‘ไฟฟ้ารั่ว’ เกิดจากอะไร? มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง?

Author
by
At
พฤษภาคม 7, 2023
'ไฟฟ้ารั่ว' เกิดจากอะไร? มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง? 'ไฟฟ้ารั่ว' เกิดจากอะไร? มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง?

'ไฟฟ้ารั่ว' ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่ใช่แค่อันตรายจากการถูกไฟช็อตจนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ยังมีโอกาสทำให้เกิดไฟไหม้บ้านและสร้างความเสียหายลุกลามเป็นวงกว้างได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นเจ้าของบ้านทุกคนควรรู้วิธีรับมือกับไฟรั่ว เพื่อลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอีกด้วย

'ไฟฟ้ารั่ว' เกิดจากอะไร? มีวิธีป้องกันอย่างไรบ้าง?

ไฟฟ้ารั่วคืออะไร ?

'ไฟฟ้ารั่ว' คือ การที่กระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกจากวงจรไฟฟ้าไปที่ผิวของสายไฟฟ้า หรือโครงโลหะของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หากสัมผัสโดนอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ อย่างเช่น เกิดไฟดูดเมื่อเราไปสัมผัสกับสายไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิดไฟรั่ว ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายและลงสู่พื้นดิน ส่งผลให้หัวใจทำงานผิดปกติ ถ้าไฟมีกำลังแรงอาจทำให้หัวใจเต้นอ่อนลงจนหยุดเต้นและเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งสาเหตุการเกิดไฟรั่วมีหลากหลายปัจจัย ดังต่อไปนี้


สาเหตุของไฟฟ้ารั่ว

multiple-electricity-plugs-attached-to-multi-adapt
สาเหตุของไฟฟ้ารั่ว

สาเหตุหลักลำดับแรกที่ทำให้เกิดปัญหาไฟฟ้ารั่วมักมาจากการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ถูกต้อง และปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้

  • การเสียบปลั๊กทิ้งเอาไว้ แม้จะปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าไปแล้ว แต่กระแสไฟยังคงทำงานอยู่จึงอาจทำให้เกิดการช็อตและไฟรั่วออกมา
  • อุปกรณ์ไฟฟ้าเสื่อมสภาพเนื่องจากใช้งานมาเป็นเวลานาน และไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด เมื่อเปิดใช้ก็ทำให้กระแสไฟรั่วไหล ส่วนใหญ่จุดที่มักเกิดปัญหาไฟรั่วคือสายหุ้มฉนวนที่หมดสภาพ มีร่องรอยความเสียหาย มีปัญหาชำรุดจากการโดนทับ จนทำให้ตัวนำไฟฟ้าเกิดแรงดัน พอไฟฟ้าเจอกับโลหะจึงกลายเป็นกระแสไฟที่รั่วออกมา
  • การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงการเดินสายไฟ การติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในบ้านไม่ดีพอ เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง แรงดันไฟฟ้าที่ทำงานเป็นประจำจะทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวพังเสียหายและเกิดปัญหาไฟรั่วขึ้น

จุดไหนบ้างที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้ารั่ว?

on-fire-electric-wire-plug-receptacle-wall-partiti
จุดเสี่ยงเกิดไฟฟ้ารั่ว

โดยทั่วไปแล้วจุดเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดไฟรั่วได้มากคือบริเวณที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าเป็นประจำ เช่น ปลั๊กตู้เย็นที่ต้องเสียบใช้งานตลอด หรือ ปลั๊กต่อ เป็นต้น รวมถึงจุดที่อยู่ภายนอกบ้านและต้องสัมผัสกับน้ำและสภาพแวดล้อมอื่น ๆ เป็นประจำ อาทิ ปั๊มน้ำ รั้วไฟฟ้า โคมไฟ กริ่งประตูบ้าน เป็นต้น ยิ่งถ้าจุดเสี่ยงไหนต้องเจอกับน้ำบ่อย ๆ ถือว่าอันตรายมาก เพราะน้ำจะเป็นสื่อนำชั้นดีให้กับกระแสไฟที่รั่วออกมาจนอาจทำให้คนในบ้านโดนไฟดูดแบบไม่รู้ตัว

อีกจุดที่มีความเสี่ยงจะเกิดไฟรั่วได้คือ เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือปลั๊กไฟที่ใช้งานมายาวนานมาก ๆ เนื่องจากโอกาสการเสื่อมสภาพมีสูง หากสังเกตว่าการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าดังกล่าวแปลกไปหรือปลั๊กไฟเกิดรอยไหม้ รอยดำ แสดงว่าโอกาสเกิดไฟรั่วก็มีได้เช่นกัน


ไฟฟ้ารั่วสังเกตยังไง?

slotted-test-indicator-slotted-screwdriver-cutout
วิธีสังเกตไฟฟ้ารั่ว

วิธีง่ายที่สุดสำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่ากำลังเกิดปัญหาไฟรั่วในบ้านอยู่หรือไม่ ให้ลองเดินไปดูที่มิเตอร์ไฟฟ้า หากไม่ได้เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้ามากกว่าปกติ แต่มิเตอร์หมุนเร็วก็แสดงว่ามีโอกาสเกิดไฟฟ้ารั่วในบางจุดของบ้านได้ แนะนำให้ซื้อไขควงเช็กไฟติดบ้านเอาไว้ แล้วลองเดินไปตามจุดปลั๊กไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ โดยใช้ไขควงแตะลงไป

การใช้ไขควงเช็กไฟคือให้จับด้ามที่เป็นพลาสติกแล้วหันด้านหัวแหลมเป็นโลหะไปจี้ตามจุด เช่น หากเป็นประเภทปลั๊กไฟให้แตะไปบริเวณรูปลั๊ก ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าให้แตะไปบริเวณที่เป็นโลหะ เมื่อแตะไปแล้วปรากฏว่าไฟสีบริเวณด้ามจับสว่างขึ้น หมายถึงอุปกรณ์ดังกล่าวกำลังมีไฟรั่ว


แก้ไขปัญหาไฟฟ้ารั่วได้อย่างไร?

caucasian-electric-technician-2022-12-16-11-44-51-utc
แก้ไขปัญหาไฟรั่ว

เมื่อรู้ว่าจุดหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชิ้นไหนเกิดปัญหาไฟรั่วขึ้น อย่าให้คนในบ้านเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวเป็นอันขาด ถ้าหากมีความรู้เรื่องไฟฟ้าก็สามารถซ่อมแซมแก้ไขเองได้ แต่ถ้าไม่ได้มีความรู้ในเรื่องนี้ แนะนำให้เรียกช่างไฟเข้ามาช่วยจัดการปัญหาให้ เพราะเรื่องไฟฟ้าจำเป็นต้องให้คนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญจริง ๆ จัดการ เนื่องจากความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายมีสูงมาก

เมื่อแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้วควรให้ช่างไฟช่วยวัดกระแสไฟให้อีกครั้งว่าสามารถใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวได้ตามปกติหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและไม่ก่อให้เกิดอันตรายอื่น ๆ ตามมา แต่ถ้าหากอุปกรณ์ชิ้นไหนใช้งานมานานมากแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ดีกว่าซ่อม เพราะโอกาสที่จะเกิดเหตุไฟรั่วในครั้งถัด ๆ ไปก็มีสูง การป้องกันเอาไว้ก่อนเกิดเหตุจะดีที่สุด


การป้องกันการเกิดไฟรั่ว

man-an-electrical-technician-working-in-a-switchb
ป้องกันการเกิดไฟรั่ว
  • ติดตั้งสายดิน

ให้ติดตั้งสายดินไว้ในตัวบ้านระหว่างการปลูกสร้าง ซึ่งสายดินนี้จะต้องใช้ร่วมกับปลั๊กไฟ 3 รู และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีหัวปลั๊ก 3 ขา เมื่อเกิดกระแสไฟรั่วขึ้นจากอุปกรณ์ดังกล่าว ไฟฟ้าก็จะไหลไปตามสายดินลงสู่พื้นดิน ไม่เกิดอันตรายกับคนในบ้าน


  • ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว

ให้ติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟฟ้าเมื่อเกิดเหตุไฟรั่ว เมื่อไหร่ที่ไฟฟ้ามีการช็อตหรือรั่วออกมา เครื่องดังกล่าวจะตัดกระแสไฟทั้งหมดของบ้านทันที

ทั้งนี้ ควรเลือกปริมาณพิกัดของเครื่องตัดไฟฟ้าให้เหมาะกับระดับกระแสไฟภายในบ้าน หากน้อยเกินไปเมื่อเกิดไฟรั่วจริง ๆ เครื่องจะไม่ทำงาน แต่ถ้าหากมากเกินไปแล้วกระแสไฟที่เกิดขึ้นมากเกินพิกัดจะทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นต้องเลือกให้สามารถปรับระดับกระแสไฟที่รั่วไหลออกมาได้ด้วย เนื่องจากสภาพความชื้นของแต่ละบ้านไม่เท่ากัน ระดับความเร็วในการตัดไฟรั่วต้องไม่เกิน 0.04 วินาที และควรเลือกเครื่องตัดไฟรั่วที่ได้มาตรฐานรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อความมั่นใจเมื่อนำไปใช้งาน


  • ติดแผ่นฉนวนไฟฟ้า

กรณีที่ไม่แน่ใจว่าเกิดไฟรั่วในบ้าน ให้มีแผ่นฉนวนไฟฟ้าติดเอาไว้ เช่น แผ่นยาง พลาสติก แผ่นไม้ แล้วลองเอาไปวางไว้ในบริเวณที่จะเช็คไฟฟ้าเพื่อป้องกันการโดนไฟดูด หากเช็คแล้วว่ามีไฟรั่วจริงก็ให้รีบเรียกช่างไฟเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาให้


สรุปส่งท้าย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเกร็ดความรู้เรื่องสาเหตุของปัญหาและวิธีป้องกันเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้ารั่วที่ PropertyScout นำมาฝากกัน ซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกบ้าน หากรู้ถึงสาเหตุพร้อมวิธีแก้ไขอย่างถูกต้องโดยเร็ว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดอันตราย แต่ก็ขอแนะนำว่าให้เจ้าของบ้านทำการป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างเช่นการติดตั้งสายดินให้ถูกต้อง รวมถึงอุปกรณ์ป้องกันอย่างเครื่องตัดไฟรั่ว และแผ่นฉนวนไฟฟ้า


อ่านบทความ รีวิวโครงการ อัปเดตข่าวเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ได้ที่ PropertyScout Blog

มีคำถาม ข้อสงสัยต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการ เช่า ซื้อ ขาย

คลิกตามด้านล่างได้เลย


อ่านบทความอื่นที่เกี่ยวข้อง คลิก