ถังดักไขมันมีความสำคัญอย่างไร ทำไมทุกบ้านต้องมี? พร้อมทิปส์ในการเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน!
หากพูดถึงระบบต่าง ๆ ในบ้าน เชื่อว่าเจ้าของบ้านส่วนใหญ่จะคิดถึง ระบบน้ำ ระบบไฟ ซึ่งเป็นระบบสาธารณูปโภคหลักภายในบ้านที่ขาดไม่ได้ และหากพูดถึงระบบการจัดการขยะหรือของเสียในบ้าน ถังดักไขมัน ก็ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญอีกชิ้นหนึ่งเช่นกัน แต่เชื่อว่าบางคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก แต่จริง ๆ แล้วถังดักไขมันเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์มาก ในบทความนี้ PropertyScout จะพาไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ ถังดักไขมัน ว่ามีความสำคัญอย่างไร? ทำไมทุกบ้านต้องมี? พร้อมทิปส์ในการเลือกแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานให้ด้วย
ถังดักไขมัน คืออะไร?
ถังดักไขมัน หรือ บ่อดักไขมัน คือ อุปกรณ์ที่ช่วยในการดักจับไขมันจากท่อน้ำทิ้งภายในบ้านทั้งหมด เพื่อแยกส่วนไขมันออกจากน้ำก่อนทำการปล่อยน้ำทิ้งลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ มีหน้าที่และประโยชน์ดังนี้
- ดักกรองเศษอาหารที่มาจากซิงค์ล้างจาน ทำให้ท่อไม่อุดตัน
- ลดกลิ่นที่เกิดจากการหมักหมมของเศษอาหารในท่อน้ำ
- ปรับคุณภาพน้ำทิ้งทำให้น้ำทิ้งที่ปล่อยออกมามีคุณภาพดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- ง่ายต่อการดูแลรักษาเพียงแค่นำขยะหรือเศษอาหารในตะแกรงออกไปทิ้ง
จำเป็นหรือไม่ที่ทุกบ้านต้องมีถังดักไขมัน?
คำตอบคือ จำเป็น เพราะน้ำเสียจากครัวจะปนเปื้อนไขมัน ซึ่งเป็นน้ำเสียอินทรีย์ที่บำบัดได้ยาก เนื่องจากการย่อยสลายไขมันโดยธรรมชาติต้องใช้เวลานานมาก จึงไม่ควรปล่อยทิ้งออกไปโดยไม่ผ่านถังดักไขมัน
หลายคนอาจคิดว่าถังดักไขมันต้องเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกบ้านควรมีไว้ใช้ หรือต่อท่อออกมาฝังดินนอกบ้านก็ได้ เพราะนอกจากถังดักไขมันจะช่วยดักกรองเศษอาหาร ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากสิ่งหมักหมมแล้ว ยังเป็นการปรับคุณภาพน้ำทิ้งก่อนออกสู่ท่อน้ำทิ้งสาธารณะ ทำให้น้ำทิ้งที่ปล่อยออกมามีคุณภาพดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมด้วย
ระบบการทำงานของถังดักไขมัน
การทำงานของ ถังดักไขมัน มีหลักการง่าย ๆ คือ การใช้วิธีแทนที่ของน้ำ คือน้ำที่อยู่ในถังจะถูกแทนที่จากน้ำที่ทยอยไลเข้าไปและต้องให้น้ำในถังมีเวลามากพอที่แยกไขมันกับน้ำดี ออกจากกัน จึงจำเป็นต้องมีแผงกั้นตรงกลาง ระหว่างถังเพื่อลดความเร็วของน้ำที่ไหลผ่าน เข้ามา ไม่ให้กระทบกับการแยกตัวของน้ำ กับไขมันให้มากที่สุด นอกจากนั้นถังดักไขมันยิ่งมีขนาดใหญ่ยิ่งมีประสิทธิภาพมาก
ถังดักไขมันแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ
- ตะแกรงดักเศษอาหาร จะช่วยกรองเศษอาหาร และสิ่งสกปรกต่าง ๆ เป็นการลด ความสกปรกในขั้นแรก
- ส่วนแยกไขมันของน้ำ น้ำที่ผ่านการกรองเศษอาหารจะไหลผ่านไปอีกช่องหนึ่งของถัง ด้วยการออกแบบที่เหมาะสมตามทิศทางการไหลของน้ำจะมีประสิทธิภาพในการแยกและสกัด ไขมันที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ
- ท่ออ่อนระบายไขมัน เมื่อไขมันถูกแยกจากน้ำที่สะสมอยู่ภายในตัวถัง ในระยะเวลา 7-10 วัน ก็สามารถระบายไขมันออกทางท่ออ่อนลงถุง เพื่อนำไปทิ้งต่อไป
เมื่อน้ำทิ้งจากที่พักอาศัย ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการของถังดักไขมัน ก็จะกลายเป็นน้ำที่ได้มาตรฐาน สามารถระบายลงแหล่งน้ำสาธารณะได้โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษแต่อย่างใดนั่นเอง
ทิปส์ในการเลือกถังดักไขมันให้เหมาะกับการใช้งาน
สำหรับการเลือกถังดักไขมันให้เหมาะกับการใช้งาน ให้พิจารณาจากประเภทและขนาดของถัง
