขนาดเท่าไหร่ อีกสิ่งสำคัญก็คือ 'ลักษณะการหมุนของใบพัด' โดยในช่วงฤดูร้อนใบพัดควรทำงานในลักษณะดูดอาการขึ้นสู่เพดาน ในขณะที่ฤดูอื่นใบพัดควรกดอากาศร้อนลงสู่พื้นด้านล่าง แล้วกระจายตัวออกไปครับ

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สร้างความร้อนควรติดตั้งไว้นอกตัวบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการระบายความร้อนออกมาอย่างเช่นเตาอบในครัว หรือเตาแก๊ส หากเป็นไปได้ควรติดตั้งไว้บริเวณนอกบ้าน หรือสร้างห้องครัวด้านนอก แต่สำหรับคนที่อยู่คอนโดมีพื้นที่จำกัด อาจจะใช้วิธีเปิดประตูระเบียงห้องให้โล่งขณะทำอาหาร เพื่อเป็นการระบายความร้อนออกไป และหากเป็นไปได้ก็ควรติดตั้งเครื่องซักผ้ากับเครื่องอบผ้าไว้ด้านนอก เพราะวิธีนี้ไม่ได้ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยลดค่าไฟได้ด้วยครับ

DIY แหล่งกำเนิดความเย็นด้วยตัวเอง

ในวันที่อากาศร้อนมากกว่าปกติ ลองนำขวดพลาสติกไปใส่น้ำ จากนั้นนำไปแช่ช่องฟรีซและรอจนกระทั่งน้ำในขวดพลาสติกแข็งตัว เสร็จแล้วให้นำขวดพลาสติกที่ว่านี้มาวางขั้นตรงกลางระหว่างตัวเรากับพัดลม เพียงแค่นี้ลมจากพัดลมก็จะพัดไอเย็นจากขวดพลาสติกมาที่ตัวเรา เป็นอีกวิธีคลายร้อนแบบง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องเปิดแอร์ครับ

ปลูกต้นไม้รอบบ้าน เพิ่มความร่มรื่น

สำหรับการปลูกต้นไม้เพื่อช่วยลดความร้อนนั้น เป็นวิธีที่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์แบบทันทีทันใด แต่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีแบบถาวรในระยะยาวครับ เพราะว่าการปลูกต้นไม้รอบ ๆ ตัวบ้านทำให้ได้ร่มเงาบนผนัง ช่วยกันแสงแดดที่ส่องลงมา ทางที่ดีต้นไม้ที่นำมาปลูกควรเป็นต้นไม้ที่มีการเจริญเติบโตประมาณ 1-2 ฟุตต่อปี และเราก็จะต้องให้การดูแลอย่าสม่ำเสมอโดยให้น้ำกับอาหารตามความเหมาะสม แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับการปลูกต้นไม้ใหญ่ก็คือ อย่าปลูกไว้ใกล้ตัวบ้านเกินไปครับ เพราะในอนาคตรากต้นไม้อาจจะสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านเราได้นั่นเอง

วิธีใช้ต้นไม้ลดความร้อนนอกเหนือจากนี้ก็คือ ปลูกในกระถางแล้วนำมาวางไว้ตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน หรือคอนโด หรือจะเลือกปลูกต้นไม้ไว้ขอบหน้าต่างนอกบ้าน หรือบริวณระเบียงก็สามารถช่วยลดอุณหภูมิได้เหมือนกันครับ

ส่วนคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลต้นไม้ ลองใช้พวกไม้เลื้อยก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ เพราะว่าไม่ต้องเฝ้าดูแลมากมาย โตไว มีความแข็งแรงทนทานต่อทุกสภาพอากาศที่แปรปรวน นำมาปลูกไว้ที่ผนังด้านนอกของบ้านก็สามารถช่วยลดความร้อนได้ดีทีเดียว

สรุปส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับทิปส์คลายความร้อนภายในบ้านและคอนโด จะเห็นได้ว่าการเปิดแอร์ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านของเรา โดย 10 วิธีที่ PropertyScout ได้แนะนำไปนั้น ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กันได้เลย ช่วยลดทั้งอุณหภูมิ และลดการใช้พลังงาน อย่าลืมนำไปแชร์ให้กับเพื่อนบ้านที่น่ารักด้วยนะครับ

มองหาคอนโดคุณภาพ หรืออสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่น PropertyScout มีให้เลือกกว่า 250,000 ที่ทั่วประเทศไทย คลิกตามด้านล่างได้เลย

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก