ทำไมใบปลอดหนี้ ถึงเป็นเอกสารสำคัญในการซื้อ-ขายคอนโด

ทำไมใบปลอดหนี้ ถึงเป็นเอกสารสำคัญในการซื้อ-ขายคอนโด ทำไมใบปลอดหนี้ ถึงเป็นเอกสารสำคัญในการซื้อ-ขายคอนโด

In Short

Advice

เนื่องจากการอยู่อาศัยยุคใหม่ ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร ที่มี นิติบุคคลคอยจัดการดูแลทรัพย์สินส่วนกลาง ให้อยู่ในสภาพปกติเรียบร้อย และพร้อมใช้งานตลอดเวลา และเพื่อประโยชน์ของเจ้าของร่วมทุกคน ก็จะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์สินส่วนกลาง อย่างค่า รปภ. , ค่าน้ำ , ค่าไฟ , ค่าพื้นที่ส่วนกลาง , ค่าดูแลสวน , คลับเฮ้าส์ , สระว่ายน้ำ , ค่าจัดเก็บขยะ , ค่าบริหารจัดการและค่าใช้จ่ายจิปาถะทุกอย่างที่เกี่ยวกับส่วนกลางที่ไว้ใช้งานร่วมกัน และลูกบ้านทุกคนก็มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายส่วนนี้ทุกเดือน โดยส่วนใหญ่แล้วจะให้จ่ายเป็นรายปี ตามขนาดพื้นที่ของที่อยู่อาศัยตนเอง

และเมื่อพูดถึง ใบปลอดหนี้ เชื่อว่ายังมีหลายคนที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำนี้ และไม่รู้ว่าอะไรคือใบปลอดหนี้? และมีรายละเอียดเกี่ยวกับอะไรบ้าง? ลองมาทำความรู้จักกับเอกสารฉบับนี้กัน เพราะถือว่ามีความสำคัญมากทั้งสำหรับผู้ขาย และผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย


ใบปลอดหนี้ คืออะไร? การขายบ้าน-คอนโด ต้องใช้ใบปลอดหนี้ไหม?

ใบปลอดหนี้-คืออะไร-การขายบ้าน-คอนโด-ต้องใช้ใบปลอดหนี้ไหม

ใบปลอดหนี้ คือ เอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินค่าส่วนกลางในการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งถ้าขาดเอกสารตัวนี้จะไม่สามารถทำธุรกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินได้ หรืออธิบายให้เข้าใจโดยง่าย คือ ไม่สามารถเปลี่ยนมือได้นั่นเอง

กรณีบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรที่ไม่ได้มีนิติบุคคล ไม่มีการจ่ายค่าส่วนกลางอยู่แล้ว อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารนี้ ซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายควรตรวจสอบก่อนไปทำธุรกรรมจริงที่กรมที่ดิน เพื่อไม่เสียเวลาในการวันนัดโอนกรรมสิทธิ์ ส่วนคอนโดมิเนียมทุกโครงการ ก็ล้วนต้องใช้เอกสารใบปลอดหนี้ทั้งสิ้น


ตัวอย่างเอกสารใบปลอดหนี้

ตัวอย่างเอกสารใบปลอดหนี้

ดาวน์โหลดแบบฟอร์มขอใบปลอดหนี้


ใครต้องเป็นคนขอใบปลอดหนี้?

เอกสารใบปลอดหนี้จะต้องขอโดยผู้ขายที่สำนักงานนิติบุคคล เพื่อจัดการค่าใช้จ่ายค้างชำระ (ถ้ามี) ผู้ขายสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ แต่ต้องมีหนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชนเพิ่ม 1 ใบ


เอกสารที่ต้องเตรียมหากต้องการขอใบปลอดหนี้

เอกสารที่ต้องเตรียม-หากต้องการขอใบปลอดหนี้
  • สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขาย และผู้ซื้อ
  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขาย และผู้ซื้อ
  • สำเนาโฉนดหน้า-หลัง
  • สัญญาซื้อขาย
  • ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)
  • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีไม่ได้มาขอด้วยตัวเอง)
  • สำเนาบัตรประชาชน ผู้รับมอบอำนาจ (กรณีไม่ได้มาขอด้วยตัวเอง)

การขอใบปลอดหนี้ ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน?