ประเภทของถังดักไขมัน
ถังดักไขมันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือแบบตั้งบนพื้นและแบบฝังดิน สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่ในการใช้งาน ดังนี้
ถังดักไขมันแบบตั้งพื้น (บนดิน)
เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด เช่น ห้องพัก คอนโด หรือทาวน์โฮม เนื่องจากขนาดถังไม่กินพื้นที่มาก วิธีติดตั้งไม่ยุ่งยากเพียงแค่ต่อท่อระบายน้ำทิ้งจากอ่างล้างจานเข้ากับถังดักไขมัน แล้วติดตั้งท่อระบายน้ำของถังดักไขมันลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ ถังดักไขมันบนพื้นจะใช้งานสะดวกและดูแลได้ง่ายกว่า อาจจะติดตั้งใต้ซิงค์ล้างในครัวหรือต่อท่อออกมาติดตั้งข้างนอกก็ได้
ถังดักไขมันแบบฝังดิน
เหมาะสำหรับบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่การใช้งานกว้างขวาง เพียงพอในการฝังถังดักไขมันไว้ใต้ดินบริเวณนอกตัวบ้าน เพราะขนาดถังค่อนข้างใหญ่ วิธีนี้ค่อนข้างยุ่งยากเพราะต้องขุดหลุมฝังถัง และต้องออกแบบระบบต่อท่อน้ำทิ้งกับซิ้งค์ในครัวและการวางแนวท่อออกไปนอกบ้านด้วย ทำให้การดูแลรักษายาก แต่จะดูเรียบร้อยกว่าแบบวางบนพื้น
ขนาดถังดักไขมันที่เหมาะสมกับบ้าน
นอกจากการเลือกประเภทของถังดักไขมันแล้ว การเลือกขนาดให้เหมาะสมกับลักษณะของการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีผลต่อการดูแลและบำรุงรักษา หากเลือกใช้ขนาดไม่เหมาะสมกับการใช้งาน อาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ ซึ่งถังดักไขมันมีให้เลือกใช้งานหลากหลายขนาดด้วยกัน ตั้งแต่ 15-140 ลิตร โดยมีเกณฑ์พิจารณาในการเลือกขนาดดังนี้
- สมาชิกภายในบ้าน 1-5 คน ควรเลือกใช้ขนาด 15 ลิตร
- สมาชิกภายในบ้าน 6-10 คน ควรเลือกใช้ขนาด 30 ลิตร
วิธีตรวจสอบและดูแลรักษาถังดักไขมัน
วิธีตรวจสอบ
- ดูสภาพฝาบ่อว่ามีการชำรุด แตก บิ่นไหม
- ทดลองเปิด ปิดฝาบ่อ
- สภาพภายในบ่อต้องอยู่ในสภาพปกติ
- แผ่นตะแกรงดักไขมันต้องไม่หลุด หรือแตก
- ตรวจสอบว่ามีตะแกรงดักเศษอาหารหรือไม่
- เปิดน้ำให้เข้าถัง ทดสอบการรั่วซึม ลองเปิดน้ำทิ้งไว้แล้วมาดูที่บ่อดักไขมัน ถ้าน้ำไหลลงมาที่บ่อให้เปิดทิ้งไว้จนเต็ม ดูว่าน้ำล้นออกที่รูน้ำล้นไหม ถ้าไหลออกให้ปิดน้ำแล้วสังเกตว่าน้ำลดลงหรือไม่ หากน้ำลดลงเรื่อย ๆ แสดงว่าถังเกิดการรั่วหรือแตก
วิธีการดูแลรักษา
- สำหรับวิธีการดูแลรักษาทำได้ไม่ยาก โดยตักเศษอาหารในตะแกรงไปทิ้งเป็นประจำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ควรตักไขมันที่ลอยอยู่เหนือน้ำออกทุกสัปดาห์ และล้างถังดักไขมันปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีพร้อมกับช่วยลดกลิ่นเหม็นจากการเน่าเสียสะสมไปด้วยในตัว
สรุปส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลเรื่องถังดักไขมันพร้อมทิปส์ต่าง ๆ ที่ PropertyScout ได้แนะนำกันไป จะเห็นได้ว่า ถังดักไขมัน ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์เฉพาะภายในครัวเรือนเท่านั้น การดักไขมันที่ถูกต้องยังส่งผลแก่สาธารณะอีกด้วย หลังจากอ่านบทความนี้แล้วทุกคนก็สามารถตรวจสอบได้อย่างมั่นใจได้แล้วว่าถังดักไขมันที่โครงการติดตั้งมาให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ หากต้องหาซื้อเองก็สามารถนำคำแนะนำไปปรับใช้กันได้อีกด้วย ซึ่งก็ควรเลือกให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในบ้านและเหมาะกับพื้นที่การติดตั้ง เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมและลดความยุ่งยากในการดูแลรักษา
อ่านบทความ รีวิวโครงการ อัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog
มีคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ เช่า ซื้อ ขาย
คลิกตามด้านล่างได้เลย