วิถีชีวิตแบบยั่งยืน

สำหรับเจ้าของบ้านที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่ และย้ายเข้าอยู่ในบ้านเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ คงจะดีไม่น้อยหากมีพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้และสวนสวย ๆ ซึ่งก็เชื่อว่าหลายคนคงมีความคิดอยากมีสวนเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านอาจพบปัญหาในการปลูกต้นไม้แล้วต้นไม้ไม่งอก บางครั้งอาจโตขึ้นมาได้ไม่นานก็เริ่มแสดงอาการเจ็บป่วย เกิดโรค หรือหยุดเจริญเติบโตและตายลงในที่สุด ในบทความนี้ PropertyScout ก็จะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยเรื่องของดินในบ้านสร้างใหม่ ว่าทำไมถึงปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น หรือในดินมีปัญหาอะไรบางอย่างอยู่หรือป่าว ไปดูกัน ดินบ้านสร้างใหม่ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยขึ้น เกิดจากอะไร? ก่อนเริ่มก่อสร้างบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวที่ปลูกเองบนที่ดินที่ซื้อไว้ หรือบ้านที่อยู่ในโครงการจัดสรรก็ตาม มักจะมีการถมที่ดินเพื่อให้ดินเรียบเสมอกัน ซึ่งในขั้นตอนนี้หากมีการใช้ประเภทหรือชนิดของดินที่ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก ก็ทำให้ปลูกต้นไม้อะไรไม่ขึ้นนั่นเอง ซึ่งดินชนิดที่นิยมใช้ถมที่ก็จะมีดังนี้เรามาดูกันว่าดินที่ใช้ถมที่นั้นจะนิยมใช้ดินอะไรบ้าง วิธีการปรับสภาพดินให้พร้อมปลูก โดยส่วนมากแล้ว การถมที่ดินเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยมักไม่ได้ใช้ดินประเภทหน้าดินที่มีราคาแพงมากนัก เป็นเหตุผลที่ทำให้เมื่อซื้อบ้านแล้วต้องการปลูกต้นไม้ จะต้องรอประมาณ 3-5 ปีให้ดินปรับสภาพจนเข้าที่ก่อน โดยเฉพาะดินที่เป็นดินทราย หรือบางโครงการอาจใช้เศษปูนหรืออิฐที่เหลือจากการก่อสร้างมาถมที่ให้ ถ้าแบบนั้นอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าเดิม แล้วทีนี้หากเราต้องการรีบปลูกต้นไม้ในสนามบ้าน หรือปรับสภาพดินให้เร็วขึ้น สามารถทำอย่างไรได้บ้าง? หรือสำหรับเจ้าของบ้านที่ซื้อบ้านใหม่ไปแล้ว ลงต้นไม้ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปอยู่ดี ๆ ต้นไม้เกิดโตช้าลง จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร? นำดินคุณภาพไม่ดีออกไป วิธีปรับดินที่รวดเร็วที่สุดคือ เราต้องเปลี่ยนดินเก่า ไม่ว่าจะเป็นดินทราย…

สำหรับชาวคอนโดที่อาจจะคิดว่าไลฟ์สไตล์ด้านอาหารการกินจะต้องฝากท้องไว้กับร้านอาหาร หรือสั่งซื้อมากินเท่านั้น เพราะว่าครัวในคอนโดส่วนมากจะให้พื้นที่มาค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตามในบทความนี้ PropertyScout ได้รวบรวม 9 ไอเทมของใช้ในครัวที่ต้องมีติดคอนโดไว้ ไว้สำหรับเตรียมพร้อมการใช้งาน สร้างความสนุกสนานกับอาหารมื้ออร่อยในครัวห้องคอนโดได้ไม่แพ้ครัวบ้านอย่างแน่นอน! เครื่องกรองน้ำ น้ำสะอาดสำหรับดื่มกินเป็นสิ่งที่ต้องใช้ทุกวัน คงไม่ดีแน่หากเราต้องซื้อน้ำเป็นขวดมาใช้ตลอด นอกจากจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในระยะยาวและเป็นภาระในการหาซื้อแล้ว ยังเป็นต้นเหตุของการสร้างขยะพลาสติกจากการที่ต้องทิ้งขวดน้ำดื่มจำนวนมากในแต่ละวันอีกด้วย ขอแนะนำให้ติดตั้งเครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐานสำหรับผลิตน้ำดื่มจะดีกว่า แล้วก็อย่าลืมเปลี่ยนไส้กรองและดูแลรักษาอุปกรณ์ตามกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อการใช้งานที่ดีต่อสุขภาพ เครื่องปั่นอาหาร/บดอาหาร เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงและลดความซับซ้อน อีกทั้งช่วยขจัดขั้นตอนที่วุ่นวายเลอะเทอะในการเตรียมอาหารไปได้มาก สามารถใช้ทำเครื่องดื่มตั้งแต่เครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ปั่น ผักปั่น สมูทตี้ ทำขนมหวาน ซอส หรือแม้แต่เตรียมวัตถุดิบสำหรับเครื่องแกง โดยไม่ต้องเสียเวลา หั่น ซอย คั้น โขลก หรือตำเพิ่ม ซึ่งนอกจากจะเหนื่อยแรงแล้วยังทำให้เกิดเสียงดังอีกด้วย ดังนั้นการปั่นหรือบดด้วยเครื่องปั่นที่แสนสะดวก สามารถทำให้เราสร้างสรรค์สรรเมนูได้หลากหลายในพื้นที่ครัวคอนโดขนาดเล็กกะทัดรัด ตู้เย็นขนาดใหญ่ ไม่ว่าครัวในห้องคอนโดของเราจะมีดีไซน์สวย มีข้าวของเครื่องใช้เยอะแค่ไหนก็ตาม ‘ตู้เย็น’ ก็ยังเป็นอุปกรณ์หลักที่ต้องคิดถึงเป็นลำดับแรก ๆ เสมอ หากคิดจะซื้อตู้เย็น ขอแนะนำว่าให้ซื้อตู้เย็นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พื้นที่ครัวของเราจะวางได้อย่างเหมาะสม อย่าซื้อตู้เย็นขนาดเล็ก หรือขนาดจิ๋วมาใช้เป็นอันขาด เพราะในที่สุดจะใช้เก็บของได้ไม่พอ ซึ่งสำหรับการใช้ชีวิตดี ๆ…

ในช่วงระยะหลังมานี้ เราอาจคุ้นเคยกับคำว่าอาชีพเสริมมากขึ้น หลายคนที่ทำงานประจำอยู่ก็เริ่มสร้างธุรกิจขนาดเล็ก หรือมีอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ สำหรับชาวคอนโดที่กำลังคิดอยากหารายได้เพิ่มให้กับตัวเอง ในบทความนี้ PropertyScout ก็มีไอเดียการทำธุรกิจและอาชีพเสริมต่าง ๆ ที่เหมาะกับชาวคอนโดอย่างเรา ๆ มาฝากกัน ไปดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง? ขายของออนไลน์ อย่างแรกเลยการอยู่คอนโดนั้นมีข้อดีที่เด่นชัดคือความเป็นส่วนตัวสูงและไม่ค่อยวุ่นวาย น่าจะทำให้มีสมาธิ ซึ่งเอื้ออำนวยในการทำธุรกิจออนไลน์ได้ อีกทั้งเดี๋ยวนี้คอนโดหลายโครงการก็อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ทำให้ง่ายต่อการเดินทางในการส่งของให้ลูกค้า หรือออกไปซื้อสินค้ามาเก็บเป็นสต็อก รวมถึงร้านบริการส่งพัสดุอย่าง Kerry ก็กระจายอยู่ประปราย ร้านกาแฟ-ขนมหวาน เดลิเวอรี่ ธุรกิจนี้ในหลายโครงการคอนโดมิเนียมไปได้ดีมาก ๆ ซึ่งอาจเป็นเพราะเจ้าของร้าน เปิดให้บริการแต่เช้า มีหลายอย่างมาเสริม นอกจากเครื่องดื่มที่หลากหลาย ยังมีของทานง่าย ๆ เช่น แซนด์วิช ข้าวกล่องพร้อมขาย ขนมกึ่งคาว และขนมหวาน แต่ก็ไม่ใช่ทุกโครงการที่จะไปได้ดี เพราะกลุ่มเป้าหมายจำกัด และเวลาในการขายได้ดีจริง ๆ ก็จำกัดแค่ช่วงเช้ากับช่วงค่ำของวันธรรมดา และวันเสาร์ อาทิตย์ หรือไม่ก็อาจจะลองเจาะกลุ่มลูกค้าในช่องทางออนไลน์เป็นหลักก็ได้ ขายอาหารเดลิเวอรี่ หลายคน ๆ ทำอาหารเดลิเวอรี่สำหรับส่งตามห้องพักในคอนโดหรือขายออนไลน์…

