รวมวิธีทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ยิ่งใช้นานก็ยิ่งต้องดูแล นอกจากนั้นหากเราทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจำนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยให้เราประหยัดไฟและลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย ดังนั้นมาลองดูวิธีทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ PropertyScout นำมาฝากในบทความนี้กัน รับรองว่าเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน

พัดลมตั้งพื้น

มาเริ่มต้นกันที่วิธีทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐาน ๆ อย่างพัดลมตั้งพื้นกัน ซึ่งต้องขอบอกว่าไม่ยากอย่างที่คิด โดยขั้นแรกให้ถอดตะแกรงด้านหน้าออกมาก่อน จากนั้นหมุนเกลียวของตัวล็อกที่อยู่ตรงกลางใบพัดออกเพื่อให้เราสามารถถอดใบพัดได้ แล้วจึงนำใบพัด ตัวล็อก และตะแกรงทั้งด้านหน้าและด้านหลังไปล้างน้ำจนสะอาด จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้ง แล้วนำไปตากไว้สักพักให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับเข้าที่ เพียงแค่นี้ก็ได้พัดลมสะอาดเหมือนใหม่แล้ว

พัดลมดูดอากาศ

รู้วิธีทำความสะอาดพัดลมตั้งพื้นกันแล้ว จะปล่อยปะละเลยพัดลมดูดอากาศไปก็ไม่ได้ เพราะเป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญที่ช่วยดูดอากาศเสียออกไปเวลาเราใช้งานห้องน้ำ หากปล่อยให้สกปรกจนมีฝุ่นจับหนา ก็จะลดประสิทธิภาพในการทำงานลง

หากเป็นพัดลมดูดอากาศแบบติดผนัง ให้ถอดปลั๊กแล้วแกะใบพัดออกจากฐาน นำผ้าแห้งเช็ดฝุ่นออกจากใบพัด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำยาล้างจานอีกครั้ง เช็ดแบบนี้กับฐานพัดลมด้วย จากนั้นก็รอจนแห้งสนิท แล้วหมุนใบพัดใส่เข้าไปเหมือนเดิมได้เลย

ส่วนพัดลมดูดอากาศแบบติดเพดาน ให้ใช้นิ้วสอดเข้าไปด้านข้างเพื่อแกะฝาครอบออกมา แล้วก็อย่าลืมดึงลวดยึดด้านข้างออกด้วย จากนั้นก็นำฝาครอบมาดูดฝุ่นและล้างทำความสะอาดและนำไปตากไว้ให้แห้ง ระหว่างรอก็ให้เปลี่ยนไปดูดฝุ่นที่มอเตอร์บนเพดาน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วก็ประกอบใส่เข้าไปดังเดิม กดลวดยึดด้านข้างไว้เหมือนตอนแรก ดันฝาครอบให้ปิดแน่นสนิท แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

แอร์

ทุกวันนี้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักมากขึ้นเพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อากาศมีอุณหภูมิร้อนแสนร้อน ดังนั้นก็อย่าลืมดูแลด้วยการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศในบ้านของเราสักหน่อยดีกว่า ซึ่งทำแล้วก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็น และยังช่วยประหยัดไฟขึ้นอีกแน่นอน

วิธีทำความสะอาดแอร์ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย เพียงเริ่มต้นด้วยการสับคัตเอ้าท์ของเครื่องปรับอากาศลงก่อน จากนั้นให้เปิดฝาครอบด้านหน้าแล้วปลดล็อกที่ยึดตะแกรงออก หลังจากนั้นให้ถอดตะแกรงกรองฝุ่นออกมาล้างด้วยน้ำสบู่จนสะอาด โดยใช้แปรงขนนุ่มขัดเบา ๆ เสร็จแล้วให้ใช้น้ำเปล่าล้างออกอีกครั้ง ส่วนใครมีเครื่องเป่าลมก็สามารถใช้ลมเย็นเป่าได้ แต่ถ้าไม่มีก็นำไปตากแดดให้แห้งได้ เมื่อแห้งสนิทแล้วก็ค่อยนำมาประกอบเข้าที่ให้เหมือนเดิม สำหรับการทำความสะอาดแอร์นั้นเราสามารถทำได้เป็นประจำทุกเดือนหรือบ่อยเท่าที่ต้องการ แต่ก็อย่าลืมให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาล้างเครื่องปรับอากาศทุก ๆ 3 เดือนด้วยจะดีที่สุด