การขอใบปลอดหนี้-ใช้ระยะเวลานานแค่ไหน

หลังจากยื่นเอกสารคำร้องขอใบปลอดหนี้ สำนักงานนิติบุคคลจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 7-15 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละนิติบุคคล) ผู้ขายต้องทราบกำหนดการและวางแผนดำเนินการล่วงหน้า

ทั้งนี้ ใบปลอดหนี้ เป็นเอกสารสำคัญที่จะต้องใช้ประกอบการทำธุรกรรมโดยมีอายุไม่เกิน 7-15 วัน (ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละนิติบุคคล) นับจากวันที่ระบุในเอกสาร หากขาดเอกสารตัวนี้ จะไม่สามารถทำธุรกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ที่กรมที่ดินได้ นั่นเอง


ความสำคัญของใบปลอดหนี้

ความสำคัญ-ใบปลอดหนี้

อยากที่ทราบกันดีว่าหากใครละเลยไม่จ่ายค่าส่วนกลางก็จะมีค่าปรับตามแต่คณะกรรมการนิติบุคคลนั้น ๆ กำหนดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า ต้องมีกรณีที่มีคนไม่จ่าย ถ้าไม่มีกฎอะไรบังคับ ต่อให้ประกาศว่าจะเก็บดอกเบี้ย คนที่ไม่อยากจ่าย ก็จะไม่จ่าย แม้ว่าแต่ละโครงการที่อยู่อาศัย อาจจะมีวิธีการจัดการ เช่น ไม่ให้สติ๊กเกอร์รถยนต์เข้าหมู่บ้าน หรือเข้าอาคาร แต่หลายครั้งก็จัดการได้ยาก

ดังนั้น ใบปลอดหนี้ จึงเป็นเอกสารที่จะทำให้ทุกคนระลึกว่ามีหน้าที่จ่ายค่าส่วนกลาง ถ้าเราไม่จ่ายก็มีผลทำให้เราขายทรัพย์นี้ออกได้ยาก หรือขายได้แต่สุดท้ายก็โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้

นอกจากนั้นถ้าเราละเลยค่าส่วนกลางไปเรื่อย ๆ นอกจากจะเป็นดินพอกหางหมูแล้ว ยังต้องเจอค่าปรับจำนวนมาก หากไม่จัดการค่าใช้จ่ายในส่วนนี้และเมื่อต้องการขายที่อยู่อาศัย นิติบุคคลจะไม่สามารถออกใบปลอดหนี้ให้ได้ และเจ้าหน้าที่กรมที่ดินมีสิทธิ์ระงับการโอนกรรมสิทธิ์นั้น ๆ ได้ด้วย

รายละเอียดค่าปรับค่าส่วนกลางและบทลงโทษในกรณีที่ไม่จ่ายค่าส่วนกลาง ในที่อยู่อาศัยแต่ละประเภท

คอนโด

  • อาจเรียกเก็บค่าปรับค่าส่วนกลาง 12-20% ของยอดที่ต้องชำระพร้อมดอกเบี้ย
  • ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงในที่ประชุม
  • ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้
  • ถูกฟ้องร้องเพื่อบังคับให้ชำระหนี้

หมู่บ้านจัดสรร

  • สามารถถูกเรียกเก็บค่าปรับค่าส่วนกลาง 10-15% ของยอดที่ต้องชำระพร้อมดอกเบี้ย
  • สามารถถูกระงับการให้บริการพื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งอำนวยความสะดวก
  • สามารถถูกอายัดไม่ให้จดทะเบียนสิทธิหรือทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับโครงการ รวมถึงการขายด้วย
  • สามารถถูกฟ้องร้องเพื่อบังคับให้ชำระหนี้

สรุปส่งท้าย

สำหรับคนที่จะซื้อที่อยู่อาศัยมือสองควร ตรวจสอบเรื่องใบปลอดหนี้ให้ดี เพื่อดูว่าเจ้าของทรัพย์สินนั้น จ่ายค่าส่วนกลางแล้วหรือไม่ หรือมีอะไรที่เป็นหนี้สินค้างคา เพราะถ้าจ่ายเงินมัดจำหรือวางเงินจองไปแล้ว เกิดกรณีโอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้ เพราะยังค้างหนี้ส่วนกลาง อาจจะเกิดความยุ่งยาก และสร้างปัญหาได้ ฉะนั้นควรตรวจสอบข้อมูลรอบด้านก่อนวางเงินซื้อที่อยู่อาศัย


สนใจซื้อบ้าน-คอนโด สวย ๆ กับ PropertyScout พร้อมใบปลอดหนี้ หมดห่วงเรื่องปัญหาวุ่นวาย

คลิกเลย


FAQs

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique.

Explore More Topics

Free real estate resources and tips on how to capitalise