หลายคนคงจะทราบข่าวเรื่องค่า FT ที่ถูกปรับให้สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้ค่าไฟขึ้นตามไปด้วยโดยปริยาย ในทางกลับกัน หากว่าค่า Ft ปรับลด ค่าไฟก็จะขยับลดลงไปด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ไฟฟ้าของเราด้วยเช่นกัน แล้วค่า FT ดังกล่าว คืออะไรกันแน่? คำนวณจากอะไร? และมีความสำคัญอย่างไรบ้าง? ในบทความนี้ PropertyScout จะพาทุกคนไปทำความรู้จัก ค่า FT กัน เพื่อจะได้เข้าใจว่ามีผลต่อค่าไฟที่เราเสียไปในแต่ละเดือนอย่างไรบ้าง ทำความเข้าใจ ‘บิลค่าไฟฟ้า 1 ใบ’ ประกอบด้วยอะไรบ้าง? ค่าไฟที่ทุกคนจ่ายกันอยู่ทุกเดือนตามที่บิลค่าไฟระบุมานั้น หากสังเกตดูจะเห็นว่าประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ๆ อยู่ด้วยกัน คือ ข้อมูลทั่วไปของผู้ใช้ไฟฟ้า ส่วนนี้จะระบุข้อมูลของผู้ใช้ไฟฟ้า ประกอบด้วย ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า วันและเวลาที่วัดหน่วยไฟฟ้า และบอกว่าบิลนี้เป็นค่าไฟของเดือนไหน ข้อมูลประวัติการใช้ไฟฟ้า ส่วนถัดมาจะแสดงข้อมูลการใช้ไฟฟ้าว่าเลขที่วัดได้จากครั้งก่อน – หลังได้เท่าไหร่ จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่เราใช้ไปในเดือนนั้น ๆ เท่ากับเท่าไหร่…

‘ไฟฟ้ารั่ว’ ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่ใช่แค่อันตรายจากการถูกไฟช็อตจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ยังมีโอกาสทำให้เกิดไฟไหม้บ้านและสร้างความเสียหายลุกลามเป็นวงกว้างได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเจ้าของบ้านทุกคนควรรู้วิธีรับมือกับไฟรั่ว เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอีกด้วย ไฟฟ้ารั่วคืออะไร ? ‘ไฟฟ้ารั่ว’ คือ การที่กระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกจากวงจรไฟฟ้าไปที่ผิวของสายไฟฟ้า หรือโครงโลหะของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หากสัมผัสโดนอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ อย่างเช่น เกิดไฟดูดเมื่อเราไปสัมผัสกับสายไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิดไฟรั่ว ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายและลงสู่พื้นดิน ส่งผลให้หัวใจทำงานผิดปกติ ถ้าไฟมีกำลังแรงอาจทำให้หัวใจเต้นอ่อนลงจนหยุดเต้นและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งสาเหตุการเกิดไฟรั่วมีหลากหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้ สาเหตุของไฟฟ้ารั่ว สาเหตุหลักลำดับแรกที่ทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้ารั่วมักมาจากการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ถูกต้อง และปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้ จุดไหนบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้ารั่ว? โดยทั่วไปแล้วจุดเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดไฟรั่วได้มากคือบริเวณที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าเป็นประจำ เช่น ปลั๊กตู้เย็นที่ต้องเสียบใช้งานตลอด หรือ ปลั๊กต่อ เป็นต้น รวมถึงจุดที่อยู่ภายนอกบ้านและต้องสัมผัสกับน้ำและสภาพแวดล้อมอื่น ๆ เป็นประจำ อาทิ ปั๊มน้ำ รั้วไฟฟ้า โคมไฟ กริ่งประตูบ้าน เป็นต้น ยิ่งถ้าจุดเสี่ยงไหนต้องเจอกับน้ำบ่อย ๆ ถือว่าอันตรายมาก เพราะน้ำจะเป็นสื่อนำชั้นดีให้กับกระแสไฟที่รั่วออกมาจนอาจทำให้คนในบ้านโดนไฟดูดแบบไม่รู้ตัว อีกจุดที่มีความเสี่ยงจะเกิดไฟรั่วได้คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือปลั๊กไฟที่ใช้งานมายาวนานมาก ๆ เนื่องจากโอกาสการเสื่อมสภาพมีสูง หากสังเกตว่าการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าดังกล่าวแปลกไปหรือปลั๊กไฟเกิดรอยไหม้ รอยดำ…

เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ยิ่งใช้นานก็ยิ่งต้องดูแล นอกจากนั้นหากเราทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นประจำนอกจากจะช่วยยืดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยให้เราประหยัดไฟและลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้อีกด้วย ดังนั้นมาลองดูวิธีทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ PropertyScout นำมาฝากในบทความนี้กัน รับรองว่าเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน พัดลมตั้งพื้น มาเริ่มต้นกันที่วิธีทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐาน ๆ อย่างพัดลมตั้งพื้นกัน ซึ่งต้องขอบอกว่าไม่ยากอย่างที่คิด โดยขั้นแรกให้ถอดตะแกรงด้านหน้าออกมาก่อน จากนั้นหมุนเกลียวของตัวล็อกที่อยู่ตรงกลางใบพัดออกเพื่อให้เราสามารถถอดใบพัดได้ แล้วจึงนำใบพัด ตัวล็อก และตะแกรงทั้งด้านหน้าและด้านหลังไปล้างน้ำจนสะอาด จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้ง แล้วนำไปตากไว้สักพักให้แห้งสนิทก่อนประกอบกลับเข้าที่ เพียงแค่นี้ก็ได้พัดลมสะอาดเหมือนใหม่แล้ว พัดลมดูดอากาศ รู้วิธีทำความสะอาดพัดลมตั้งพื้นกันแล้ว จะปล่อยปะละเลยพัดลมดูดอากาศไปก็ไม่ได้ เพราะเป็นอีกเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญที่ช่วยดูดอากาศเสียออกไปเวลาเราใช้งานห้องน้ำ หากปล่อยให้สกปรกจนมีฝุ่นจับหนา ก็จะลดประสิทธิภาพในการทำงานลง หากเป็นพัดลมดูดอากาศแบบติดผนัง ให้ถอดปลั๊กแล้วแกะใบพัดออกจากฐาน นำผ้าแห้งเช็ดฝุ่นออกจากใบพัด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำยาล้างจานอีกครั้ง เช็ดแบบนี้กับฐานพัดลมด้วย จากนั้นก็รอจนแห้งสนิท แล้วหมุนใบพัดใส่เข้าไปเหมือนเดิมได้เลย ส่วนพัดลมดูดอากาศแบบติดเพดาน ให้ใช้นิ้วสอดเข้าไปด้านข้างเพื่อแกะฝาครอบออกมา แล้วก็อย่าลืมดึงลวดยึดด้านข้างออกด้วย จากนั้นก็นำฝาครอบมาดูดฝุ่นและล้างทำความสะอาดและนำไปตากไว้ให้แห้ง