หน้าจอทีวีและคอมพิวเตอร์

หน้าจอทีวีและหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ต้องคอยทำความสะอาดด้วยเหมือนกัน เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ฝุ่นเกาะบ่อยและเป็นคราบได้ง่าย โดยถ้าหากเป็นจอแอลซีดีให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ด ถ้าหากเป็นจอพลาสมาให้ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดเบา ๆ และถ้าหากบริเวณไหนเข้าไม่ถึง ให้ใช้สำลีพันก้านเช็ดออกแทน สำหรับตัวปลั๊กให้ใช้ผ้าแห้งสนิทเช็ดเท่านั้น ส่วนสายไฟหลังตู้ให้ใช้ไม้ปัดฝุ่นปัดออก ก่อนเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดผสมน้ำเจือจาง เสร็จแล้วให้เช็ดตามด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง ทั้งนี้อย่าลืมหมั่นปัดฝุ่นและดูแลบริเวณโต๊ะและรอบข้างอย่างสม่ำเสมอด้วย

เตารีด

ทำความสะอาดคราบไหม้บนเตารีดได้ด้วยวิธีก็ง่าย ๆ ซึ่งก็คือการใช้แปรงสีฟัน และยาสีฟัน ของใช้ใกล้ตัวที่นอกจากจะใช้ทำความสะอาดฟันได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย เพียงแค่บีบเนื้อยาสีฟันลงบนผ้าหนา ๆ แล้วนำไปถูวนเบา ๆ บนรอยไหม้หน้าเตารีด ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าคราบจะหลุดออกหมด จากนั้นก็นำผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ด พร้อมนำคอตตอนบัดมาปัดคราบออกจากรูระบายน้ำอีกที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย และพร้อมใช้งานได้อย่างสบายใจ

สำหรับใครที่ไม่อยากใช้ยาสีฟัน ก็ยังสามารถใช้ เทียนไข, น้ำส้มสายชู+หนังสือพิมพ์, เบกกิ้งโซดา, น้ำยาล้างเล็บ, เกลือ, และใบตอง มากำจัดคราบไหม้บนเตารีดได้เช่นกัน

ตู้เย็น

เชื่อว่าหลายคนเมื่อใช้งานตู้เย็นไปสักพักคงประสบกับปัญหากลิ่นตู้เย็นมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ แถมยังมีคราบสกปรกเพราะอาหารสดที่นำมาแช่ไว้อีกด้วย แต่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลไป เพราะวิธีทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็นนั้นสามารถทำได้โดยไม่ยาก

เพียงแค่นำอาหารที่แช่อยู่ออกมาให้หมดก่อน หลังจากนั้นถอดชั้นวางของต่าง ๆ ออกมาล้างให้สะอาดแล้วนำไปตากให้แห้ง ระหว่างรอชั้นวางแห้งก็มาทำความสะอาดภายในตู้เย็นด้วยการผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 ลิตร จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้ทั่วจะช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ลงได้ จากนั้นเมื่อชั้นวางแห้งดีแล้วก็ให้นำกลับมาใส่ไว้ที่ตำแหน่งเดิม ส่วนยางบริเวณขอบตู้เย็นนั้นหากพบว่าเสื่อมสภาพแล้วก็ควรเปลี่ยนใหม่โดยเร็ว

เครื่องซักผ้า

ในส่วนของเครื่องซักผ้านั้นสามารถทำความสะอาดได้หลายวิธี แต่ถ้าหากใครอยากให้เอี่ยมอ่องทันใจ และป้องกันกลิ่นอับได้อยู่หมัดละก็ ขอแนะนำให้ใช้คู่หูทำความสะอาดอย่างเบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู โดยมีขั้นตอนง่าย ๆ คือ ผสมเบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำเปล่า 1-2 ช้อนชาเข้าด้วยกัน คนส่วนผสมจนเข้ากันเป็นสารละลายเหนียว ๆ แล้วใส่ลงไปในช่องผงซักฟอก จากนั้นเทน้ำส้มสายชู 250 มิลลิลิตร ตามลงไป แล้วก็ตั้งค่าให้เป็นการซักด้วยน้ำร้อน ปล่อยให้ทำงานตามปกติ เพียงแค่นี้แค่นี้ก็ช่วยให้เครื่องซักผ้าสะอาดเหมือนใหม่แล้ว แต่ก็ยังมีทางเลือกอื่น ๆ ที่ช่วยในการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าได้ดีเหมือนกัน อย่างเช่น ผงซักฟอก สารฟอกขาว ดีเกลือฝรั่ง หรือผงวิตามินซีและกรดมะนาว วัตถุดิบเหล่านี้สามารถใช้ล้างเครื่องซักผ้าได้ดีไม่แพ้กันทีเดียว

สรุปส่งท้าย

วิธีทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ PropertyScout นำมาฝากกันในบทความนี้ ถือเป็นขั้นตอนง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เป็นประจำ และส่วนใหญ่ใช้แค่ของใกล้ตัวในบ้านทั้งนั้นเลยด้วย ใครอยากให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ยืดอายุการทำงาน และอยากประหยัดไฟเพิ่มขึ้น การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจำช่วยได้แน่นอน อย่าลืมนำไปลองทำกันดู

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก