In Short
Advice
เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความโศกเศร้าเสียใจอย่าง 'การจากลาของบุคคลที่เป็นที่รัก' คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วชีวิตของคนที่เหลืออยู่ก็ต้องดำเนินกันต่อไป ซึ่งหลังจากจัดพิธีงานศพยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับรุ่นลูกรุ่นลูกหลาน นั่นก็คือ 'การบริหารจัดการมรดกของผู้เสียชีวิต' นั่นเองครับ ซึ่งหนึ่งในมรดกที่คนไทยรุ่นเก่านิยมซื้อเพื่อการลงทุน และถือครองไว้เพื่อส่งต่อให้ลูกหลานก็คือ 'ที่ดิน' นั่นเอง และเพื่อเป็นการไขข้อสงสัยให้กับหลาย ๆ คนที่ได้มรดกที่ดิน ในบทความนี้ PropertyScout จะพาทุกคนไปดูขั้นตอนการจัดการต่าง ๆ กันครับ

ขั้นตอนการจัดการเรื่อง 'มรดกที่ดิน'

เมื่อเจ้าของที่ดินหรือผู้มีชื่อในเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน อย่างเช่น โฉนดที่ดิน , น.ส.๓ , น.ส.๓ ก. , หรือ น.ส.๓ ข. เกิดเสียชีวิตไป ที่ดินแปลงนั้นจะกลายเป็นมรดกตกทอดมายังทายาทของผู้เสียชีวิต ตามสิทธิในทางกฎหมายหรือตามพินัยกรรมที่เจ้ามรดกผู้เสียชีวิตได้ทำไว้ และเมื่อเราทราบว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกที่ดิน ก็จะต้องไปขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาครับ
ตรวจเช็คลำดับของญาติที่มีสิทธิได้รับมรดก
ในทางกฎหมายทายาทที่มีสิทธิหรือทายาทโดยธรรมนั้นมี 6 ลำดับ แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังกัน ดังนี้ครับ
- ผู้สืบสันดาน (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ)
- บิดา, มารดา
- พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
- พี่น้องร่วมบิดา หรือร่วมมารดาเดียวกัน
- ปู่, ย่า, ตา, ยาย
- ลุง, ป้า, น้า, อา ทั้งนี้ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ถือเป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิรับมรดกร่วมกับทายาทโดยธรรมทั้ง 6 ลำดับอีกด้วย
เตรียมหลักฐานที่ต้องนำไปประกอบการขอรับมรดก

หลักฐานที่ต้องเตรียมไปมีดังนี้
- โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองทำประโยชน์
- บัตรประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น ใบมรณบัตร
- พินัยกรรม (ถ้ามี)
- ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นคู่สมรส ต้องมีใบทะเบียนสมรส
- ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบิดาเจ้ามรดก ต้องมีทะเบียนสมรสกับมารดาของเจ้ามรดกหรือหลักฐานการรับรองบุตร
- ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบุตรบุญธรรม ต้องแสดงหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
- ถ้ามีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดก ต้องนำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดไปแสดง
- ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคน บางคนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ต้องมีหลักฐานการตายของทายาทนั้น ๆ
*กรณีที่มีผู้จัดการมรดก หลักฐานที่ต้องนำไป มีดังนี้
- คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาของศาล หรือพินัยกรรมซึ่งตั้งให้ผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก
- หลักฐานการตายของเจ้ามรดก
- ทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวของผู้จัดการมรดก
- โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
สนใจอ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก
การขอรับมรดกที่ดิน

คุณพ่อและคุณแม่ได้เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมที่ดินไว้และมีทายาท 2 คน ดังนั้นการที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้มรดกจึงตกแก่ทายาทโดยชอบธรรม โดยทายาททั้งสองคนสามารถเข้าไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา เพื่อขอรับมรดกที่ดินโดยทำได้ 2 วิธีดังนี้ครับ
วิธีที่ 1 : กรณีมีผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกจะต้องนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินพร้อมด้วยหลักฐานการเป็นผู้จัดการมรดก ได้แก่ คำสั่งศาลที่แต่งตั้งผู้จัดการมรดกหรือคำพิพากษา เพื่อนำไปแสดงต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อได้รับการตรวจสอบแล้วพบว่าถูกต้องก็จะทำการจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ครับ และเมื่อจดทะเบียนเรียบร้อยแล้วผู้จัดการมรดกก็สามารถขอยื่นจดทะเบียนโอนมรดกให้แก่ทายาทเจ้าของที่ดินต่อไปได้
วิธีที่ 2 : กรณีที่ไม่มีผู้จัดการมรดก
ทายาทผู้ขอรับมรดกต้องนำหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน, ใบมรณบัตร, ทะเบียนบ้าน, บัตรประจำตัวประชาชน, สูติบัตร ไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วเชื่อว่าผู้ขอเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดก พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะทำการประกาศภายใน 30 วันครับ หากไม่มีผู้โต้แย้งคัดค้านภายใน 30 วัน พนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะจดทะเบียนให้
ในกรณีที่มีทายาทรับมรดกหลายคน และมีบางคนจะมาขอจดทะเบียนรับมรดกทั้งหมด จะต้องนำทายาทที่แสดงไว้ในบัญชีเครือญาติทุกคนมาให้คำยินยอมหรือนำหลักฐานแสดงว่าไม่รับมรดกมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกำหนดเวลาที่ประกาศไว้ครับ หลังจากนั้นพนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะจดทะเบียนให้
ในทางกลับกัน หากผู้ขอไม่สามารถนำทายาทที่แสดงไว้ในบัญชีเครือญาติทุกคนมาให้คำยินยอม หรือไม่สามารถนำหลักฐานการไม่รับมรดกของทายาทคนดังกล่าวมาแสดงตามกำหนดเวลาที่ประกาศไว้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถจดทะเบียนให้ได้นะครับ หากผู้ขอต้องการขอให้จดทะเบียนโอนมรดกให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะจดทะเบียนโอนมรดกให้เท่าที่ผู้ขอมีสิทธิอยู่เท่านั้น
ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการรับโอนมรดก คลิก
สรุปส่งท้าย
PropertyScout หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังจะต้องได้รับมรดกที่ดินอยู่นะครับ จะเห็นได้ว่าเมื่อทายาทโดยชอบธรรมเห็นพ้องต้องกันในการรับโอนมรดกที่ดินเพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อมก็สามารถจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินได้ตามสิทธิที่ควรได้รับ อย่างไรก็ตาม หากเป็นกรณีที่เกิดมีข้อพิพาทระหว่างทายาทโดยธรรมก็จะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาในชั้นศาลกันต่อไปนะครับ แล้วก็ขอแนะนำว่า หากมีปัญหาใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการขอรับโอนมรดก วิธีการดีที่สุดคือไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่ดิน ซึ่งปกติที่สำนักงานที่ดินจะมีเจ้าหน้าที่ที่ดินผู้ให้คำแนะนำประจำอยู่แล้ว พวกเขาสามารถแนะนำให้ได้ว่าต้องทำอย่างไรครับ
PropertyScout แหล่งรวมอสังหา ฯ ที่ดีที่สุดในประเทศไทย
หาทรัพย์ที่ชอบ ในราคาที่ใช่ ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก
FAQs
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Suspendisse varius enim in eros elementum tristique.
Explore More Topics
Free real estate resources and tips on how to capitalise