ระหว่างรอก็ให้เปลี่ยนไปดูดฝุ่นที่มอเตอร์บนเพดาน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วก็ประกอบใส่เข้าไปดังเดิม กดลวดยึดด้านข้างไว้เหมือนตอนแรก ดันฝาครอบให้ปิดแน่นสนิท แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แอร์ ทุกวันนี้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักมากขึ้นเพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อากาศมีอุณหภูมิร้อนแสนร้อน ดังนั้นก็อย่าลืมดูแลด้วยการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศในบ้านของเราสักหน่อยดีกว่า ซึ่งทำแล้วก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็น และยังช่วยประหยัดไฟขึ้นอีกแน่นอน วิธีทำความสะอาดแอร์ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมาย…

เคยได้พูดถึงเรื่องการเลือก ‘ปั๊มน้ำ’ กันไปแล้ว คราวนี้มาต่อกันในเรื่องของการเลือก ‘ถังเก็บน้ำ’ หรือ ‘แทงค์น้ำ’ กันบ้างครับ ซึ่งถังเก็บน้ำนั้นถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญในบ้านทุกหลัง เพราะคนเราใช้น้ำเฉลี่ยคนละ 200 ลิตรต่อวันกันเลยทีเดียว ทั้งสำหรับดื่มน้ำ นำมาประกอบอาหาร หรือการชำระล้างร่างกายหรือทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ ล้วนต้องใช้น้ำทั้ง ทำให้ถังเก็บน้ำกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญประจำบ้านที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหากเกิดกรณีฉุกเฉินอย่างระบบจ่ายน้ำหรือน้ำประปาขัดข้องขึ้นมา ก็จะทำให้เรามีน้ำสำรองไว้ใช้ครับ ในบทความนี้ PropertyScout ก็จะพาทุกคนไปดูหลักการเลือกถังเก็บน้ำ เลือกอย่างไรให้เหมาะกับบ้านของตัวเอง เดี๋ยวไปดูกันครับ คุณสมบัติของถังเก็บน้ำที่ดี มีอะไรบ้าง? ต้องมีความคงทนแข็งแรง ความแข็งแรงของตัวถังเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของถังเก็บน้ำที่จำเป็นต้องพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานครับ สามารถตรวจสอบได้โดยการวัดน้ำหนักถังเปล่า เพื่อดูว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ โดยค่าเฉลี่ยแล้วถังเก็บน้ำขนาด 1,000 ลิตร ควรมีน้ำหนักถังเปล่าประมาณ 30 กิโลกรัม รวมถึงเมื่อใส่น้ำไปแล้วจะต้องตรวจสอบความคงทน โดยตัวถังต้องไม่เสียรูปทรงครับ นอกจากนั้น ในปัจจุบันถังเก็บน้ำมักมีการรับประกันอายุการใช้งานของสินค้าทั้งตัวถังและฝาถัง ซึ่งเราควรให้ความสำคัญกับระยะเวลาการรับประกันและรายละเอียดของสิ่งที่รับประกัน อย่างเช่น การบวม แตกกรอบ และการซีดของถังเก็บน้ำ โดยถังน้ำคุณภาพสูงส่วนมากมักจะให้ระยะเวลาประกันที่ยาวนาน และสามารถเรียกร้องขอเปลี่ยนใหม่หรือซ่อมแซมภายในระยะเวลาประกันได้ครับ…

