‘ได้รับมรดกที่ดิน’ จัดการยังไงดีนะ?

Author
by
At
April 17, 2023
‘ได้รับมรดกที่ดิน’ จัดการยังไงดีนะ? ‘ได้รับมรดกที่ดิน’ จัดการยังไงดีนะ?

เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความโศกเศร้าเสียใจอย่าง 'การจากลาของบุคคลที่เป็นที่รัก' คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วชีวิตของคนที่เหลืออยู่ก็ต้องดำเนินกันต่อไป ซึ่งหลังจากจัดพิธีงานศพยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับรุ่นลูกรุ่นลูกหลาน นั่นก็คือ 'การบริหารจัดการมรดกของผู้เสียชีวิต' นั่นเองครับ ซึ่งหนึ่งในมรดกที่คนไทยรุ่นเก่านิยมซื้อเพื่อการลงทุน และถือครองไว้เพื่อส่งต่อให้ลูกหลานก็คือ 'ที่ดิน' นั่นเอง และเพื่อเป็นการไขข้อสงสัยให้กับหลาย ๆ คนที่ได้มรดกที่ดิน ในบทความนี้ PropertyScout จะพาทุกคนไปดูขั้นตอนการจัดการต่าง ๆ กันครับ

'ได้รับมรดกที่ดิน'-จัดการยังไงดีนะ

ขั้นตอนการจัดการเรื่อง 'มรดกที่ดิน'

ขั้นตอนการจัดการเรื่อง-มรดกที่ดิน
ขั้นตอนการจัดการ

เมื่อเจ้าของที่ดินหรือผู้มีชื่อในเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน อย่างเช่น โฉนดที่ดิน , น.ส.๓ , น.ส.๓ ก. , หรือ น.ส.๓ ข. เกิดเสียชีวิตไป ที่ดินแปลงนั้นจะกลายเป็นมรดกตกทอดมายังทายาทของผู้เสียชีวิต ตามสิทธิในทางกฎหมายหรือตามพินัยกรรมที่เจ้ามรดกผู้เสียชีวิตได้ทำไว้ และเมื่อเราทราบว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับมรดกที่ดิน ก็จะต้องไปขอจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาครับ 


ตรวจเช็คลำดับของญาติที่มีสิทธิได้รับมรดก

ในทางกฎหมายทายาทที่มีสิทธิหรือทายาทโดยธรรมนั้นมี 6 ลำดับ แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังกัน ดังนี้ครับ

  1. ผู้สืบสันดาน (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ)
  2. บิดา, มารดา
  3. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
  4. พี่น้องร่วมบิดา หรือร่วมมารดาเดียวกัน
  5. ปู่, ย่า, ตา, ยาย
  6. ลุง, ป้า, น้า, อา ทั้งนี้ คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ให้ถือเป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิรับมรดกร่วมกับทายาทโดยธรรมทั้ง 6 ลำดับอีกด้วย

เตรียมหลักฐานที่ต้องนำไปประกอบการขอรับมรดก

เตรียมหลักฐานที่ต้องนำไปประกอบการขอรับมรดก
อย่าลืมเตรียมหลักฐาน

หลักฐานที่ต้องเตรียมไปมีดังนี้

  • โฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองทำประโยชน์
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • ทะเบียนบ้าน
  • หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น ใบมรณบัตร
  • พินัยกรรม (ถ้ามี)
  • ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นคู่สมรส  ต้องมีใบทะเบียนสมรส
  • ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบิดาเจ้ามรดก ต้องมีทะเบียนสมรสกับมารดาของเจ้ามรดกหรือหลักฐานการรับรองบุตร
  • ถ้าผู้ขอรับมรดกเป็นบุตรบุญธรรม ต้องแสดงหลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม
  • ถ้ามีกรณีพิพาทเกี่ยวกับมรดก ต้องนำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาอันถึงที่สุดไปแสดง
  • ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคน บางคนได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ต้องมีหลักฐานการตายของทายาทนั้น ๆ

 *กรณีที่มีผู้จัดการมรดก หลักฐานที่ต้องนำไป มีดังนี้

  • คำสั่งศาลหรือคำพิพากษาของศาล หรือพินัยกรรมซึ่งตั้งให้ผู้ขอเป็นผู้จัดการมรดก
  • หลักฐานการตายของเจ้ามรดก
  • ทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวของผู้จัดการมรดก
  • โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์

สนใจอ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก


การขอรับมรดกที่ดิน

การขอรับมรดกที่ดิน
การขอรับมรดกที่ดิน

คุณพ่อและคุณแม่ได้เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่ โดยไม่ได้ทำพินัยกรรมที่ดินไว้และมีทายาท 2 คน ดังนั้นการที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้มรดกจึงตกแก่ทายาทโดยชอบธรรม โดยทายาททั้งสองคนสามารถเข้าไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัด หรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขา เพื่อขอรับมรดกที่ดินโดยทำได้ 2 วิธีดังนี้ครับ


วิธีที่ 1 : กรณีมีผู้จัดการมรดก

ผู้จัดการมรดกจะต้องนำหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินพร้อมด้วยหลักฐานการเป็นผู้จัดการมรดก ได้แก่ คำสั่งศาลที่แต่งตั้งผู้จัดการมรดกหรือคำพิพากษา เพื่อนำไปแสดงต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และเมื่อได้รับการตรวจสอบแล้วพบว่าถูกต้องก็จะทำการจดทะเบียนลงชื่อผู้จัดการมรดกในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินให้ครับ และเมื่อจดทะเบียนเรียบร้อยแล้วผู้จัดการมรดกก็สามารถขอยื่นจดทะเบียนโอนมรดกให้แก่ทายาทเจ้าของที่ดินต่อไปได้


วิธีที่ 2 : กรณีที่ไม่มีผู้จัดการมรดก

ทายาทผู้ขอรับมรดกต้องนำหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน, ใบมรณบัตร, ทะเบียนบ้าน, บัตรประจำตัวประชาชน, สูติบัตร ไปแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดิน เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วเชื่อว่าผู้ขอเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดก พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะทำการประกาศภายใน 30 วันครับ หากไม่มีผู้โต้แย้งคัดค้านภายใน 30 วัน พนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะจดทะเบียนให้

ในกรณีที่มีทายาทรับมรดกหลายคน และมีบางคนจะมาขอจดทะเบียนรับมรดกทั้งหมด จะต้องนำทายาทที่แสดงไว้ในบัญชีเครือญาติทุกคนมาให้คำยินยอมหรือนำหลักฐานแสดงว่าไม่รับมรดกมาแสดงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกำหนดเวลาที่ประกาศไว้ครับ หลังจากนั้นพนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะจดทะเบียนให้

ในทางกลับกัน หากผู้ขอไม่สามารถนำทายาทที่แสดงไว้ในบัญชีเครือญาติทุกคนมาให้คำยินยอม หรือไม่สามารถนำหลักฐานการไม่รับมรดกของทายาทคนดังกล่าวมาแสดงตามกำหนดเวลาที่ประกาศไว้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะไม่สามารถจดทะเบียนให้ได้นะครับ หากผู้ขอต้องการขอให้จดทะเบียนโอนมรดกให้ พนักงานเจ้าหน้าที่ก็จะจดทะเบียนโอนมรดกให้เท่าที่ผู้ขอมีสิทธิอยู่เท่านั้น


ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการรับโอนมรดก คลิก


สรุปส่งท้าย

PropertyScout หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนที่กำลังจะต้องได้รับมรดกที่ดินอยู่นะครับ จะเห็นได้ว่าเมื่อทายาทโดยชอบธรรมเห็นพ้องต้องกันในการรับโอนมรดกที่ดินเพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อมก็สามารถจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินได้ตามสิทธิที่ควรได้รับ อย่างไรก็ตาม หากเป็นกรณีที่เกิดมีข้อพิพาทระหว่างทายาทโดยธรรมก็จะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาในชั้นศาลกันต่อไปนะครับ แล้วก็ขอแนะนำว่า หากมีปัญหาใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการขอรับโอนมรดก วิธีการดีที่สุดคือไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ที่ดิน ซึ่งปกติที่สำนักงานที่ดินจะมีเจ้าหน้าที่ที่ดินผู้ให้คำแนะนำประจำอยู่แล้ว พวกเขาสามารถแนะนำให้ได้ว่าต้องทำอย่างไรครับ


PropertyScout แหล่งรวมอสังหา ฯ ที่ดีที่สุดในประเทศไทย

หาทรัพย์ที่ชอบ ในราคาที่ใช่ ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว


อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง คลิก