ในช่วงที่อากาศไม่บริสุทธิ์แบบนี้ และมีแต่อนุภาคขนาดเล็กที่ทำร้ายสุขภาพลอยอยู่เต็มไปหมด ทำให้ สำหรับหลาย ๆ คน ‘เครื่องฟอกอากาศ’ ได้กลายเป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องมีติดบ้านเอาไว้ ซึ่งอุปกรณ์ตัวนี้ก็ถือว่ามีราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ใช้งานหลายคนคาดหวังในประสิทธิภาพและระยะเวลาการใช้งานให้ได้ยาวนานเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากว่าเราสามารถดูแลรักษาและใช้งานให้ถูกวิธีจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการฟอกอากาศบริสุทธิ์ให้เราได้อย่างแน่นอนครับ มาดูพร้อมกันกับ PropertyScout ว่าเครื่องฟอกอากาศใช้งานอย่างไร ถึงจะได้ประสิทธิภาพอย่างสูงสุดและคุ้มค่ากับที่ซื้อมาใช้ครับ ใช้ ‘เครื่องฟอกอากาศ’ ดีอย่างไร? เครื่องฟอกอากาศ เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยกำจัดสิ่งที่ปนเปื้อนมาในอากาศ เช่น ฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก แบคทีเรีย ไวรัส หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ อย่างเช่นกลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นรองเท้า กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นจากสัตว์เลี้ยง ขนสัตว์ เป็นต้น มีหลักการทำงานโดยการดูดอากาศที่ปนเปื้อนเข้าตัวเครื่อง เพื่อนำเข้าสู่เข้าสู่กระบวนการกรองฝุ่นละอองและเชื้อโรคต่าง ๆ ก่อนปล่อยอากาศบริสุทธิ์ออกมาแทน ทำให้ช่วยลดโอกาสเจ็บป่วยจากอาการภูมิแพ้และโรคในระบบทางเดินหายใจครับ ใช้งานเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้คุ้มค่าและได้ประสิทธิภาพอย่างสูงสุด ตรวจเช็คไส้กรองเมื่อถึงกำหนด เมื่อใช้เครื่องฟอกอากาศไปสักระยะหนึ่ง หรือถึงกำหนดตามคู่มือการใช้งานแล้ว ควรมีการตรวจเช็คความสะอาดของไส้กรองว่าต้องเปลี่ยนหรือทำความสะอาดหรือยังครับ แต่สำหรับในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับฝุ่นละอองที่หนาแน่นมากกว่าปกติยิ่งควรต้องตรวจเช็คบ่อยขึ้น เพราะหากยังคงใช้งานไส้กรองที่สกปรกหรือหมดอายุต่อไป จะทำให้อากาศภายในบ้านไม่บริสุทธิ์สะอาดตามที่ควรจะเป็น และยังเสี่ยงต่อการทำให้เครื่องฟอกอากาศเสียหายก่อนถึงอายุการใช้งานอีกด้วยครับ และสำหรับรุ่นที่มีไส้กรองประเภทไม่สามารถล้างทำความสะอาดเองได้ หรือจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่เท่านั้น หรือต้องให้ช่างของแบรนด์ช่วยดูแลโดยเฉพาะเท่านั้น…

สวัสดีครับ ในบทความนี้เราก็กลับมาพบกันเป็นประจำเช่นเคยนะครับ คราวนี้ PropertyScout จะขอหยิบยก ปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ หรือ ‘กลิ่นอับ’ ภายในบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายคนยังไม่สามารถที่จะแก้ปัญหานี้ให้หมดไป ดังนั้นบทความนี้ก็จะมาเสนอวิธีแก้ปัญหา ‘กลิ่นอับ’ ในบ้านของทุกคนตั้งแต่ในห้องที่มีแอร์ ห้องไม่มีหน้าต่าง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ และจุดอื่น ๆ ภายในบ้าน ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวเราไปดูกันเลยครับ ‘กลิ่นอับ‘ เกิดจากอะไร? สำหรับสาเหตุที่ทำให้ห้องต่าง ๆ ภายในบ้านมีกลิ่นอับนั้นเกิดจากการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย สามารถมาจากหลายสาเหตุด้วยกันครับ ไม่ว่าจะมาจากแอร์ หรือการนำอาหารเข้ามากินในห้อง ทำให้มีกลิ่นของอาหารตลบอบอวลอยู่ นอกจากนั้นการหมักหมมเสื้อผ้าที่ใส่แล้วเอาไว้ภายในห้องก็ยังสามารถ ทำให้กลิ่นอับฟุ้งกระจายในห้องจนมีกลิ่นชวนคลื่นไส้นั่นเอง ดังนั้นการป้องกันไม่ให้มีกลิ่นเหม็นอับในห้อง เราก็จะต้องรู้สาเหตุก่อน เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้อย่างถูกวิธีครับ รวมวิธีกำจัดกลิ่นอับในบ้าน PropertyScout ได้รวบรวมวิธีกำจัดกลิ่นอับในห้องมาเสนอให้กับทุกคนกันครับ เมื่อหาสาเหตุเจอแล้ว วิธีการดังต่อไปนี้จะสามารถช่วยสยบปัญหามลพิษทางจมูกภายในบ้านลงได้อย่างเด็ดขาด และไม่กลับมากวนใจอย่างแน่นอน ช่วยให้ภายในบ้านของกลับมามีกลิ่นที่หอมสะอาดสดชื่น อีกทั้งทำให้สุขภาพของทุกคนในบ้านดีขึ้นด้วยครับ ห้องไม่มีหน้าต่างสำหรับระบายอากาศ ห้องไม่มีหน้าต่างระบายอากาศ หากมีความชื้นเล็ดลอดเข้าไปแล้วทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการสะสมของแบคทีเรียมากกว่าห้องที่มีหน้าต่าง แต่ก็หมดกังวลได้ด้วยวิธีกำจัดปัญหาดังนี้ครับ ห้องติดแอร์ ในห้องแอร์ที่มีกลิ่นอับรุนแรง สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยวิธีดังนี้ครับ คอนโด สำหรับการอยู่คอนโดที่มีหน้าต่างถ่ายเทอากาศน้อย โดยเฉพาะห้องแบบสตูดิโอที่มีหน้าต่างเพียงฝั่งเดียว…

‘คราบหินปูน’ ความสกปรกที่มักจะมาเยือนกระจกในห้องน้ำและสุขภัณฑ์อื่น ๆ อยู่เสมอ ทำให้ห้องน้ำดูไม่น่าใช้ และเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกอันไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะบริเวณกระจก ที่สามารถมองเห็นคราบสกปรกได้ง่าย หากปล่อยท้งไว้ก็อาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ครับ ดังนั้นการหมั่นทำความสะอาดขจัดคราบหินปูน จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันและกำจัดเชื้อโรคต่าง ๆ มาดูวิธีทำความสะอาดกระจก และขจัดคราบหินปูนกับ PropertyScout กันครับ ‘คราบหินปูนบนกระจกห้องน้ำ’ เกิดจากอะไร? คราบหินปูนที่เกาะระจกหรือพื้นห้องน้ำ เกิดจากการสะสมของแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำประปา ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้มีความกระด้างสูง ทำให้บริเวณที่น้ำประปาสัมผัสอยู่เป็นประจำ มักจะเกิดรอยด่างและคราบหินปูนอย่างรวดเร็วครับ ดังนั้นบริเวณกระจก อ่างล้างน้ำ โถสุขภัณฑ์ หรือบริเวณพื้นส่วนเปียก มักจะเป็นบริเวณที่พบเห็นคราบหินปูนเกาะสะสมอยู่จำนวนมาก วิธีสยบคราบหินปูน เดี๋ยวเรามาดูกันว่าวิธีสยบคราบหินปูนบนกระจกห้องน้ำ สามารถทำได้อย่างไรบ้าง PropertyScout คัดเลือกมาโดยเน้นไปที่วิธีแบบออแกนิค เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนครับ กรดมะนาว + น้ำยาล้างจาน สำหรับวิธีการแรกก็คือการใช้กรดของมะนาวที่เป็นกรดอินทรีย์อ่อน ๆ และไม่เป็นอันตรายครับ ให้ผสมกรดมะนาว 100 กรัมเข้ากับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนชา และนำไปผสมกับน้ำสะอาด…